พบผลลัพธ์ทั้งหมด 248 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2952/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวงในคดีอาญาและคำขอเรียกทรัพย์สินคืน แม้ราคาทรัพย์สูงกว่าข้อจำกัด
คดีจำเลยต้องหาว่ากระทำผิดฐานยักยอกซึ่งอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวงนั้น แม้โจทก์จะขอให้ใช้ราคาทรัพย์มากมายเพียงใด ศาลแขวงก็มีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2952/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวงในการพิจารณาคดีอาญาที่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย แม้เกินหนึ่งหมื่นบาท
คดีจำเลยต้องหาว่ากระทำผิดฐานยักยอกซึ่งอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวงนั้น แม้โจทก์จะขอให้ใช้ราคาทรัพย์มากมายเพียงใด ศาลแขวงก็มีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวงจำกัดเฉพาะบทลงโทษไม่เกิน 3 ปี แม้มีบทหนักกว่า หากฟ้องรวมกันถือเป็นคดีนอกอำนาจ
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญา ที่มีอัตราโทษอย่างสูงตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้จำคุกไม่เกิน 3 ปีเมื่อฟ้องของโจทก์เป็นการขอให้ลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352, 354 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี และ 5 ปีตามลำดับและ เป็นกรณีที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิด กรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทด้วยกัน ซึ่งหากพิจารณา ได้ข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์แล้ว ศาลก็ต้องใช้มาตรา 354 ซึ่งเป็นบทหนักมาเป็นบทลงโทษจำเลยจึงเกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาแม้ความผิดตามบทกฎหมายที่เบากว่าจะอยู่ในอำนาจศาลแขวง แต่เมื่อความผิดตามบทหนักเกินอำนาจศาลแขวงแล้ว ก็ต้องถือว่าคดีนี้เป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวงเพราะคำฟ้องของโจทก์กล่าวหาจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวไม่อาจแบ่งแยกข้อหาตามมาตรา 352 และมาตรา 354 ออกจากกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3705/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง คดีฉ้อโกงในศาลแขวง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยให้เหตุผลในการตัดสินว่ากรณียังไม่มีพฤติการณ์ที่จะแสดงว่าจำเลยทั้งสองส่อเจตนาฉ้อโกงโจทก์ เป็นการยกฟ้องในปัญหาข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่มีเจตนากระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 โจทก์อุทธรณ์ว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้สมคบกันหลอกลวงอันเป็นการฉ้อโกงโจทก์ จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษายกอุทธรณ์โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3642/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตฎีกาข้อเท็จจริงในคดีที่ต้องห้ามตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คดีที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 22 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 เมื่อในชั้นอุทธรณ์ไม่มีการอนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์ก็ไม่รับวินิจฉัยข้อเท็จจริง การที่ศาลชั้นต้นเพิ่งจะอนุญาตให้ฎีกาข้อเท็จจริงในชั้นฎีกานั้น ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา เพราะไม่มีบทกฎหมายใดให้อำนาจเช่นนั้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3693/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้การปฏิเสธกับการคืนตัวผู้ต้องหา: ศาลชอบที่จะสั่งคืนตัวเพื่อดำเนินการต่อไปเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธและไม่มีเงินต่อสู้คดี
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควรและด่าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุข จำเลยให้การว่าได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อพูดขอยืมเงิน เป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างว่าเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยมีเหตุอันสมควรอันเป็นคำให้การปฏิเสธและเมื่อจำเลยให้การต่อไปว่า ไม่มีเงินต่อสู้คดีขอรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ จึงต้องถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลแขวงชอบที่จะสั่งให้โจทก์รับตัวจำเลยคืนเพื่อดำเนินการต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2746/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการอุทธรณ์คดีอาญา: ข้อเท็จจริง vs. ข้อกฎหมาย และข้อจำกัดตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวง
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์เพราะคดีขาดอายุความ โดยฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2521 โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์ทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2523 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความนั้น เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง มาตรา 22
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องมีเหตุผลชัดเจนตามมาตรา 22 ทวิ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวง
ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาในศาลแขวงสั่งคำร้องที่โจทก์ขออนุญาตอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงว่า "อนุญาตสำเนาให้จำเลย" นั้น เป็นคำสั่งอนุญาตลอย ๆ โดยมิได้ชี้แจงแสดงเหตุผลให้ปรากฏในคำสั่งว่า ข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลอุทธรณ์แต่ประการใดเลยจึงถือไม่ได้ว่าผู้พิพากษานั้นได้มีคำสั่งอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามนัยที่บัญญัติไว้ในมาตรา 22 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อุทธรณ์ข้อเท็จจริงในศาลแขวงและข้อจำกัดการฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คดียักยอกทรัพย์ที่ฟ้องต่อศาลแขวงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352,353 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ร่วมอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง โจทก์ร่วมอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่รับอุทธรณ์ตามศาลชั้นต้น คำสั่งนี้เป็นที่สุดโจทก์ร่วมฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3314/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาเกินกำหนดเวลาตามกฎหมายศาลแขวงและการขาดอำนาจฟ้อง
จำเลยถูกจับ 2 ข้อหา ฐานดูดทรายในแม่น้ำเจ้าพระยา กับควบคุมเรือยนต์และเครื่องจักรเรือยนต์โดยไม่มีประกาศนียบัตร นำส่งอัยการอัยการไม่ฟ้องฐานดูดทรายซึ่งอยู่ในอำนาจศาลจังหวัด พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฐานควบคุมเรือยนต์ฯอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งแรกอัยการมิได้ขอผัดฟ้อง และมิได้รับอนุญาตให้ฟ้องเกินกำหนดจากอธิบดีกรมอัยการ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง