พบผลลัพธ์ทั้งหมด 222 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2843/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดอำนาจพนักงานสอบสวนในการกำหนดหลักประกันเกินจำนวนเงินตามเช็ค สัญญาประกันไม่เป็นโมฆะ
การที่พนักงานสอบสวนสั่งปล่อยชั่วคราว โดยกำหนดหลักประกันเกินจำนวนเงินตามเช็คเป็นแต่เพียงการกระทำที่เกินอำนาจของพนักงานสอบสวน สัญญาประกันมิได้ตกเป็นโมฆะ ดังนั้นเมื่อมีการผิดสัญญาประกัน จึงใช้บังคับนายประกันได้เพียงเท่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้คือไม่เกินจำนวนเงินตามเช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2661/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยสมบูรณ์ก่อนเกิดเหตุปล้นทรัพย์ ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดค่าสินไหมทดแทน
โจทก์ที่ 2 ทำสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขรถยนต์คันพิพาทมาจากโจทก์ที่ 1 แล้วโจทก์ที่ 2 นำรถไปประกอบการขนส่ง โจทก์ที่ 2 จึงเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันพิพาทอันมีส่วนได้เสียที่จะเอาประกันภัยได้
ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันภัยมีลายมือชื่อผู้จัดการของจำเลย และมีรายละเอียดต่าง ๆ คือ หมายเลขทะเบียนและรายละเอียดอื่นเกี่ยวกับรถยนต์ที่เอาประกันภัย ทุนประกัน ระยะเวลาประกัน ทั้งระบุหมายเลขของกรมธรรม์ด้วย ดังนี้ ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันภัยดังกล่าวย่อมเป็นหลักฐานเป็นหนังสือที่จะฟ้องร้องบังคับคดีกันได้
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2524 โจทก์ที่ 2 ได้โทรศัพท์ทางไกลจากจังหวัด มุกดาหาร ขอเสนอเอาประกันภัยรถยนต์คันพิพาทกับตัวแทนของจำเลยประจำจังหวัด อุบลราชธานี ตัวแทนจำเลยได้ออกใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันภัยของจำเลยให้แก่โจทก์ที่ 2 ในวันนั้น โดยระบุระยะเวลาประกันเริ่มวันที่ 3 พฤษภาคม 2524 สิ้นสุด 3 พฤษภาคม 2525 เวลา 0.01 นาฬิกา ตัวแทนจำเลยได้โทรเลขแจ้งจำเลยที่ กรุงเทพมหานครจำเลยได้รับโทรเลขวันที่ 4 เดือนเดียวกัน วันที่ 4 พฤษภาคม 2524 โจทก์ที่ 2 ได้ส่งตั๋วแลกเงินชำระเบี้ยประกันภัยให้ตัวแทนจำเลยและวันที่ 6 เดือนเดียวกันจำเลยได้ออกกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คันพิพาท ดังนี้ ต้องถือว่าการประกันภัยรายนี้ได้ตกลงกันแล้วระหว่างโจทก์ที่ 2 กับตัวแทนจำเลยในวันที่ 2 พฤษภาคม 2524 เมื่อรถยนต์คันพิพาทถูกคนร้ายปล้นเอาไปตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2524 เวลา22 นาฬิกา จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ทั้งสอง
ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันภัยมีลายมือชื่อผู้จัดการของจำเลย และมีรายละเอียดต่าง ๆ คือ หมายเลขทะเบียนและรายละเอียดอื่นเกี่ยวกับรถยนต์ที่เอาประกันภัย ทุนประกัน ระยะเวลาประกัน ทั้งระบุหมายเลขของกรมธรรม์ด้วย ดังนี้ ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันภัยดังกล่าวย่อมเป็นหลักฐานเป็นหนังสือที่จะฟ้องร้องบังคับคดีกันได้
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2524 โจทก์ที่ 2 ได้โทรศัพท์ทางไกลจากจังหวัด มุกดาหาร ขอเสนอเอาประกันภัยรถยนต์คันพิพาทกับตัวแทนของจำเลยประจำจังหวัด อุบลราชธานี ตัวแทนจำเลยได้ออกใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันภัยของจำเลยให้แก่โจทก์ที่ 2 ในวันนั้น โดยระบุระยะเวลาประกันเริ่มวันที่ 3 พฤษภาคม 2524 สิ้นสุด 3 พฤษภาคม 2525 เวลา 0.01 นาฬิกา ตัวแทนจำเลยได้โทรเลขแจ้งจำเลยที่ กรุงเทพมหานครจำเลยได้รับโทรเลขวันที่ 4 เดือนเดียวกัน วันที่ 4 พฤษภาคม 2524 โจทก์ที่ 2 ได้ส่งตั๋วแลกเงินชำระเบี้ยประกันภัยให้ตัวแทนจำเลยและวันที่ 6 เดือนเดียวกันจำเลยได้ออกกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คันพิพาท ดังนี้ ต้องถือว่าการประกันภัยรายนี้ได้ตกลงกันแล้วระหว่างโจทก์ที่ 2 กับตัวแทนจำเลยในวันที่ 2 พฤษภาคม 2524 เมื่อรถยนต์คันพิพาทถูกคนร้ายปล้นเอาไปตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2524 เวลา22 นาฬิกา จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2306/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องประกันชีวิต: ใช้ อายุความทั่วไป 10 ปี หากไม่มีกฎหมายเฉพาะ
