คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เลื่อนคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 341 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1534/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการตรวจอาการป่วยของจำเลยเพื่อพิจารณาการเลื่อนคดี และการพิจารณาการเลื่อนคดีโดยชอบด้วยกฎหมาย
ในการขอเลื่อนคดี หากศาลมีความสงสัยว่าจำเลยป่วยเจ็บจริงหรือไม่ และอาการที่อ้างว่าป่วยเจ็บนั้นจะร้ายแรงถึงกับจะไม่สามารถมาศาลได้หรือไม่ ศาลมีอำนาจสั่งตั้งเจ้าพนักงานศาลไปทำการตรวจดูว่าจำเลยมีอาการป่วยเจ็บหรือไม่เพียงใด โดยไม่จำต้องตั้งแพทย์ไปตรวจด้วย ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยเฉพาะข้อกฎหมาย เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ต้องเสียค่าขึ้นศาลฎีกาเพียง 200 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1534/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลตั้งเจ้าพนักงานตรวจอาการป่วยจำเลยเพื่อพิจารณาเลื่อนคดี แม้เจ้าพนักงานมิใช่แพทย์
ในกรณีที่จำเลยขอเลื่อนการสืบพยาน อ้างว่า จำเลยป่วยไม่สามารถมาศาลได้ ศาลมีอำนาจตั้งเจ้าพนักงานศาลไปตรวจดูว่าจำเลยป่วยจริงหรือไม่เพียงใด โดยไม่ต้องมีแพทย์ไปตรวจด้วย แม้เจ้าพนักงานศาลจะมิใช่แพทย์ แต่เมื่อเจ้าพนักงานศาลได้รายงานผลการตรวจดูอาการจำเลยต่อศาลโดยสาบานตัวแล้ว ศาลย่อมรับฟังและเชื่อได้ว่าอาการป่วยของจำเลยไม่ร้ายแรงถึงกับจะมาศาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5413/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตเลื่อนคดีและการสืบพยาน: คำสั่งไม่อนุญาตเลื่อนไม่ใช่ขาดนัด
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีตามที่ทนายจำเลยขอและถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ คำสั่งดังกล่าวมิใช่คำสั่งที่แสดงว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 197 วรรคสอง จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้พิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทนายโจทก์มีหน้าที่จัดการวันนัดพิจารณาคดีเอง หากนัดชนกับคดีอื่นต้องรีบร้องขอเลื่อน
ในวันนัดพิจารณานัดก่อนทนายโจทก์มาศาลด้วยตนเอง จึงต้องถือว่าทนายโจทก์ได้ร่วมกำหนดวันนัดพิจารณาครั้งต่อไปด้วย ซึ่งโดยปกติก็ต้องนัดพิจารณาในวันว่างของทนายโจทก์ด้วย หากเกิดกรณีไปนัดซ้อนวันกันกับศาลอื่นก็ชอบที่ทนายโจทก์จะต้องรีบร้องขอเลื่อนคดีเสียแต่เนิ่น ๆ มิใช่เพิ่งให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาคดีมายื่นต่อศาลในวันนัดพิจารณานัดหลัง ซึ่งห่างจากวันนัดพิจารณานัดก่อนถึง 48 วัน กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมและสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล กรณีศาลไม่อนุญาตเลื่อนคดีและมีคำพิพากษาในวันเดียวกัน
โจทก์บรรยายฟ้องสรุปได้ว่า จำเลยนำเข้าเครื่องอะไหล่อุปกรณ์วิทยุ จากประเทศญี่ปุ่น และสำแดงราคาของสินค้าไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าเพื่อเสียภาษีอากร พนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์ที่ 1 เห็นว่า ไม่มีรายละเอียดราคาท้องตลาดสำหรับสินค้าของจำเลย จึงให้จำเลยวางเงินประกันภายหลังได้มีการตรวจสอบราคาจากการนำเข้าของรายอื่นแล้ว ปรากฏว่าราคาสินค้าที่จำเลยสำแดงไว้ต่ำกว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาด เจ้าพนักงานประเมินจึงประเมินค่าภาษีอากรที่จำเลยต้องชำระเพิ่ม แต่จำเลยไม่ชำระ การบรรยายฟ้องดังนี้ จึงแสดงถึงสภาพข้ออ้างและข้อหาตลอดจนการที่โจทก์ถูกโต้แย้งสิทธิไว้อย่างชัดแจ้ง ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี และมีคำพิพากษาไปในวันเดียวกัน ทำให้จำเลยไม่มีเวลาหรือโอกาสโต้แย้งคำสั่งได้ จำเลยจึงมีสิทธิอุทธรณ์โดยไม่ต้องโต้แย้งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องภาษีอากรไม่เคลือบคลุม การไม่อนุญาตเลื่อนคดีมีเหตุผลจากจำเลยมิได้สนใจดำเนินคดี
