พบผลลัพธ์ทั้งหมด 257 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาในคดีแพ่ง และหน้าที่การนำสืบของโจทก์เมื่อจำเลยปฏิเสธความประมาท
ล.กับศ.ขับรถกระแทกกันเป็นเหตุให้ ม.ตกจากรถถึงแก่ความตาย อัยการได้ฟ้อง ล.เป็นคดีอาญาฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้คนตาย โดยระบุในฟ้องและนำสืบว่า ล.กับศ.ต่างขับรถสวนกันด้วยความประมาทจึงเกิดเหตุและศาลก็ได้อาศัยข้อเท็จจริงนั้นพิพากษาว่า ล.มีความผิด ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่า ศาลมิได้ชี้ขาดว่า ล.กระทำการโดยประมาทแต่ฝ่ายเดียวและเมื่ออัยการโจทก์เป็นผู้ดำเนินคดีอาญานั้นแทนบิดาของม.ผู้ตาย ต่อมาเมื่อบิดาของผู้ตายมาฟ้อง ล.กับนายจ้างเป็นคดีแพ่งเรียกร้องให้ใช้ค่าปลงศพและค่าขาดไร้อุปการะ ข้อเท็จจริงที่ว่า ล.มิได้กระทำการโดยประมาทแต่ฝ่ายเดียวนั้น ย่อมมีผลผูกพันโจทก์ในคดีแพ่งนี้ด้วย ส่วนนายจ้างของ ล.นั้น ถ้าให้การปฏิเสธว่า ล.จำเลยมิได้ประมาท โจทก์จะต้องนำสืบด้วยว่า ล.ได้ขับรถโดยประมาท เพราะข้อเท็จจริงในคดีอาญาไม่มีผลผูกพันบุคคลภายนอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในคดีแพ่งจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผลผูกพันจากคำพิพากษาคดีอาญา และหน้าที่การนำสืบของโจทก์
ล. กับ ศ. ขับรถกระแทกกันเป็นเหตุให้ ม. ตกจากรถถึงแก่ความตายอัยการได้ฟ้อง ล. เป็นคดีอาญาฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้คนตาย โดยระบุในฟ้องและนำสืบว่า ล. กับ ศ. ต่างขับรถสวนกันด้วยความประมาทจึงเกิดเหตุ และศาลก็ได้อาศัยข้อเท็จจริงนั้นพิพากษาว่า ล.มีความผิด ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า ศาลมิได้ชี้ขาดว่าล. กระทำการโดยประมาทแต่ฝ่ายเดียว และเมื่ออัยการโจทก์เป็นผู้ดำเนินคดีอาญานั้นแทนบิดาของ ม. ผู้ตาย ต่อมาเมื่อบิดาของผู้ตายมาฟ้อง ล. กับนายจ้างเป็นคดีแพ่งเรียกร้องให้ใช้ค่าปลงศพและค่าขาดไร้อุปการะ ข้อเท็จจริงที่ว่า ล. มิได้กระทำการโดยประมาทแต่ฝ่ายเดียวนั้น ย่อมมีผลผูกพันโจทก์ในคดีแพ่งนี้ด้วย ส่วนนายจ้างของ ล. นั้น ถ้าให้การปฏิเสธว่า ล. จำเลยมิได้ประมาท โจทก์จะต้องนำสืบด้วยว่า ล. ได้ขับรถโดยประมาท เพราะข้อเท็จจริงในคดีอาญาไม่มีผลผูกพันบุคคลภายนอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบของโจทก์, การต่อสู้เรื่องมูลหนี้จำนอง, และการพิสูจน์หลักฐานสัญญา
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้เงินของโจทก์ไปจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้กู้เงินโจทก์ และไม่เคยทำสัญญากู้ และฟ้องแย้งว่าจำเลยจำนองที่ดินเพื่อเป็นประกันการสั่งซื้อรถยนต์ที่โจทก์จะสั่งมาให้จำเลยดังนี้ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบก่อนให้ข้อเท็จจริงปรากฏดังฟ้องส่วนข้อที่จำเลยต่อสู้และฟ้องแย้งว่าจำเลยจำนองที่ดินเพื่อเป็นประกันการสั่งซื้อรถยนต์นั้นเป็นแต่เพียงเหตุผลประกอบการปฏิเสธหนี้อันเป็นประธานที่โจทก์อาศัยเป็นเหตุเรียกร้องเท่านั้น
สัญญาจำนอง คือสัญญาที่ผู้จำนองเอาทรัพย์สินตราไว้แก่ผู้รับจำนองเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้และการประกันหนี้ในอนาคตจะประกันไว้เพื่อเหตุการณ์ซึ่งหนี้นั้นอาจเป็นผลได้จริง ก็ประกันได้
ในสัญญาจำนองมีข้อความว่า จำนองประกันเงินกู้. จำเลยต่อสู้ว่าได้ทำจำนองเป็นประกันการสั่งซื้อรถยนต์ ไม่ใช่ประกันการกู้ยืมเงินนั้น. เป็นการต่อสู้ในเรื่องมูลหนี้ที่ทำจำนองไม่ใช่เป็นการปฏิเสธหรือเปลี่ยนแปลงสัญญาจำนอง. จำเลยย่อมมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้และฟ้องแย้งได้.
