คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ละเมิดสิทธิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 128 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดสิทธิจากรถขายฝาก แม้ไม่รู้สถานะก็ต้องรับผิด
จำเลยที่ 1 ขายฝากรถยนต์ 1 คันไว้แก่โจทก์ ครบกำหนดไถ่แล้วไม่ไถ่คืน โจทก์จึงโอนทะเบียนเป็นชื่อโจทก์ในระหว่างขายฝากจำเลยที่ 1 ยืมรถยนต์ที่ขายฝากไปใช้ว่าจะส่งคืนใน 3 วัน แล้วไม่ส่งคืน จำเลยที่ 2เอารถยนต์นั้นไปใช้ต่างจังหวัด จนรถยนต์ชำรุดเสียหายดังนี้ จำเลยที่ 2 ก็ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ด้วย เพราะเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ แม้จำเลยที่ 2 จะไม่รู้ว่ามีการขายฝาก ก็ไม่เป็นข้อแก้ตัวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าห้ามเช่าช่วง: การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นละเมิดสิทธิผู้ให้เช่า
สัญญาเช่ามีข้อความระบุไว้ชัดว่า ผู้เช่าจะไม่เอาสถานที่เช่าไปให้เช่าช่วงเป็นอันขาดเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร ฉะนั้นเมื่อผู้เช่าเอาสถานที่ไปให้เช่าช่วงโดยไม่ได้รับคำอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าแล้วผู้เช่าช่วงจะอ้างการเช่าระหว่างตนกับผู้เช่ามายันผู้ให้เช่าไม่ได้ และต้องถือว่า ผู้เช่าช่วงเป็นผู้เข้าอยู่โดยละเมิดสิทธิของผู้ให้เช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นสิ้นสุดตามสิทธิเจ้าของโรงเรือน ละเมิดสิทธิเจ้าของที่ดิน
ข้อฎีกาที่ว่าศาลล่างไม่ฟังข้อเท็จจริงตามที่ควรจะฟังนั้น เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงส่วนฎีกาที่ว่าศาลล่างฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีถ้อยคำสำนวนสนับสนุนนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
เจ้าของที่ดินฟ้องเจ้าของโรงเรือน ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินนั้นให้รื้อถอนโรงเรือนไปจนยอมความกันจะรื้อถอนโรงเรือนไปแล้ว แต่ไม่สามารถรื้อได้เพราะมีผู้เช่าโรงเรือนนั้นอยู่ ไม่ยอมออกไป ดังนี้ ถือได้ว่าการที่ผู้เช่าโรงเรือนไม่ยอมออกไปเป็นเหตุให้เจ้าของโรงเรือนรื้อไม่ได้ตามที่ตกลงไว้กับเจ้าของที่ดินย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของเจ้าของที่ดิน ๆ จึงฟ้องขับไล่ผู้เช่าโรงเรือนให้ออกไปจากโรงเรือนได้ ผู้เช่าจะอ้างว่าได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ก็ไม่ได้ เพราะผู้เช่าอยู่ในโรงเรือนโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของโรงเรือนเมื่อเจ้าของโรงเรือนเองก็หมดอำนาจไปแล้ว สิทธิของผู้เช่าอยู่ก็หมดไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้เช่า: กรณีแม่ของผู้เช่า ศาลยกฟ้องเนื่องจากไม่มีละเมิดสิทธิ