ข้อกำหนดคดีภาษีอากร ฉบับลงวันที่ 30 มกราคม 2529 ข้อ 8 โจทก์บรรยายฟ้องสรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2523จำเลยนำเข้าเครื่องอะไหล่อุปกรณ์วิทยุจากประเทศญี่ปุ่น และสำแดงราคาของสินค้าไว้ในใบขนสินค้าขาเข้า และแบบแสดงรายการการค้าลงวันที่ 17 ธันวาคม 2524 เป็นเงิน 161,780.06 บาท เพื่อเสียอากรขาเข้า ภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาล พนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์ที่ 1 เห็นว่าไม่มีรายละเอียดราคาท้องตลาดสำหรับสินค้าของจำเลย จึงให้จำเลยวางเงินประกันไว้ 10,000 บาท ภายหลังได้มีการตรวจสอบราคาจากการนำเข้าของรายอื่น แล้วปรากฏว่าราคาสินค้าที่จำเลยสำแดงไว้ต่ำกว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาดที่มีราคา 359,173.29บาท เจ้าพนักงานประเมินจึงประเมินค่าภาษีอากรที่จำเลยจะต้องชำระเพิ่มขึ้น แต่จำเลยไม่ชำระ การบรรยายฟ้องดังนี้จึงแสดงถึงสภาพข้ออ้างและข้อหาตลอดจนการที่ถูกโต้แย้งสิทธิไว้อย่างชัดแจ้งจำเลยสามารถเข้าใจคำฟ้องและต่อสู้คดีได้ถูกต้องชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 17แล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม การอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีของศาลภาษีอากรกลางเป็นการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา ซึ่งปกติจำเลยจะต้องโต้แย้งคำสั่งของศาลเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อไป แต่ในกรณีที่ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีและมีคำพิพากษาในวันเดียวกันทำให้จำเลยไม่มีระยะเวลาหรือโอกาสโต้แย้งคำสั่งได้ จำเลยจึงมีสิทธิอุทธรณ์โดยไม่ต้องโต้แย้งได้ จำเลยมิได้อุทธรณ์การประเมินในส่วนของภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาล ทั้งในชั้นพิจารณาของศาล จำเลยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานตามข้อกำหนดคดีภาษีอากร ข้อ 8 ทำให้จำเลยไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ของจำเลย และในวันนัดชี้สองสถานจำเลยทราบนัดแล้วก็ไม่มาศาล อีกทั้งนับจากวันที่จำเลยยื่นคำให้การจนถึงวันนัดสืบพยานโจทก์เป็นเวลาถึงสองเดือนเศษ ซึ่งเป็นระยะเวลานานพอควร จำเลยควรที่จะติดตามและสอบถามถึงวันนัดที่จำเลยมีวันว่างเพื่อจะได้ขอเลื่อนคดีเสียก่อนนั้นได้ แต่ตามพฤติการณ์ของจำเลยกลับปรากฏว่า จำเลยไม่เอาใจใส่และสนใจดำเนินคดีเท่าที่ควร ที่ศาลภาษีอากรกลางไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีเป็นผลมาจากความบกพร่องของจำเลยเอง จึงเป็นการใช้ดุลยพินิจที่มีเหตุผลสมควรแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2823/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาประวิงคดี: ศาลชอบธรรมที่ไม่อนุญาตเลื่อนคดีและงดสืบพยานเมื่อจำเลยมีพฤติการณ์ฉะเชิงเทียน