การฟ้องร้องเรียกเงินตามสัญญาประกันชีวิต มิได้มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้เป็นพิเศษ จึงต้องใช้อายุความทั่วไปมีกำหนดสิบปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 164.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนหนังสือมอบอำนาจปลอมเพื่อพิสูจน์ความสมบูรณ์ของสัญญาประกันตัว จำเป็นต้องมีการสืบพยานหลักฐานก่อนวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปรับผู้ร้องตามสัญญาประกัน ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องไม่เคยประกันหรือมอบให้ผู้ใดประกันจำเลย ผู้ร้องได้นำหนังสือมอบอำนาจให้ทำ นิติกรรมขายที่ดินตามแบบพิมพ์ของกรมที่ดินซึ่งผู้ร้องลงชื่อในช่องผู้มอบอำนาจ มอบให้ จ. ผู้ซื้อที่ดินไปโอนที่ดินตามหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย แต่ จ. ได้ลงข้อความปลอมเป็นว่ามอบอำนาจให้ค้ำประกันจำเลย ดังนี้ ประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยคือหนังสือมอบอำนาจของผู้ร้องปลอมหรือไม่ หากฟังว่า หนังสือมอบอำนาจปลอม สัญญาประกันที่ จ. ทำไว้ก็เป็นโมฆะไม่ผูกพันผู้ร้อง คำร้องของผู้ร้องจึงมีเหตุสมควรที่จะต้องทำการไต่สวนให้ได้ความชัดในประเด็นดังกล่าวก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจปลอมมีผลให้สัญญาประกันเป็นโมฆะ ศาลต้องไต่สวนเพื่อพิสูจน์ความจริง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปรับผู้ร้องตามสัญญาประกัน ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องไม่เคยประกันหรือมอบให้ผู้ใดประกันจำเลย ผู้ร้องได้นำหนังสือมอบอำนาจให้ทำนิติกรรมขายที่ดินตามแบบพิมพ์ของกรมที่ดินซึ่งผู้ร้องลงชื่อในช่องผู้มอบอำนาจ มอบให้ จ.ผู้ซื้อที่ดินไปโอนที่ดินตามหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย แต่ จ.ได้ลงข้อความปลอมเป็นว่ามอบอำนาจให้ค้ำประกันจำเลย ดังนี้ ประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยคือหนังสือมอบอำนาจของผู้ร้องปลอมหรือไม่หากฟังว่า หนังสือมอบอำนาจปลอม สัญญาประกันที่ จ. ทำไว้ก็เป็นโมฆะไม่ผูกพันผู้ร้อง คำร้อง ของ ผู้ร้องจึงมีเหตุสมควรที่จะต้องทำการไต่สวนให้ได้ความชัดในประเด็นดังกล่าวก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดสัญญาประกันเนื่องจากจำเลยไม่มาศาลหลังโจทก์ถอนฟ้องคดีความผิดอันยอมความได้ ศาลพิจารณาเหตุผลและลดค่าปรับ
ในคดีความผิดอันยอมความได้ จำเลยให้การรับสารภาพและได้ประกันตัว โจทก์ยื่นคำร้องก่อนวันนัดฟังคำพิพากษาว่า จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว ขอถอนฟ้อง ถึงวันนัดจำเลยไม่มาศาลก็ต้องถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ประกันตามสัญญาประกันภัย กรณีศาลไม่อาจส่งหมายนัดได้เนื่องจากที่อยู่ไม่ถูกต้อง
ผู้ประกันระบุที่อยู่ตามคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันคนละแห่งกัน และผู้ประกันมิได้แจ้งเหตุผลหรือแถลงให้ได้ความชัดว่าที่อยู่ที่แท้จริงอยู่แห่งใด เมื่อไม่อาจติดต่อผู้ประกันโดยวิธีส่งหมายนัดและปิดหมายได้ จนต้องมีการปิดประกาศวันนัดฟังคำพิพากษาไว้ที่หน้าศาลถือได้ว่าผู้ประกันทราบนัดโดยชอบแล้ว ผู้ประกันไม่นำตัวผู้ถูกกล่าวหามาส่งศาลตามนัดจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาประกัน.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2908/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับมอบอำนาจประกันตัวจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์เรื่องค่าปรับ หากผู้ประกันผิดสัญญา
