พบผลลัพธ์ทั้งหมด 120 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จไม่จำเป็นต้องเป็นสาระสำคัญ หากอาจทำให้ราชการเสียหายได้
จำเลยจดคำให้การชั้นสอบสวนว่าผู้มีชื่อ 2 คน เป็นผู้นั่งทำการสอบสวนความจริงบุคคลทั้ง 2 นั้น มิได้อยู่ในเวลาสอบสวนนั้นเลย ครั้นข้าหลวงประจำจังหวัดถามจำเลย ๆ ก็ยืนยันว่าที่จดไว้ในคำให้การเป็นความจริงดังนี้ จำเลยมีผิดฐานแจ้งความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทาง – เอกชนไม่มีอำนาจฟ้องให้ศาลแสดงว่าเป็นทางสาธารณะ เว้นแต่เสียหายเป็นพิเศษ หรือมีสิทธิเนื่องจากการถูกล้อม
เอกชนไม่มีอำนาจขับไล่ผู้ปกครองทางสาธารณ หรือขอให้ศาลแสดงว่าทางรายพิพาทเป็นทางสาธารณเว้นแต่จะนำสืบได้ว่าตนเสียหายเป็นพิเศษเนื่องในการปิดทางสาธารณนั้น เพียงแต่ที่ดินของตนมีทางออกทางนั้นทางเดียวเท่านั้นไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหายอันจะให้เกิดอำนาจฟ้องบ้านโจทก์อยุ่ในที่ล้อมไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณได้นอกจากจะใช้ทางรายพิพาทดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิใช้ทางนี้ไปมาสู่บ้านโจทก์เจ้าของทางจะปิดมิได้
ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 248 ในคดีฟ้องขอให้เปิดทางเดินเมื่อ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคู่ความ ฎีกาได้ ฉะเพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมาย
ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 248 ในคดีฟ้องขอให้เปิดทางเดินเมื่อ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคู่ความ ฎีกาได้ ฉะเพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ: ต้องมีเจตนาแจ้งความเท็จและอาจทำให้ผู้อื่นเสียหาย โดยไม่เกี่ยวข้องกับอำนาจของผู้แจ้ง
ความผิดฐานแจ้งความเท็จต้องประกอบด้วยนำความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานและอาจทำให้ผู้อื่นเสียหายได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องมีอำนาจหรือไม่มีอำนาจ
พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ 2461 ม.5 ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.219
คดีที่ศาลล่างทั้ง 2 พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริงนั้นฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ 2461 ม.5 ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.219
คดีที่ศาลล่างทั้ง 2 พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริงนั้นฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จโดยผู้ใหญ่บ้านนอกหน้าที่ เจ้าพนักงานแจ้งความเท็จ
ผู้ใหญ่บ้านตำบลหนึ่งแกล้งให้จับคนในตำบลอื่นไม่เรียกว่าเป็นเจ้าพนักงาน ผู้ใดเอาความอย่างใดที่รู้เป็นเท็จแลอาจทำให้ผู้อื่นหรือสาธารณเสียหายมาแจ้งต่อเจ้าพนักงานมีผิด ตาม ม. 118
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 560/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาไม่มีกำหนดชำระหนี้ การเติมกำหนดเวลาถือเป็นการเสียหายต่อลูกหนี้ เว้นแต่ลูกหนี้จะยินยอม
สัญญาที่มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้นั้นเมื่อเจ้าหนี้ยังไม่ให้คำเตือนการชำระหนี้แล้วยังไม่เรียกว่าลูกหนี้ผิดนัดถ้าเจ้าหนี้เติมกำหนดเวลาชำระหนี้ลงไปกฎหมายถือว่าเป็นการเสียหายแก่ลูกหนี้ เว้นแต่ลูกหนี้จะยินยอมปัญหากฎหมายศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็นศาลฎีกาย้อนสำนวนให้ตัดสินใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเสียหายจากภัยธรรมชาติ: ค่าเช่าที่ชำระแล้วไม่สามารถเรียกคืนได้
น้ำท่วมทำนาไม่ได้ค่าเช่าชำระแล้วเรียกค่าเช่าคืนไม่ได้ ป.ม.370, 537,567,3 วัตถุที่ประสงค์เสียหายอันจะโทษลูกหนี้มิได้ การเสียหายเปนภัพแก่เจ้าหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2471
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกักขังโดยไม่มีอำนาจและการแจ้งความเท็จ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย
กักขังโดยไม่มีอำนาจแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานทำให้ผู้อื่นเสียหายรอการลงอาญาลักษณพยาน พยานบุคคลจะหักล่างพยานเอกสารไม่ได้ ( พระราชทานพระบรมราชานุญาติให้ยกโทษ การลงอาญาจำคุก )
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4603/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดเจ้าพนักงานต้องระบุเจตนาพิเศษทำให้เสียหาย หากขาดองค์ประกอบ ศาลต้องยกฟ้อง