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากบ้านเช่าของโจทก์โดยอ้างว่า จำเลยอยู่โดยไม่มีสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งเป็นการละเมิดต่อโจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า เป็นมารดาของผู้เช่าบ้านรายนี้และได้อยู่ในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ดังนี้ เมื่อโจทก์แถลงรับว่าความจริงจำเลยเป็นมารดาของผู้เช่าบ้านรายนี้และได้อยู่ร่วมกับผู้เช่าในบ้านนี้ตั้งแต่เดิมมาภายหลังผู้เช่า ไม่มีตัวอยู่ในบ้านนี้โจทก์จึงบอกเลิกการเช่าแต่ไม่มีผู้ใดรับหนังสือบอกเลิกการเช่าไว้ดังนี้ คดีย่อมฟังได้ว่าไม่มีการละเมิดสิทธิโจทก์แต่อย่างใด ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายทรัพย์สินโดยไม่มีอำนาจ และการรื้อถอนทรัพย์สินของผู้อื่น ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิและต้องรับผิดในค่าเสียหายร่วมกัน
เอาเรือนและครัวไฟของผู้อื่นไปขาย โดยไม่มีอำนาจ ผู้ซื้อก็ทราบแต่ยังขืนรับซื้อไว้ แล้วรื้อครัวไฟนั้นไป ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของเจ้าของผู้ที่รู้เห็นในการซื้อขายรายนี้มาแต่ต้น เมื่อไป่วยผู้ซื้อรื้อด้วย ก็ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของเจ้าของด้วย ผู้ลงมือกระทำต้องรับผิดในค่าเสียหายร่วมกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจผู้รับมอบอำนาจ: การฟ้องขับไล่จากสัญญาเช่าและการละเมิดสิทธิทรัพย์สินของวัด
ใบมอบอำนาจของเจ้าอาวาสวัดมีข้อความว่า "....เพราะฉะนั้นขอมอบหมายให้ท่าน (นายชวน) เป็นผู้มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับผลประโยชน์ในที่ธรณีสงฆ์ และทรัพย์สินของวัดที่ได้รับมอบคืนมาจากกรมการศาสนาทั้งหมดนั้น ตลอดจนเป็นผู้แทนวัดทุกกรณี และเมื่อมีผู้ใดทำการละเมิดอันเป็นเหตุให้ที่ธรณีสงฆ์และทรัพย์สินของวัดเสียหายขาดประโยชน์ก็ให้มีอำนาจดำเนินคดียื่นฟ้องต่อศาล ตลอดจนปราณีประนอมยอมความและแต่งทนายได้ด้วย......." ดังนี้ ย่อมกินถึงการดำเนินคดีที่มีผู้ล่วงเกินสิทธิของวัด อันเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของวัดเสียหายหรือขาดประโยชน์ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการล่วงเกินโดยทำผิดสัญญาหรือโดยประการอื่น ฉะนั้นผู้รับมอบอำนาจจึงมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าห้องแถวของวัด โดยอ้างว่าผู้เช่าทำผิดสัญญาเช่าได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 543/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดสิทธิเนื่องจากเสียงดังรบกวนและเขม่าควัน การบังคับห้ามใช้เครื่องจักร
โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยมิให้ใช้เครื่องจักรโรงน้ำแข็งให้เกิดเสียงดังอันก่อความรำคาญให้แก่โจทก์ ศาลชั้นต้นได้ไปตรวจดูสถานที่เกิดเหตุแล้วพิพากษาห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องจักรให้เกิดเสียงดังอันเป็นการก่อความรำคาญให้แก่โจทก์ต่อไป ดังนี้ ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้ให้ยกข้อที่บังคับห้ามมิให้ใช้เครื่องจักรนั้นเสียจึงไม่ชอบ เพราะศาลชั้นต้นมิได้ห้ามการใช้เครื่องจักรนั้นเสียเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2005/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้ปลูกสร้างอาคารล้ำหลังคา ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ และไม่มีอำนาจฟ้องหากไม่เกิดความเสียหาย
