พบผลลัพธ์ทั้งหมด 147 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2084-2085/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ตามคำพิพากษาเกิดขึ้นเมื่อศาลพิพากษา ไม่ใช่เมื่อรับคำบังคับ และอายุความสะดุดหยุดเมื่อฟ้องล้มละลาย
หนี้เงินที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์นำมาขอรับชำระหนี้เป็นหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งตามมาตรา 145 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ให้ถือว่าผูกพันคู่ความนับตั้งแต่วันที่ศาลได้พิพากษา หนี้เงินตามคำพิพากษาจึงเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ศาลได้พิพากษาหาได้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่จำเลยรับคำบังคับไม่
หนี้เงินตามคำพิพากษาคดีแพ่งนั้น เป็นสิทธิเรียกร้องอันตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษา ซึ่งตามมาตรา 168 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติให้มีกำหนดอายุความ 10 ปี
โจทก์ได้ฟ้องจำเลยให้เป็นบุคคลล้มละลายโดยอาศัยมูลหนี้จำนวนเงินตามคำพิพากษาคดีแพ่งภายในกำหนดอายุความ 10 ปีเมื่อโจทก์ฟ้องคดียังศาลแล้วอายุความย่อมสะดุดหยุดอยู่ตามนัยมาตรา 175 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์คำขอรับชำระหนี้ของโจทก์ยื่นในระหว่างอายุความสะดุดหยุดอยู่จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา94(1)
หนี้เงินตามคำพิพากษาคดีแพ่งนั้น เป็นสิทธิเรียกร้องอันตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษา ซึ่งตามมาตรา 168 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติให้มีกำหนดอายุความ 10 ปี
โจทก์ได้ฟ้องจำเลยให้เป็นบุคคลล้มละลายโดยอาศัยมูลหนี้จำนวนเงินตามคำพิพากษาคดีแพ่งภายในกำหนดอายุความ 10 ปีเมื่อโจทก์ฟ้องคดียังศาลแล้วอายุความย่อมสะดุดหยุดอยู่ตามนัยมาตรา 175 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์คำขอรับชำระหนี้ของโจทก์ยื่นในระหว่างอายุความสะดุดหยุดอยู่จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา94(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องล้มละลายไม่ซ้ำ หากหนี้เดิมยังไม่ตั้งหลักฐาน แต่คดีใหม่มีคำพิพากษาแล้ว
โจทก์เคยฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย โดยอาศัยหนี้ที่ยังมิได้ตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาชั้นที่สุดของศาล ต่อมาหนี้ดังกล่าวได้ตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาชั้นที่สุดของศาลแล้ว โจทก์บังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดได้เงินไม่พอชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องล้มละลายไม่ซ้ำ แม้เคยฟ้องแล้ว แต่หนี้ต่างกัน: หนี้ยังไม่ตั้งหลักฐาน vs. หนี้ตามคำพิพากษา
โจทก์เคยฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย โดยอาศัยหนี้ที่ยังมิได้ตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาชั้นที่สุดของศาล ต่อมาหนี้ดังกล่าวได้ตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาชั้นที่สุดของศาลแล้ว โจทก์บังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดได้เงินไม่พอชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ค่าฤชาธรรมเนียมศาลที่ชำระแล้ว ไม่นำมารวมกับหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อฟ้องล้มละลายได้
การที่จำเลยได้วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาในคดีแพ่งให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี และให้จำเลยชำระแทนนั้น ถือได้ว่าเป็นเงินที่ผู้แพ้คดีได้ชำระหนี้โดยการนำมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ประกอบด้วยมาตรา 247 เมื่อหนี้ตามคำพิพากษามีจำนวนเพียง 27,500 บาท โจทก์จะนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่จำเลยได้นำไปชำระต่อศาลไว้แล้ว จำนวน 2,720 บาท มารวมกับหนี้ตามคำพิพากษา ให้เป็นหนี้ที่มีจำนวนไม่น้อยกว่า 30,000 บาท เพื่อฟ้องเป็นคดีล้มละลายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ตามคำพิพากษาและการนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาหักล้าง การฟ้องล้มละลายต้องมีหนี้ถึงเกณฑ์
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 30,550 บาท แก่โจทก์เป็นค่าธรรมเนียมและค่าทนายความ 3,020 บาท จำเลยวางค่าธรรมเนียมและค่าทนายความต่อศาลแล้ว แม้โจทก์ยังไม่ได้รับไปจากศาลก็ถือว่าหนี้ค้างชำระไม่ถึง 30,000 บาท ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลาย: การบอกกล่าวหนี้ก่อนฟ้องไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เป็นเพียงเหตุสันนิษฐาน
เจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้ให้เป็นบุคคลล้มละลายได้ เมื่อบรรยายฟ้องเข้าหลักเกณฑ์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2511กล่าวคือ ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวเป็นหนี้ไม่น้อยกว่า 30,000 บาท และหนี้นั้นอาจกำหนดจำนวนได้แน่นอน แม้จะอยู่ระหว่างบังคับคดีในหนี้รายเดียวกันในคดีแพ่งสามัญ