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ แต่ไม่มีหนังสือสัญญากู้มาแสดง. มีแต่สัญญาจำนองซึ่งมีข้อความว่า จำเลยจำนองประกันเงินกู้. เมื่อฟ้องโจทก์แสดงสภาพแห่งข้อหาโดยถือเอาหนังสือสัญญากู้เป็นข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว.โจทก์ไม่นำต้นฉบับหนังสือสัญญากู้ที่กล่าวอ้างมาแสดง และไม่มีสิทธิสืบพยานอื่นถึงการเคยมีอยู่ของเอกสารเช่นว่านั้น. โจทก์จะขอให้ศาลวินิจฉัยว่าสัญญาจำนองเป็นหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ต้องรับผิด เปลี่ยนไปจากข้ออ้างเดิมไปนั้นหาได้ไม่.
สัญญาจำนอง คือสัญญาที่ผู้จำนองเอาทรัพย์สินตราไว้แก่ผู้รับจำนองเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้และการประกันหนี้ในอนาคตจะประกันไว้เพื่อเหตุการณ์ซึ่งหนี้นั้นอาจเป็นผลได้จริง ก็ประกันได้
ในสัญญาจำนองมีข้อความว่า จำนองประกันเงินกู้. จำเลยต่อสู้ว่าได้ทำจำนองเป็นประกันการสั่งซื้อรถยนต์ ไม่ใช่ประกันการกู้ยืมเงินนั้น. เป็นการต่อสู้ในเรื่องมูลหนี้ที่ทำจำนองไม่ใช่เป็นการปฏิเสธหรือเปลี่ยนแปลงสัญญาจำนอง. จำเลยย่อมมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้และฟ้องแย้งได้.
