พบผลลัพธ์ทั้งหมด 125 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 965/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขอทางจำเป็น: ฟ้องไม่เคลือบคลุมเมื่อระบุที่ตั้งและขอบเขตที่ดินได้ แม้ไม่ระบุที่ดินประโยชน์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า มีทางสายหนึ่งผ่านที่ดินของจำเลย ซึ่งตั้งอยู่ ณ ที่ใดและมีเขตติดต่ออย่างไร โจทก์ใช้ทางมา 33 ปี แล้ว จำเลยปิดทางจึงฟ้องขอให้เปิดโดยมิได้บรรยายว่า เป็นภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินแปลงใดของโจทก์ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์อยู่ที่ใด โจทก์ย่อมนำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกเงินและทำเอกสารปลอม: ฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้มีผิดได้หลายกระทง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานเป็นเสมียนของเทศบาลมีหน้าที่เกี่ยวแก่การเงินและเขียนใบอนุญาตฆ่าสัตว์ เขียนแล้วรับเงินส่งเป็นรายได้เทศบาล จำเลยเขียนใบอนุญาตให้ฆ่าสัตว์แล้วรับเงินแล้วยักยอกเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัวอันเป็นผิด กฎหมายลักษณะอาญา ม.131 และ 319 ใช้ได้ไม่เคลือบคลุมเพราะจำเลยอาจทำผิดได้ทั้งสองอย่าง
จำเลยเป็นเสมียนเทศบาลมีหน้าที่เขียนอาชญาบัตรฆ่าสัตว์แล้วรับเงินค่าธรรมเนียมส่งเป็นรายได้เทศบาล ย่อมเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย
จำเลยเป็นเสมียนเทศบาลมีหน้าที่เขียนอาชญาบัตรฆ่าสัตว์แล้วรับเงินค่าธรรมเนียมส่งเป็นรายได้เทศบาล ย่อมเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1797-1798/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อทางแพ่ง: ฟ้องไม่เคลือบคลุมเมื่อบรรยายเหตุแห่งความเสียหายได้
ในคดีฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความประมาทเลินเล่อในทางแพ่ง เมื่อได้บรรยายฟ้องพอให้เข้าใจได้ว่าข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหามีอยู่อย่างไรแล้ว ก็ถือว่าไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายเรื่องเรือชนกัน เมื่อโจทก์กล่าวว่าเรือจำเลยแล่นกินทางเข้ามาแล้วตีวงมาชนเรือโจทก์ โดยความประมาทเลินเล่อของจำเลย ดังนี้ ก็พอทำให้เข้าใจได้แล้วว่าข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์มีอยู่อย่างไร
ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายเรื่องเรือชนกัน เมื่อโจทก์กล่าวว่าเรือจำเลยแล่นกินทางเข้ามาแล้วตีวงมาชนเรือโจทก์ โดยความประมาทเลินเล่อของจำเลย ดังนี้ ก็พอทำให้เข้าใจได้แล้วว่าข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาของโจทก์มีอยู่อย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดสมคบหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่: ฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้ไม่มีพยานเห็นการกักขัง
ความผิดฐานสมคบหน่วงเหนี่ยวกักขังคนเพื่อสินไถ่นั้นโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้ง 5 สมคบกันกระทำผิดเริ่มแต่วันที่ 13 ธ.ค. ถึง 17 ธ.ค.95 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนอันเป็นเวลาระหว่างที่จำเลยลักพาเด็กไปหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้เพื่อสินไถ่ ไม่จำต้องระบุว่าจำเลยคนใดทำอะไร ความละเอียดนอกจากนี้เป็นข้อที่นำสืบ จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีและไม่หลงข้อต่อสู้ จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
แม้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าจำเลยคนไหนเป็นผู้กักขังหน่วงเหนี่ยวและไม่มีพยานโจทก์เห็นผู้เสียหายถูกกักขังอยู่ในลัง เมื่อเหตุอื่น ๆ ฟังได้ว่าจำเลยสมคบกันหน่วงเหนี่ยวกักขังจริง จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง.