การบอกกล่าวให้ชำระหนี้ก่อนไม่น้อยกว่าสองครั้ง มีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน ตามมาตรา 8(9) นั้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวข้อหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่บทบังคับว่าโจทก์ต้องบอกกล่าวเช่นนั้นก่อนฟ้อง
การบอกกล่าวให้ชำระหนี้ก่อนไม่น้อยกว่าสองครั้ง มีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน ตามมาตรา 8(9) นั้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวข้อหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่บทบังคับว่าโจทก์ต้องบอกกล่าวเช่นนั้นก่อนฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกหนี้ร่วม & การบังคับคดี – สิทธิเจ้าหนี้ในการเรียกหนี้จากลูกหนี้แต่ละคน & การฟ้องล้มละลาย
คำพิพากษาในคดีแพ่งที่พิพากษาให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันชำระหนี้ตามฟ้องให้โจทก์โดยให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 รับผิดไม่เกินจำนวนเงินที่ค้ำประกัน หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 3 ออกขายทอดตลาด ถ้าได้เงินไม่พอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 3 ออกขายทอดตลาดชำระจนครบนั้น หมายถึงการบังคับคดีเกี่ยวกับจำเลยที่ 3 ในกรณีที่จำเลยที่ 3 ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาหาได้หมายความว่าให้โจทก์บังคับคดีเอาจากทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 โดยสิ้นเชิงก่อนถ้าได้เงินไม่พอจึงจะบังคับเอาจากทรัพย์สินของจำเลยที่ 4 ไม่จำเลยที่ 4 อยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมโจทก์มีสิทธิที่จะเรียกให้จำเลยคนใดคนหนึ่งชำระหนี้โดยสิ้นเชิงหรือแต่โดยส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 291 โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องและบังคับจำเลยที่ 4 ให้ชำระหนี้ที่ยังเหลือจากที่โจทก์ได้รับจากจำเลยที่ 3 และอาศัยหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งที่กำหนดจำนวนได้แน่นอนไม่น้อยกว่าสามหมื่นบาท เป็นมูลฟ้องให้ล้มละลายได้
จำเลยกล่าวในฎีกาแต่เพียงว่า ยังไม่มีเหตุผลสมควรที่จะให้จำเลยล้มละลายได้มิได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยไม่ใช่บุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือมีฐานะมีทรัพย์สินอาจชำระหนี้ให้ครบได้อย่างไร หรือมีเหตุอื่นใดบ้างที่ไม่ควรให้ล้มละลาย ดังนี้ ฎีกาของจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6)พ.ศ.2518 มาตรา 7 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483 มาตรา 153
จำเลยกล่าวในฎีกาแต่เพียงว่า ยังไม่มีเหตุผลสมควรที่จะให้จำเลยล้มละลายได้มิได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยไม่ใช่บุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือมีฐานะมีทรัพย์สินอาจชำระหนี้ให้ครบได้อย่างไร หรือมีเหตุอื่นใดบ้างที่ไม่ควรให้ล้มละลาย ดังนี้ ฎีกาของจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6)พ.ศ.2518 มาตรา 7 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483 มาตรา 153
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2110/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลาย: เจ้าหนี้ไม่ต้องบรรยายรายละเอียดหนี้สินล้นพ้นตัวในคำฟ้อง เพียงแต่ระบุตามกฎหมาย
ในการฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายนั้น เจ้าหนี้เพียงแต่บรรยายฟ้องว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 9(1) และระบุข้อความอื่นตามมาตรา 9(2) และ 9(3) ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้ว เจ้าหนี้ไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวอย่างไร ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่เจ้าหนี้จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณาว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพันตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1364/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ที่ไม่สมบูรณ์และดอกเบี้ยเกินอัตรา ทำให้ไม่มีหนี้เกิดขึ้น โจทก์ฟ้องล้มละลายไม่ได้
หนี้ตามหนังสือสัญญากู้ที่ฟ้องคือดอกเบี้ยเกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งจำเลยต้องชำระแก่โจทก์ โจทก์หาได้ส่งมอบเงินที่ว่าให้กู้กันนั้นแก่จำเลยไม่ สัญญากู้ที่ฟ้องตกเป็นโมฆะ จึงไม่มีหนี้ตามที่ฟ้อง โจทก์ฟ้องจำเลยให้เป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1364/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ที่ไม่มีการส่งมอบเงินจริง ทำให้สัญญากู้เป็นโมฆะ และไม่สามารถฟ้องล้มละลายได้
หนี้ตามหนังสือสัญญากู้ที่ฟ้องคือดอกเบี้ยเกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งจำเลยต้องชำระแก่โจทก์ โจทก์หาได้ส่งมอบเงินที่ว่าให้กู้กันนั้นแก่จำเลยไม่ สัญญากู้ที่ฟ้องตกเป็นโมฆะ จึงไม่มีหนี้ตามที่ฟ้อง โจทก์ฟ้องจำเลยให้เป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้