ความผิดข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ป.อ. มาตรา 157 นั้น มีองค์ประกอบเรื่องเจตนาพิเศษในการกระทำว่าเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดด้วย เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยเจตนาจงใจไม่เสนอคำขอรับการประเมินวิทยฐานะของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โดยไม่ได้บรรยายฟ้องถึงเจตนาพิเศษดังกล่าวคำฟ้องโจทก์จึงขาดองค์ประกอบความผิด ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5)
แม้เดิมคำฟ้องโจทก์จะบรรยายว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ป้องกันหรือขัดขวางมิให้เป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งนั้น โดยไม่ส่งคำขอรับการประเมินวิทยฐานะ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย กับมีคำขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 165 แต่โจทก์ขอแก้ฟ้องยกเลิกคำฟ้องเดิมทั้งหมด โดยข้อความที่แก้ไขใหม่ไม่มีข้อหาดังกล่าว จึงถือว่าโจทก์มิได้บรรยายฟ้องในความผิดข้อหานี้
แม้ปัญหาเรื่องการบรรยายฟ้องในความผิดทั้งสองข้อหาข้างต้น มิได้เป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จำเลยย่อมยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
แม้เดิมคำฟ้องโจทก์จะบรรยายว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ป้องกันหรือขัดขวางมิให้เป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งนั้น โดยไม่ส่งคำขอรับการประเมินวิทยฐานะ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย กับมีคำขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 165 แต่โจทก์ขอแก้ฟ้องยกเลิกคำฟ้องเดิมทั้งหมด โดยข้อความที่แก้ไขใหม่ไม่มีข้อหาดังกล่าว จึงถือว่าโจทก์มิได้บรรยายฟ้องในความผิดข้อหานี้
แม้ปัญหาเรื่องการบรรยายฟ้องในความผิดทั้งสองข้อหาข้างต้น มิได้เป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จำเลยย่อมยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10361/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวเกี่ยวกับสินสมรสระหว่างการพิจารณาคดีหย่า กรณีมีเหตุอาจทำให้โจทก์เสียหายได้
โจทก์ฟ้องขอหย่าขาดจากจำเลยที่ 1 และขอให้พิพากษาแบ่งสินสมรสแก่โจทก์กึ่งหนึ่ง การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาแบ่งสินสมรสที่ดินสวนยางพาราพิพาทเนื้อที่ 60 ไร่ และที่ดินสวนปาล์มน้ำมันพิพาทเนื้อที่ 15 ไร่ แก่โจทก์กึ่งหนึ่ง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ระหว่างพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ภาค 8 โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราว และศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ทำบัญชีดอกผลรายได้จากผลผลิตในที่ดินพิพาทเป็นรายเดือน แล้วนำเงินรายได้จากผลผลิตที่จะได้รับจำนวนกึ่งหนึ่งของทั้งหมดมาวางศาลเป็นรายเดือน นับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 8 จนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น จึงเป็นคำสั่งเกี่ยวด้วยดอกผลของทรัพย์พิพาท ตาม ป.พ.พ. มาตรา 148 วรรคหนึ่ง ซึ่งในที่สุดหากโจทก์ชนะคดีโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับแบ่งดอกผลของทรัพย์ที่พิพาทดังกล่าวซึ่งเป็นสินสมรสได้ คำสั่งคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวจึงหาเกินกว่าคำขอในคำฟ้อง อันเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3628/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อให้เสียหายซึ่งทรัพย์ที่อาจถูกยึดเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับคดีตามคำพิพากษา
เมื่อจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอม จะอ้างเหตุดังที่จำเลยนำสืบมาบ่ายเบี่ยงหรือหน่วงเหนี่ยวมิให้เป็นไปตามคำพิพากษาตามยอมโดยที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งที่ทำยอมมิได้ตกลงด้วยหาได้ไม่ การที่จำเลยกระทำการเกี่ยวกับทรัพย์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ทำให้ยุ่งยากแก่การบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาตามยอม จึงเป็นการเพื่อจะมิให้การเป็นไปตามคำพิพากษาตามยอมของศาลทำให้เสียหายซึ่งทรัพย์ที่จำเลยรู้ว่าน่าจะถูกยึดหรืออายัด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 187