คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อาวุธ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 419 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3398/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าต่อเนื่อง: การกระทำเป็นกรรมเดียว แม้ใช้อาวุธต่างกัน
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย1นัดแล้วกลับบ้านต่อมาในคืนเดียวกันจำเลยทราบว่าผู้ตายยังไม่ถึงแก่ความตายจึงได้ย้อนกลับไปใช้ไม้ไผ่ตีทำร้ายผู้ตายอีกจนถึงแก่ความตายนั้นก็ด้วยเจตนาเดียวกันคือเจตนาฆ่าผู้ตายเมื่อจำเลยได้กระทำในเวลาใกล้เคียงต่อเนื่องกันจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288 การที่จำเลยทราบว่าผู้ตายยังไม่ถึงแก่ความตายจึงย้อนกลับไปยังที่เกิดเหตุอีกโดยมิได้ถืออาวุธไปด้วยเมื่อพบไม้ไผ่ปลายแหลมใกล้ที่เกิดเหตุจึงใช้ไม้ไผ่ดังกล่าวตีทำร้ายผู้ตายจนถึงแก่ความตายนั้นเป็นเรื่องจำเลยต้องการทำร้ายผู้ตายให้ถึงแก่ความตายตามเจตนาเดิมของจำเลยการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา289.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกาย: พิจารณาจากอาวุธ พฤติการณ์ และบาดแผลของผู้เสียหาย
จำเลยกับพวกอีก 2 คน รุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายวิ่งหนีไปล้มลงนอนอยู่กับพื้น โดยพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ศอก และพวกของจำเลยอีกคนหนึ่งใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 1 แขน เป็นอาวุธฟันและตีผู้เสียหายหลายครั้งถูกที่ศีรษะผู้เสียหายมีบาดแผล 4 แห่ง ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร 3 เซนติเมตร และ 2 เซนติเมตรอีก 2 แห่งแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 10 วันหาย แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะร้องบอกกับพวกว่าเอาให้ตาย แต่ปรากฏว่าจำเลยชกผู้เสียหายเพียง 1 ครั้ง แล้วไม่ได้ทำอะไรอีก และพวกของจำเลยก็มิได้ทำตามที่จำเลยร้องบอกทั้งที่จะทำร้ายผู้เสียหายมากไปกว่านั้นก็ย่อมกระทำได้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยกับพวกมิได้มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากพฤติการณ์และอาวุธที่ใช้ประกอบกับบาดแผลของผู้เสียหาย
จำเลยกับพวกอีก 2 คน รุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายวิ่งหนีไปล้มลงนอนอยู่กับพื้น โดยพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ศอก และพวกของจำเลยอีกคนหนึ่งใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 1 แขน เป็นอาวุธฟันและตีผู้เสียหายหลายครั้งถูกที่ศีรษะผู้เสียหายมีบาดแผล 4 แห่งยาวประมาณ 4 เซนติเมตร3 เซนติเมตร และ 2 เซนติเมตรอีก 2 แห่งแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 10 วันหาย แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะร้องบอกกับพวกว่าเอาให้ตายแต่ปรากฏว่าจำเลยชกผู้เสียหายเพียง 1 ครั้ง แล้วไม่ได้ทำอะไรอีกและพวกของจำเลยก็มิได้ทำตามที่จำเลยร้องบอกทั้งที่จะทำร้ายผู้เสียหายมากไปกว่านั้นก็ย่อมกระทำได้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยกับพวกมิได้มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนใจให้ผู้อื่นออกจากที่ดินโดยขู่เข็ญด้วยอาวุธ การกระทำผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309
จำเลยกับพวก 5 คนนั่งรถยนต์ปิคอัพมาที่ไร่ของผู้เสียหายแล้ว จำเลยลงมาพูดขู่บังคับผู้เสียหายให้ออกไปจากไร่ของผู้เสียหายภายใน 2 เดือน ถ้าไม่ยอมออก จะให้ลูกปืนกินหรือใช้ปืนยิง ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้หนีออกจากไร่ของตนเพราะกลัวจะถูกทำร้ายตามที่จำเลยพูดขู่ไว้ การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ซึ่งลงโทษได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขู่บังคับให้ผู้อื่นออกจากที่ดินด้วยการขู่เข็ญด้วยอาวุธ การกระทำผิดต่อเสรีภาพ