แม้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าจำเลยคนไหนเป็นผู้กักขังหน่วงเหนี่ยวและไม่มีพยานโจทก์เห็นผู้เสียหายถูกกักขังอยู่ในลัง เมื่อเหตุอื่น ๆ ฟังได้ว่าจำเลยสมคบกันหน่วงเหนี่ยวกักขังจริง จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องละเมิดจากการซื้อขายเครื่องสูบน้ำที่พิสูจน์ได้ว่ายักยอกมา ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องไม่เคลือบคลุม
การที่โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความว่าจำเลยหลอกลวงให้โจทก์หลงเชื่อว่าจำเลยเป็นเจ้าของเครื่องสูบน้ำสองเครื่องและโจทก์ตกลงรับซื้อจ่ายราคาให้ 26,640 บาท แล้วโจทก์ขายต่อให้นายอุทัยภายหลังปรากฏว่าเครื่องสูบน้ำ นี้เป็นของกรมชลประทาน จำเลยยักยอกมาตำรวจจึงไปเอาคืนมา โจทก์ได้ชดใช้ราคาเครื่องสูบน้ำแก่นายอุทัยไปแล้วจึงฟ้องให้จำเลยชดใช้ราคาที่จำเลยรับไปจากโจทก์ข้างต้น ดังนี้ถือว่าโจทก์บรรยายเหตุที่จำเลยกระทำละเมิดไว้ชัดเจนและเรียกจำนวนเงินที่จำเลยรับไปจากโจทก์คืนนับว่าเป็นฟ้องที่มีมูลกรณีชัดแจ้งแล้ว
ส่วนข้อที่โจทก์มิได้บรรยายว่าได้จ่ายเงินค่าสูบน้ำแก่นายอุทัยผู้ซื้อจากโจทก์เท่าใดและเมื่อใดนั้นตามฟ้องก็กล่าวพอจะให้เข้าใจได้ว่าใช้ตามราคาที่ขายแก่นายอุทัยและตาม 2 ข้อ นี้ไม่ใช่ประเด็นโดยตรงของการละเมิดฉะนั้นจึงถือได้ว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ส่วนข้อที่โจทก์มิได้บรรยายว่าได้จ่ายเงินค่าสูบน้ำแก่นายอุทัยผู้ซื้อจากโจทก์เท่าใดและเมื่อใดนั้นตามฟ้องก็กล่าวพอจะให้เข้าใจได้ว่าใช้ตามราคาที่ขายแก่นายอุทัยและตาม 2 ข้อ นี้ไม่ใช่ประเด็นโดยตรงของการละเมิดฉะนั้นจึงถือได้ว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดสัญญาซื้อขายปลา การฟ้องไม่เคลือบคลุม และการบังคับใช้ค่าปรับสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาขายปลา เอาปลาไปขายให้แก่ผู้อื่นโดยโจทก์ไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร เช่นนี้ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดสัญญาซื้อขายปลา การฟ้องไม่เคลือบคลุม และการลดค่าปรับ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาขายปลา เอาปลาไปขายให้แก่ผู้อื่นโดยโจทก์ไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใครเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346-1347/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่เคลือบคลุม-สิทธิในการคัดค้านพยาน-ค่าขึ้นศาล: ศาลฎีกาพิพากษายืนคดีขับไล่และให้คืนค่าขึ้นศาลเกิน
ฟ้องโจทก์มีข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา 2 ประการ แม้ข้ออ้างอันหนึ่งจะไม่แสดงแจ้งชัดเป็นฟ้องเคลือบคลุม แต่ข้อหาอีกข้อหนึ่งไม่เคลือบคลุม ฟ้องของโจทก์ก็หาเสียไปทั้งฉบับไม่
ฟ้องที่อ้างว่าจำเลยให้เช่าช่วงบ้านแต่มิได้ระบุว่าให้ใครเช่า เช่าเมื่อใด ค่าเช่าเท่าใดนั้น หาเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่
การคัดค้านการที่ผู้มีหน้าที่นำสืบภายหลังไม่ถามค้านพยานของคู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบก่อนนั้น จะต้องคัดค้านเสียในขณะที่พยานของฝ่ายสืบภายหลังกำลังเบิกความ จะมาคัดค้านในชั้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คดีฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายด้วย ซึ่งเมื่อคำนวณเงินค่าขึ้นศาลตามจำนวนค่าเสียหายแล้วเป็นเงินไม่เกิน 15 บาทคู่ความคงต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 15 บาทเท่านั้น
ฟ้องที่อ้างว่าจำเลยให้เช่าช่วงบ้านแต่มิได้ระบุว่าให้ใครเช่า เช่าเมื่อใด ค่าเช่าเท่าใดนั้น หาเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่