ศาลสั่งปรับผู้ประกันเพราะผิดสัญญาประกันไม่นำตัวจำเลยมามอบต่อศาลตามนัด ผู้รับมอบอำนาจให้นำหนังสือรับรองการทำประโยชน์มายื่นต่อศาลและทำสัญญาประกันตัวจำเลยแทนผู้ประกัน ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ลดค่าปรับตามสัญญาประกัน ทั้งไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นและฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับเรื่องค่าปรับตามสัญญาประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3312/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างสัญญาประกันชีวิตเนื่องจากเจ็บป่วย แต่ไม่แจ้งความจริง ศาลพิจารณาว่าไม่เป็นเหตุให้บอกล้างสัญญาได้
ท. เคยถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บกระสุนปืนเข้ากระดูกสันหลัง ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ท. ทำสัญญาประกันชีวิตไว้กับจำเลย ก่อนทำสัญญาประกันชีวิต แพทย์ตรวจร่างกาย ท.และมีความเห็นว่า ท. มีสุขภาพปกติเหมือนบุคคลธรรมดาทั่วไปต่อมารถบรรทุกชนรถจักรยานยนต์ที่ ท.ขับขี่ท. ถึงแก่กรรมดังนี้ จำเลยมิได้นำสืบว่าอาการบาดเจ็บที่ ท. ได้รับมาจากการถูกยิงจะเป็นสาเหตุให้ ท. ถึงแก่กรรมเร็วกว่าระยะเวลาในสัญญาประกันชีวิต และเหตุที่ ท. ถึงแก่กรรมก็มิใช่เกิดจากอาการบาดเจ็บที่เคยได้รับจากการถูกยิง ฉะนั้น การที่ ท. มิได้แถลงว่าเคยเจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจึงไม่อาจอนุมานได้ว่าถ้า ท. เปิดเผยความจริงเช่นนั้นจะจูงใจให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาหรือเรียกเบี้ยประกันสูงขึ้น อันจะทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ จำเลยจึงบอกล้างสัญญาประกันชีวิตไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3039/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการใช้ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 196 กับอำนาจคุมขังจำเลยในชั้นพิจารณา และความชอบธรรมของสัญญาประกัน
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 ซึ่งได้ยกเลิกและบัญญัติความใหม่เกี่ยวกับการควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ในมาตรา 5(1) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ นั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอำนาจการควบคุมผู้ต้องหาที่ได้กระทำความผิดดังกล่าวในชั้นสอบสวนเท่านั้น ไม่รวมถึงอำนาจคุมขังจำเลยในชั้นพิจารณาของศาล ซึ่งคงเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 ข้อ 2 ที่บัญญัติให้พนักงานสอบสวนหรือศาลดำเนินการปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยตามความในมาตรา 5ของพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯนั้น เป็นบทบัญญัติที่ใช้เฉพาะผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกควบคุมหรือต้องขังอยู่ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวในวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 มีผลใช้บังคับเท่านั้น หาใช่เป็นการตัดอำนาจศาลในการคุมขังจำเลยในระหว่างพิจารณาภายหลังวันดังกล่าวไม่.
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 ข้อ 2 ที่บัญญัติให้พนักงานสอบสวนหรือศาลดำเนินการปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยตามความในมาตรา 5ของพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯนั้น เป็นบทบัญญัติที่ใช้เฉพาะผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกควบคุมหรือต้องขังอยู่ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวในวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 มีผลใช้บังคับเท่านั้น หาใช่เป็นการตัดอำนาจศาลในการคุมขังจำเลยในระหว่างพิจารณาภายหลังวันดังกล่าวไม่.