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ แต่ไม่มีหนังสือสัญญากู้มาแสดง. มีแต่สัญญาจำนองซึ่งมีข้อความว่า จำเลยจำนองประกันเงินกู้. เมื่อฟ้องโจทก์แสดงสภาพแห่งข้อหาโดยถือเอาหนังสือสัญญากู้เป็นข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว.โจทก์ไม่นำต้นฉบับหนังสือสัญญากู้ที่กล่าวอ้างมาแสดง และไม่มีสิทธิสืบพยานอื่นถึงการเคยมีอยู่ของเอกสารเช่นว่านั้น. โจทก์จะขอให้ศาลวินิจฉัยว่าสัญญาจำนองเป็นหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ต้องรับผิด เปลี่ยนไปจากข้ออ้างเดิมไปนั้นหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบตามกฎหมายศุลกากร: ผู้ซื้อสินค้าเปิดเผยไม่ต้องรับผิดชอบการลักลอบหนีภาษี
หน้าที่ของจำเลยที่จะนำสืบตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ลอบลักหนีอากรขาเข้าขาออกหรือเป็นผู้สมรู้ ในการนั้นหรือหลีกเลี่ยงโดยเจตนาฉ้อด่านภาษี ถ้าหากว่าจำเลยซื้อของไว้จากพ่อค้าในตลาดโดยเปิดเผย แม้ของนั้นจะยังมิได้เสียภาษี จำเลยหาตกอยู่ในบังคับแห่งมาตรา 100 ไม่ จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องสืบให้สมฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าช่วง vs. สัญญามอบอำนาจ: ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและหน้าที่นำสืบ
โจทก์ทำสัญญาเช่าโรงมหรสพจากเจ้าของเพื่อจัดการแสดงมหรสพและการบันเทิงต่างๆ โดยมีข้อห้ามมิให้เช่าช่วงแต่โจทก์มาทำสัญญากับจำเลยยินยอมมอบอำนาจให้จำเลยดำเนินการฉายภาพยนต์หรือจัดรายการบันเทิงอื่นในโรงมหรสพนี้ โดยจำเลยต้องให้เงินโจทก์เป็นเดือน สัญญานี้ใช้บังคับได้ระหว่างโจทก์กับจำเลย ส่วนข้อที่ว่าเป็นการให้เช่าช่วงหรือไม่ นั้นเป็นเรื่องที่เจ้าของจะว่ากล่าวแก่โจทก์ จำเลยจะยกขึ้นปัดความรับผิดของตนไม่ได้
เมื่อสัญญามอบอำนาจนั้นมีข้อตกลงให้จำเลยรับภาระค่าเช่าโทรศัพท์ด้วยถ้าจำเลยยังไม่ได้ชำระ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกเอาแก่จำเลยได้มิใช่ต้องให้องค์การโทรศัพท์เป็นผู้ฟ้องเพราะองค์การนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจำเลย ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับจำเลย
ค่าโทรศัพท์นี้ จำเลยมีหน้าที่จ่ายให้แก่โจทก์เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระแก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยก็ต้องรับผิดในดอกเบี้ยด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ถึงแม้ว่าโจทก์เองจะยังไม่ได้ชำระให้องค์การโทรศัพท์ก็ตาม
เมื่อจำเลยยอมรับว่าได้ทำสัญญากับโจทก์จริงตามฟ้องแต่ต่อสู้ว่าได้ชำระหนี้ค่าภาระติดพันต่างๆ แก่โจทก์ตามข้อสัญญาครบถ้วนแล้วก็เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบก่อน
คดีที่มีการสืบพยานเสร็จสิ้นไปแล้วทั้งสองฝ่าย และในฎีกาของจำเลยก็มิได้ขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานกันใหม่ ทั้งพยานหลักฐานที่ได้สืบกันมาก็ไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปดังนี้ จำเลยจะฎีกาคัดค้านการกำหนดหน้าที่นำสืบอีกย่อมฟังไม่ขึ้น
เมื่อสัญญามอบอำนาจนั้นมีข้อตกลงให้จำเลยรับภาระค่าเช่าโทรศัพท์ด้วยถ้าจำเลยยังไม่ได้ชำระ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกเอาแก่จำเลยได้มิใช่ต้องให้องค์การโทรศัพท์เป็นผู้ฟ้องเพราะองค์การนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจำเลย ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับจำเลย
ค่าโทรศัพท์นี้ จำเลยมีหน้าที่จ่ายให้แก่โจทก์เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระแก่โจทก์ตามสัญญาจำเลยก็ต้องรับผิดในดอกเบี้ยด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ถึงแม้ว่าโจทก์เองจะยังไม่ได้ชำระให้องค์การโทรศัพท์ก็ตาม