จำเลยกับพวก5คนนั่งรถยนต์ปิคอัพมาที่ไร่ของผู้เสียหายแล้วจำเลยลงมาพูดขู่บังคับผู้เสียหายให้ออกไปจากไร่ของผู้เสียหายภายใน2เดือนถ้าไม่ยอมออกจะให้ลูกปืนกินหรือใช้ปืนยิงซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้หนีออกจากไร่ของตนเพราะกลัวจะถูกทำร้ายตามที่จำเลยพูดขู่ไว้การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา309ซึ่งลงโทษได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา337.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2682/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปล้นทรัพย์ด้วยการใช้กำลังขู่เข็ญและมีอาวุธ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง
จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันใช้กำลังเข้ายื้อแย่งเอาเงินจากผู้เสียหายโดยจำเลยที่1ใช้สังกะสีปลายแหลมคล้ายมีดที่พกติดตัวไปขู่จะแทงเจ้าทรัพย์การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการปล้นทรัพย์โดยผู้กระทำแม้แต่คนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วยตามป.อ.มาตรา340วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2682/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ: การใช้สังกะสีปลายแหลมข่มขู่เข้าข่ายอาวุธตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันใช้กำลังเข้ายื้อแย่งเอาเงินจากผู้เสียหายโดยจำเลยที่1ใช้สังกะสีปลายแหลมคล้ายมีดที่พกติดตัวไปขู่จะแทงเจ้าทรัพย์การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการปล้นทรัพย์โดยผู้กระทำแม้แต่คนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วยตามป.อ.มาตรา340วรรคสอง.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ แม้จะมีการวิวาทก่อนหน้า แต่ผู้ถูกทำร้ายก่อเหตุใหม่ด้วยอาวุธอันตราย
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันล.มาห้ามจำเลยจึงหยุดวิวาทกับผู้ตายต่อมาประมาณ2นาทีผู้ตายวิ่งไปเอาไม้ไล่ตีจำเลยอีกจำเลยวิ่งหนีขึ้นไปบนกุฏิสามเณรผู้ตายวิ่งไล่ตามขึ้นไปทำร้ายจำเลยจำเลยแทงผู้ตายเพียงครั้งเดียวด้วยมีดปอกผลไม้ที่เหน็บอยู่ที่ฝาห้องจำเลยไม่มีโอกาสไตร่ตรองว่าจะถูกอวัยวะสำคัญหรือไม่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ.(ที่มา-ส่งเสิรมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีถูกกลุ่มผู้มีอาวุธเข้าทำร้าย
ขณะที่จำเลยกับเพื่อนคนหนึ่งกำลังยืนคุยกัน ถูก ต. กับพวก3 - 4 คนวิ่งเข้ามาทำร้ายแล้วพากันวิ่งหนีไป จำเลยถือปืนวิ่งไล่ตาม แต่เมื่อไล่ไม่ทัน จำเลยก็วิ่งกลับมาที่เดิม นำเพื่อนขึ้นไปนั่งบนรถยนต์สองแถวเพื่อจะกลับบ้าน แสดงว่าจำเลยไม่สมัครใจที่จะวิวาทกับ ต. และพวกต่อไปแล้ว ต. กับพวกแจ้งให้ผู้เสียหายซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุทราบ ผู้เสียหายพร้อมด้วย ต. กับพวกรวม 7 - 8 คน มีมีดเป็นอาวุธพากันวิ่งไปหาจำเลยซึ่งยืนอยู่ท้ายรถยนต์สองแถว จำเลยร้องห้ามไม่ให้ผู้เสียหายกับพวกเข้ามาผู้เสียหายกับพวกไม่ฟังเสียง พวกผู้เสียหายกลับพูดว่าลุยเข้าไปเลยกระสุนปืนหมดแล้วจำเลยชักปืนออกมาถือจ้องไว้ ผู้เสียหายกับพวกก็ยังวิ่งเข้ามา จำเลยจึงยิงปืนออกไป 1 นัด ในขณะที่ผู้เสียหายอยู่ห่างจำเลย 10 เมตร และ ต. อยู่ห่าง 5 เมตร ดังนี้ถือได้ว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเราโดยมีตัวการร่วมและใช้อาวุธ
จำเลยที่1ใช้อาวุธปืนขู่บังคับหญิงผู้เสียหายให้ยอมให้จำเลยที่2กระทำชำเราโดยจำเลยที่1มิได้กระทำชำเราผู้เสียหายด้วยถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงแต่ถือเป็นตัวการร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายโดยมีหรือใช้อาวุธปืนอันเป็นความผิดตามป.อ.มาตรา276วรรคสอง.
of 42