การคัดค้านการที่ผู้มีหน้าที่นำสืบภายหลังไม่ถามค้านพยานของคู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบก่อนนั้น จะต้องคัดค้านเสียในขณะที่พยานของฝ่ายสืบภายหลังกำลังเบิกความ จะมาคัดค้านในชั้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คดีฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายด้วย ซึ่งเมื่อคำนวณเงินค่าขึ้นศาลตามจำนวนค่าเสียหายแล้วเป็นเงินไม่เกิน 15 บาทคู่ความคงต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 15 บาทเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาฐานปลอมแปลงเอกสาร การบรรยายฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้จำเลยอ้างไม่ทราบแหล่งที่มา
ฟ้องโจทก์บรรยายในชั้นต้นว่า จำเลยบังอาจทำหนังสือมอบอำนาจขายที่ดินปลอม แล้วตอนท้ายบรรยายว่า ดังปรากฎตามสำเนาเอกสารปลอมท้ายฟ้อง ซึ่งจำเลยเป็นผู้ปลอมเอง หรือผู้อื่นทำปลอมขึ้น ดังนี้ เมื่อหนังสือปลอมอยู่ในความครอบครองของจำเลยๆ ย่อมรู้ดีว่าจำเลยเองหรือผู้ใดเป็นผู้ปลอมขึ้นและจำเลยได้ใช้หนังสือปลอมนั้นจำเลยย่อมรู้ที่มาของหนังสือปลอมได้ดี ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในทางอรรถคดีจึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพนันสลากกินรวบ: การกระทำความผิดสำเร็จเมื่อขายสลาก และการฟ้องไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยลักเล่นการพนักนสลากกินรวบ พนันเอาทรัพย์สินกัน ขอให้ลงโทษ ดังนี้ ไม่เป็นฟ้อง
เคลือบคลุม เพราะการเล่นการพนันสลากกินรวบนั้น เป็นการพนันประเภท 1 ที่ได้ระบุไว้ใน พ.ร.บ.การพนันแล้ว
ส่วนที่ว่าการพนันสลากกินรวบเล่นกันอย่างใดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะนำสืบในเวลาพิจารณาได้ ไม่จำต้องบรรยายมาในฟ้อง.
ในฟ้องโจทก์บรรยายมาด้วยว่า จำเลยเคยต้องโทษฐานเล่นการพนันมาแล้ว พ้นโทษไปยังไม่เกิน 3 ปี และอ้าง
พ.ร.บ.การพนัน (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2485 มาตรา 3 ซึ่งเป็นบทเพิ่มโทษมาด้วย แม้จะไม่มีคำขอให้เพิ่มโทษจำเลย ก็ถือได้ว่าโจทก์ฟ้องขอให้เพิ่มโทษจำเลยมาด้วยแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้เพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายที่กล่าวได้.
โจทก์นำสืบวิธีเล่นได้ว่า จำเลยขายสลากให้แก่ผู้ซื้อ โดยถือเอาเลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาล
งวดที่จะออกต่อไปเป็นหลักแพ้ชนะ ถ้าเลขสลากที่ผู้ซื้อตรงกับเลขท้าย 3 ตัวที่ออก ผู้ขายก็จะต้องใช้เงินให้ผู้ซื้อ ดังนี้
ฟังได้ว่า จำเลยเป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบแล้ว และแม้ว่า จำเลยจะถูกจับเสียก่อนวันที่สลากกินแบ่งใน
งวดนั้นจะออกก็ดี ก็ถือได้ว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว ตั้งแต่เมื่อจำเลยขายสลากให้แก่ผู้ซื้อไป./
เคลือบคลุม เพราะการเล่นการพนันสลากกินรวบนั้น เป็นการพนันประเภท 1 ที่ได้ระบุไว้ใน พ.ร.บ.การพนันแล้ว
ส่วนที่ว่าการพนันสลากกินรวบเล่นกันอย่างใดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะนำสืบในเวลาพิจารณาได้ ไม่จำต้องบรรยายมาในฟ้อง.
ในฟ้องโจทก์บรรยายมาด้วยว่า จำเลยเคยต้องโทษฐานเล่นการพนันมาแล้ว พ้นโทษไปยังไม่เกิน 3 ปี และอ้าง
พ.ร.บ.การพนัน (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2485 มาตรา 3 ซึ่งเป็นบทเพิ่มโทษมาด้วย แม้จะไม่มีคำขอให้เพิ่มโทษจำเลย ก็ถือได้ว่าโจทก์ฟ้องขอให้เพิ่มโทษจำเลยมาด้วยแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้เพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายที่กล่าวได้.
โจทก์นำสืบวิธีเล่นได้ว่า จำเลยขายสลากให้แก่ผู้ซื้อ โดยถือเอาเลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาล
งวดที่จะออกต่อไปเป็นหลักแพ้ชนะ ถ้าเลขสลากที่ผู้ซื้อตรงกับเลขท้าย 3 ตัวที่ออก ผู้ขายก็จะต้องใช้เงินให้ผู้ซื้อ ดังนี้
ฟังได้ว่า จำเลยเป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบแล้ว และแม้ว่า จำเลยจะถูกจับเสียก่อนวันที่สลากกินแบ่งใน
งวดนั้นจะออกก็ดี ก็ถือได้ว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว ตั้งแต่เมื่อจำเลยขายสลากให้แก่ผู้ซื้อไป./