เมื่อจำเลยยอมรับว่าได้ทำสัญญากับโจทก์จริงตามฟ้องแต่ต่อสู้ว่าได้ชำระหนี้ค่าภาระติดพันต่างๆ แก่โจทก์ตามข้อสัญญาครบถ้วนแล้วก็เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบก่อน
คดีที่มีการสืบพยานเสร็จสิ้นไปแล้วทั้งสองฝ่าย และในฎีกาของจำเลยก็มิได้ขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานกันใหม่ ทั้งพยานหลักฐานที่ได้สืบกันมาก็ไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปดังนี้ จำเลยจะฎีกาคัดค้านการกำหนดหน้าที่นำสืบอีกย่อมฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบในคดีประกันภัย: โจทก์ต้องพิสูจน์ความตายจากอุบัติเหตุเมื่อจำเลยปฏิเสธ
โจทก์ฟ้องว่า ภริยาโจทก์ได้เอาประกันชีวิตไว้ในกรณีตายเพราะอุบัติเหตุและภริยาโจทก์ได้วายชนม์ลงโดยอุบัติเหตุถูกงูพิษกัด จำเลยต่อสู้ว่าภริยาโจทก์ตายเนื่องจากถูกโจทก์กับพวกวางแผนนำงูพิษมาให้กัดภริยาโจทก์ หรือนำภริยาโจทก์ไปให้งูพิษกัดตาย ดังนี้ เท่ากับจำเลยปฏิเสธว่าภริยาโจทก์ไม่ได้ตายเพราะถูกงูพิษกัดเองคือไม่เป็นอุบัติเหตุนั่นเอง เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ โจทก์ก็ต้องนำสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบในคดีประกันภัย: เมื่อจำเลยปฏิเสธเหตุเกิดจากอุบัติเหตุ โจทก์ต้องนำสืบก่อน
โจทก์ฟ้องว่าภริยาโจทก์ได้เอาประกันชีวิตไว้ในกรณีตายเพราะอุบัติเหตุ และภริยาโจทก์ได้วายชนม์ลงโดยอุบัติเหตุถูกงูพิษกัด จำเลยต่อสู้ว่า ภริยาโจทก์ตายเนื่องจากถูกโจทก์กับพวกวางแผนนำงูพิษมาให้กัดภริยาโจทก์ หรือนำภริยาโจทก์ไปให้งูพิษกัดตาย ดังนี้ เท่ากับจำเลยปฏิเสธว่าภริยา โจทก์ไม่ได้ตายเพราะถูกงูกัดเอง คือ ไม่เป็นอุบัติเหตุนั่นเอง เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ โจทก์ก็ต้องนำสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลไทยในการลงโทษผู้กระทำผิดนอกราชอาณาจักรเมื่อผู้เสียหายร้องขอ และหน้าที่การนำสืบหลักฐาน
คดีที่จำเลยเป็นคนสัญชาติไทย กระทำผิดฐานปล้นทรัพย์นอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษจำเลยภายในราชอาณาจักร ต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 นั้น โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องนำสืบแสดงว่าไม่มีข้อห้ามมิให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 10 อีก(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างพยานหลักฐานจากคดีอื่นที่ไม่ผูกมัดจำเลย การนำสืบพยานเป็นหน้าที่ของผู้กล่าวหา
คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่ต้องนำสืบ ระบุอ้างพยานบุคคลไว้แล้วไม่นำเข้าสืบ คงอ้างแต่คำเบิกความของพยานบุคคลเหล่านั้นที่ได้เบิกความในประเด็นเดียวกัน ไว้ในอีกคดีหนึ่งที่ตนมิได้เป็นคู่ความอยู่ด้วยนั้น หากพยานบุคคลนั้นยังมีตัวอยู่และจำเลยไม่ได้ยอมตกลงด้วยกับโจทก์ขอให้ศาลฟังข้อเท็จจริงตามที่พยานเบิกความไว้เป็นหลักฐานในการวินิจฉัยคดีนี้แล้ว ก็เป็นการอ้างลอย ๆ ไม่ผูกมัดจำเลย รับฟังสนับสนุนข้ออ้างของคู่ความฝ่ายนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ที่รู้ว่าทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ หน้าที่การนำสืบของโจทก์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 มีข้อความระบุว่าจะต้องเป็นนิติกรรมที่ลูกหนี้ได้กระทำลงโดยรู้อยู่ว่าเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ การรู้ดังกล่าวนี้จะต้องรู้อยู่ขณะที่ทำนิติกรรมการโอน และฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างถึงเหตุดังกล่าวนี้ ฝ่ายจำเลยให้การปฏิเสธจึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ต้องนำสืบให้รับฟังได้