พบผลลัพธ์ทั้งหมด 144 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1097/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีพยานนอกกำหนดและผลกระทบต่อการดำเนินคดี
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ทนายจำเลยยื่นคำแถลงว่าจำเลยยังไม่ได้ระบุพยาน เพราะทนายได้ฝากหนังสือไปหาจำเลยให้มาระบุพยานก่อนกำหนด 3 วัน แต่ผู้ถือจดหมายได้ทำหนังสือหายเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงขอยื่นบัญชีระบุพยานในวันนั้น ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำขอเช่นนี้ ต้องทำเป็นคำร้องตามมาตรา 88 วรรคสาม เมื่อทำเป็นคำแถลงจึงไม่รับพิจารณาให้ยกเสีย แต่จำเลยก็หาได้ทำคำร้องขอยื่นบัญชีพยานให้ถูกต้องเสียก่อนสืบพยานโจทก์ไม่ จนศาลสืบพยานโจทก์ไปเสร็จสิ้นแล้ว ทนายจำเลยจึงมายื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานในภายหลัง เช่นนี้โจทก์ย่อมไม่ทราบถึงพยานหลักฐานของจำเลยว่ามีอย่างไร ก่อนแต่สืบพยานฝ่ายตน เป็นการเสียเปรียบในทางคดี ดังนี้ พฤติการณ์และเหตุผล กรณีไม่มีเหตุสมควรจะให้รับการยื่นบัญชีพยาน และรับฟังพยานหลักฐานจำเลย อันฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วง แม้มิได้ระบุชื่อผู้เช่าช่วงในฟ้อง ไม่ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม หากจำเลยไม่เสียเปรียบในการต่อสู้คดี
ฟ้องขอให้ขับไล่ผู้เช่าโดยอ้างว่าผู้เช่าให้ผู้อื่นเช่าช่วงนั้น แม้โจทก์จะมิได้ระบุชื่อผู้เเช่าช่วงมาในฟ้อง ก็จะถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมได้ เพราะไม่ทำให้ผู้เช่าหลงหรือเสียเปรียบในการต่อสู้คดีอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วงที่ไม่ระบุชื่อ แม้มิใช่ฟ้องเคลือบคลุม หากไม่ทำให้เสียเปรียบ
ฟ้องขอให้ขับไล่ผู้เช่าโดยอ้างว่าผู้เช่าให้ผู้อื่นเช่าช่วงนั้น แม้โจทก์จะมิได้ระบุชื่อผู้เช่าช่วงมาในฟ้อง ก็จะถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมมิได้ เพราะไม่ทำให้ผู้เช่าหลงหรือเสียเปรียบในการต่อสู้คดีอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องเพิ่มเติมสถานที่เกิดเหตุไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ หากไม่หลงข้อต่อสู้เดิม
การขอเพิ่มเติมตำบลที่เกิดเหตุนั้น เป็นการขอแก้รายละเอียด ซึ่งต้องแถลงในฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 164 โจทก์จะร้องขอแก้ในระยะใดระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น ก็ไม่ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบ เว้นแต่จำเลยได้หลงต่อสู้ในข้อที่ผิดหรือที่มิได้กล่าวไว้นั้น
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจทก์ เจ้าพนักงานจับโคของกลางได้จากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธข้อหาต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ และว่าเจ้าพนักงานมิได้จับโคของกลางได้จากจำเลยดังนี้ การที่โจทก์ขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องว่า เหตุได้เกิดที่ตำบลอีกตำบลหนึ่งด้วย ย่อมเห็นได้ว่าไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ในข้อที่โจทก์มิได้กล่าวไว้แต่อย่างใด โจทก์จึงแก้ไขหรือเพิ่มเติมฟ้องได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจทก์ เจ้าพนักงานจับโคของกลางได้จากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธข้อหาต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ และว่าเจ้าพนักงานมิได้จับโคของกลางได้จากจำเลยดังนี้ การที่โจทก์ขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องว่า เหตุได้เกิดที่ตำบลอีกตำบลหนึ่งด้วย ย่อมเห็นได้ว่าไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ในข้อที่โจทก์มิได้กล่าวไว้แต่อย่างใด โจทก์จึงแก้ไขหรือเพิ่มเติมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่ชัดเจนเรื่องเวลาในฟ้องอาญา ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ ฟ้องยังใช้ได้
ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดโดยระบุวันเดือนปีที่กระทำผิดแต่เวลากล่าวว่า ไม่ปรากฎชัดจากการสอบสวน เพราะเกิดเหตุเมื่อเวลาจวนค่ำ จะว่ากลางคืนหรือกลางวัน โจทก์เกรงว่าจะไม่ตรงกับความจริง ความข้อนี้ก็ไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้หรือเสียเปรียบในเชิงคดีแต่อย่างใด ดังนี้ จะว่าฟ้องของโจทก์ในเรื่องเวลาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีอาญาในประเด็นสถานที่เกิดเหตุ ศาลอนุญาตได้หากไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ของแก้ฟ้องชื่อตำบลที่เกิเหตุ ซึ่งข้อเท็จจริงในทางพิจารณามิได้โต้เถียงกัน ถึงเรื่องสถานที่เกิดเหตุแล้ว แม้โจทก์จะขอแก้เมื่อสืบพยานเสร็จแล้ว ศาลก็อนุญาตให้แก้ได้ โดยเห็นว่าจำเลยไม่หลงหรือเสียเปรียบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีอาญาเรื่องสถานที่เกิดเหตุ ศาลอนุญาตได้หากไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ขอแก้ฟ้องชื่อตำบลที่เกิดเหตุซึ่งข้อเท็จจริงในทางพิจารณามิได้โต้เถียงกันถึงเรื่องสถานที่เกิดเหตุแล้วแม้โจทก์จะขอแก้เมื่อสืบพยานเสร็จแล้ว ศาลก็อนุญาตให้แก้ได้ โดยเห็นว่าจำเลยไม่หลงหรือเสียเปรียบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดหลังสืบพยาน ทำให้จำเลยเสียเปรียบ ศาลไม่อนุญาตเพิ่มเติมฟ้อง
เดิมโจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดฐานเรี่ยไร่ในที่สาธารณะสถาน และอ้างบทกฎหมายที่ยกเลิกแล้ว จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้ทำการเรี่ยไรในที่สาธารณะสถาน จึงไม่ต้องขอนุญาต เมื่อสืบพยานโจทก์ 13 ปาก แล้ว โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องเปลี่ยนฐานความผิดใหม่ว่า จำเลยเรี่ยไรเพื่อสาธารณะประโยชน์และอ้างบทกฎหมายใหม่ ซึ่งบังคับให้ต้องขออนุญาต ดังนี้ ถือว่า ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ และเสียเปรียบ ศาลไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องและการเสียเปรียบในการต่อสู้คดี การแก้ฟ้องต้องไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
การขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องนั้น ข้อที่ว่าจำเลยเสียเปรียบหรือหลงต่อสู้หรือไม่ ย่อมเป็นข้อเท็จจริงเมื่อศาลล่างไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จะฎีกาว่าจำเลยไม่เสียเปรียบหรือไม่หลงต่อสู้ไม่ได้, ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องและการเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ศาลไม่อนุญาตแก้ฟ้องหากทำให้จำเลยเสียเปรียบ
การขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องนั้น ข้อที่ว่าจำเลยเสียเปรียบหรือหลงต่อสู้หรือไม่ ย่อมเป็นข้อเท็จจริง เมื่อศาลล่างไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จะฎีกาว่าจำเลยไม่เสียเปรียบหรือไม่หลงต่อสู้ไม่ได้ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219