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก วันที่ 12 มิถุนายน 2530 ถึงวันนัดจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างเหตุทนายจำเลยป่วย ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีไปในวันที่ 29 กรกฎาคม 2530 ซึ่งจำเลยก็นำพยานมาสืบปากเดียวและเลื่อนไปสืบพยานจำเลยวันที่ 3 และ 24 กันยายน 2530วันดังกล่าวจำเลยนำพยานมาสืบวันละหนึ่งปาก และศาลชั้นต้นให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลยวันที่ 5 และ 19 พฤศจิกายน 2530 วันที่ 5 พฤศจิกายน2530 จำเลยมีพยานมาสืบ 1 ปาก และเลื่อนไปสืบพยานวันที่ 19 พฤศจิกายน2530 ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนโดยกำชับให้จำเลยนำพยานมาสืบให้เสร็จโดยไม่ให้เลื่อนคดีอีกถึงวันนัดจำเลยขอเลื่อนอ้างเหตุพยานป่วยเช่นนี้พฤติการณ์จำเลยแสดงว่ามีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2177/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนคำร้องบังคับคดี: สิทธิในการยกเหตุต่อสู้ & เหตุผลสมควรในการขอเลื่อน
แม้ผู้คัดค้านจะมิได้ยกข้อโต้แย้งขึ้นต่อสู้เจ้าพนักงานบังคับคดีไว้ แต่ในวันนัดไต่สวนทนายผู้คัดค้านแถลงว่าจะนำพยานหลักฐานเข้าไต่สวนถึงข้อปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้ที่เรียกร้องเอาแก่ผู้คัดค้าน และยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุประธานกรรมการของผู้คัดค้านย้ายไปรับราชการที่อื่นผู้คัดค้านจึงต้องทำการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แทนต่อไป แสดงว่าผู้คัดค้านยังไม่พร้อมจะสู้คดีมีเหตุผลสมควรศาลชั้นต้นต้องทำการไต่สวนและมีคำสั่งตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2163/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ดุลพินิจอนุญาตเลื่อนคดีเนื่องจากเจ็บป่วย ต้องพิจารณาเหตุผลและสามารถตรวจสอบความจริงได้
การอนุญาตให้เลื่อนคดีหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล แต่ศาลก็ต้องใช้ดุลพินิจอย่างมีเหตุผล ในวันนัดไต่สวนคำร้องนัดที่ 2 ทนายผู้ร้องยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่า ว. กรรมการผู้จัดการของผู้ร้องป่วยปรากฏตามใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้องการขอเลื่อนคดีนัดที่ 2 จึงเป็นการอ้างเหตุขอเลื่อนคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 41 หากศาลชั้นต้นมีความสงสัยว่า ว. จะป่วยจริงตามใบรับรองแพทย์หรือไม่ ก็มีอำนาจไต่สวนคำร้องขอเลื่อนคดีเสียก่อนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 21(4) หรือจะตั้งเจ้าพนักงานศาลไปตรวจก็ได้ ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเลื่อนคดีโดยเห็นว่าผู้ร้องไม่เตรียมพยานปากอื่นมาศาลโดยมิได้แถลงว่าพยานที่เหลือมีข้อขัดข้องอย่างไรถึงไม่มาศาล ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับพยานปากอื่นของผู้ร้องมาหรือไม่มาศาลเท่านั้นหาใช่เหตุที่จะนำมาพิจารณาไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีเพราะคู่ความอ้างว่าเจ็บป่วยตามมาตรา 40 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลตามนัดของโจทก์ และผลกระทบต่อการดำเนินคดี
บทบัญญัติตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166 และ 181 ได้กำหนดหน้าที่ของโจทก์ว่า ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาคดี โจทก์จะต้องมาศาลตามนัดมิฉะนั้นก็ให้ศาลยกฟ้องเสีย เว้นแต่จะมีเหตุสมควรศาลจึงจะให้เลื่อนคดีไป บทบัญญัติดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่จะเร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็วมิให้มีการประวิงคดี จึงกำหนดมาตรการดังกล่าวเพื่อให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด
ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่า โจทก์ไม่มาศาลเพราะทนายความจำเลยขอเลื่อนคดีไปโดยโจทก์ตกลงยินยอมกับทนายจำเลยไว้ และโจทก์เชื่อโดยสุจริตว่าศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีได้ เป็นการคาดคะเนของโจทก์ ไม่เป็นเหตุที่ศาลจะอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166 วรรคสอง
of 35