การที่ยอมให้ผู้ครอบครองที่ดินใกล้เคียงปลูกอาคาร หลังคาเหลื่อมล้ำคลุมหลังคาเรือนของตนบางส่วนเช่นนี้ ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องขอให้รื้อถอนไป และแม้ผู้ปลูกสร้างอาคารในที่ดินใกล้เคียงจะปลูกผิดเทศบัญญัติก็ดี หากมิได้ละเมิดสิทธิโจทก์ โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิสภาพบุคคลและการละเมิดสิทธิจากการสั่งห้ามอุปสมบท: คดีไม่ใช่การลงทัณฑกรรมและการใช้สิทธิภายในกรอบกฎหมาย
สิทธิแห่งสภาพบุคคลหมายถึงสิทธิดังเช่นที่บัญญัติไว้ในประมวลแพ่ง ฯ บรรพ 1 ลักษณะ 2 ซึ่งในส่วนที่ 1 ก็ใช้คำว่า "สภาพบุคคล" เช่นเดียวกัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าคณะตรวจการภาค 2 และจำเลยที่ 2 เป็นผู้รักษาการแทนสังฆนายก โจทก์ถูกจำเลยที่ 1 บังคับให้สึกจากพระภิกษุ และเมื่อสึกแล้วจำเลยที่ 2 ได้สั่งห้ามมิให้โจทก์อุปสมบทการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการละเมิดสิทธิโจทก์ ดังนี้ ไม่ใช่เป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิตามสภาพบุคคล โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
สำหรับจำเลยที่ 1 แม้จะบอกให้โจทก์สึก แต่โจทก์ก็ยอมสึกเอง จะว่าจำเลยที่ 1 ลงทัณฑกรรมแก่โจทก์ไม่ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 ที่ห้ามไม่ให้อุปัชฌาย์อุปสมบทให้โจทก์นั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่า ถ้าโจทก์จะบวชคณะสงฆ์จะต้องยอมให้บวช หรืออุปัชฌาย์จะต้องบวชให้ ฉะนั้นจึงเป็นสิทธิของคณะสงฆ์และผู้เป็นอุปัชฌาย์ที่จะยอมรับให้บวชหรือจะบวชให้หรือไม่ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นละเมิดตามมาตรา 420 และทั้งไม่เข้าตามมาตรา 421, 422 ด้วย
อนึ่งจะว่าคำสั่งจำเลยที่ 2 เป็นการเพิ่มทัณฑกรรมอันขัดต่อ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2484 มาตรา 23 และประมวลระเบียบวิธีพิจารณาวินิจฉัยอธิกรณ์มาตรา 107 ก็ไม่ได้ เพราะประการแรกคำแนะนำของจำเลยที่ 1 ไม่ใช่เป็นการลงทัณฑกรรมดังกล่าว คำสั่งของจำเลยที่ 2 ก็เป็นการเพิ่มทัณฑกรรมไม่ได้ ประการที่ 2 มาตรา 23 และมาตรา 107 ดังกล่าวเป็นบทบัญญัติสำหรับสงฆ์เมื่อโจทก์ได้สึกจากสมณะเพศแล้วคำสั่งของจำเลยที่ 2 จึงไม่ใช่เป็นการลงทัณฑ์กรรมตามกฎหมายนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บอกเลิกสัญญาเช่าก่อนมี พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผู้เช่าไม่ส่งมอบทรัพย์สิน ถือละเมิดสิทธิ ไม่ได้รับความคุ้มครอง
บอกเลิกสัญญาเช่าถูกต้องตามสัญญาแล้ว ผู้เช่ามีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินที่เช่า ถ้าไม่ยอมส่งมอบ ก็เป็นผู้ยึดถือทรัพย์สินของเขาไว้โดยชอบ เป็นผู้ละเมิดสิทธิไม่ใช่ผู้เช่าต่อไป
บอกเลิกสัญญาเช่าก่อนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าใน ภาวะคับขัน 2489 ผู้เช่าไม่ยอมออก จนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 แล้ว ผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.นี้ เพราะไม่ได้เป็นผู้เช่าแล้ว
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 คุ้มครองแต่ฉะเพาะผู้เช่าในวันใช้ พ.ร.บ.นั้นเป็นต้นมา.
of 13