คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เหตุอันสมควร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 123 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำให้การโดยไม่มีเหตุอันสมควร และการเช่าที่ดินโดยไม่มีกำหนดเวลา
พฤติการณ์ที่ถือว่าขาดนัดยื่นคำให้การโดยไม่มีเหตุอันสมควร
จำเลยเช่าตึกพิพาทจากเจ้าของเดิมโดยไม่มีกำหนดเวลาเมื่อกรรมสิทธิ์ในตึกพิพาทตกมาเป็นของโจทก์ โจทก์ได้บอกให้จำเลยมาทำสัญญาเช่า จำเลยไม่ยอมมาทำโจทก์จึงบอกกล่าวให้ออกไปจำเลยยังขืนอยู่ เช่นนี้ ถือว่าอยู่โดยละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1353/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าไปในเคหสถานโดยมีเหตุอันสมควร แม้ไม่มีความยินยอมจากเจ้าของบ้าน การกระทำจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปในเรือนของผู้เสียหายกลางคืนเลา 1 นาฬิกา โดยบุตรีของผู้เสียหายซึ่งรักใคร่กับจำเลยมาก่อนนัดให้เข้าไปและพาขึ้นเรือนนั้น นับว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันควร แม้ว่าผู้เสียหายและภรรยาไม่อนุญาต ก็เป็นไปตามวิสัยของเรื่องเช่นนี้ที่ต้องปิดบัง ดังนี้ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364 ประกอบด้วยมาตรา 365(2)(3) (ตัดสินโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1947/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีและการมีเหตุอันสมควร
นัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกซึ่งโจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อนทนายโจทก์ขอถอนตัว โจทก์ขอเลื่อน ศาลอนุญาต ก่อนวันนัดครั้งที่สอง ผู้ซึ่งต่อมาโจทก์ตั้งเป็นทนายโทรเลขขอเลื่อน อ้างว่าติดว่าความที่ศาลอื่น ครั้นถึงวันนัดตัวโจทก์มาศาลและแถลงขอเลื่อนด้วยตนเอง อ้างเหตุดังกล่าวอีก ดังนี้ รูปคดีมีเหตุอันสมควรจะให้โจทก์เลื่อนคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งไม่เปิดทำการ แต่ไม่มีเหตุอันสมควรให้มีการเลือกตั้งใหม่
การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งจังหวัดมหาสารคามเป็นไปโดยมิชอบเพราะหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนน แต่ปรากฎว่าหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดในจังหวัดนั้นมี 186 หน่วยใน 186หน่วยนี้ 185 หน่วยการเลือกตั้งเป็นไปโดยถูกต้อง แต่มีหน่วยเลือกตั้งอยู่ 1 หน่วยคือหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ดังกล่าวข้างต้นไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนน เนื่องจากเจ้าพนักงานผู้ได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งรับเครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว ครั้นจวนเวลาเปิดการลงคะแนนตรวจดูปรากฎว่า เครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครเลข 6 ถึง 10มีอยู่เพียงแผ่นเดียว เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งได้พยายามพอสมควรแล้วที่จะให้ได้เครื่องหมายดังกล่าวมาเพื่อเปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง แต่ก็ได้มาเมื่อจวนหมดเวลาลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว จึงไม่ยอมเปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง ทั้งไม่ปรากฎว่าได้มีการทุจริตจงใจจะไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งอย่างใด และฝ่ายผู้ร้องก็มิได้นำสืบแสดงให้เห็นได้ว่า หากมีการลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยที่เจ้าพนักงานไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งดังกล่าวนั้นแล้ว ผู้ร้องจะได้รับคะแนนนิยมเท่าหรือเหนือกว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งได้โดยพฤติการณ์ทั่ว ๆ ไป ประกอบด้วยเหตุผลที่ปรากฎในคดี ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1950/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน: สิทธิครอบครองที่ดิน vs. คำสั่งทางปกครอง – เหตุอันสมควรไม่ต้องปฏิบัติตาม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขัดคำสั่งผู้รักษาราชการแทนนายอำเภอที่สั่งให้จำเลยออกไปจากที่ดินที่ทางราชการสงวนไว้สำหรับสาธารณประโยชน์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยมีความเชื่อมั่นโดยสุจริตใจว่า ที่ดินนั้นเป็นของจำเลยโดยการครอบครองมาช้านานเกินกว่า 40 ปี ซึ่งอำเภอจะสั่งให้จำเลยออกจากที่ดิน โดยพละการเช่นนี้ไม่ได้ จำเลยมีเหตุผลอันดีและมีข้อแก้ตัวอันสมควร ที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นได้ ย่อมเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
ตามรูปเรื่องเช่นว่านี้ สมควรที่จะดำเนินคดีว่ากล่าวถึงเรื่องสิทธิในที่ดินกันทางแพ่ง ยิ่งกว่าการฟ้องร้องทางอาญาฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333-1334/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: เหตุอันสมควรในการระบุสถานที่เกิดเหตุ แม้หลังจำเลยคัดค้าน
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร ขอให้ลงโทษ แต่ในฟ้องมิได้บรรยายว่าเหตุเกิด ณที่ใดจำเลยจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ในวันเดียวกันนั้นโจทก์จึงขอเพิ่มเติมฟ้องระบุว่า เกิดเหตุที่ตำบลใด ดังนี้ แม้ในคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องจะไม่แสดงเหตุอันสมควรที่จะขอเพิ่มเติมฟ้อง ศาลก็พิจารณาว่ามีเหตุอันสมควรได้เอง และอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่โต้แย้งคำสั่งศาลที่อนุญาตให้ยื่นคำให้การภายหลังขาดนัด ไม่อาจอุทธรณ์ฎีกาได้
การที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แต่ศาลได้ไต่สวนตามคำขอของจำเลยและสั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้โดยเห็นว่ามีเหตุอันสมควรนั้น หากโจทก์มิได้โต้แย้งคำสั่งที่อนุญาตนั้นไว้แล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิยกความข้อนี้ขึ้นอุทธรณ์ฎีกาตาม มาตรา 226(2) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
เพียงแต่โจทก์ยื่นคำขอเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดนั้นหาถือว่าเป็นการโต้แย้งคำสั่งศาลที่สั่งในภายหลังตามนัยดังกล่าวไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1709/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องก่อนจำเลยให้การและสืบพยาน อนุญาตได้หากมีเหตุอันสมควรและไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ร้องขอเพิ่มเติมฟ้องก่อนจำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีและก่อนสืบพยานนั้น เมื่อมีเหตุอันสมควรแล้ว ก็ควรอนุญาตให้เพิ่มเติมได้ เพราะข้อที่ว่าจำเลยจะเสียเปรียบหรือหลงข้อต่อสู้คดีไม่อาจเกิดขึ้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1681/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงเป็นเหตุให้กระทำการป้องกันตนได้ แม้เป็นการยิงเจ้าพนักงาน
ตำรวจ 10 กว่าคนมีปืนตรูกันจะเข้าบ้านจำเลยเพื่อจะจับผู้ลักลอบเล่นการพะนัน ในบ้านจำเลยแต่ความจริงไม่มีการลักลอบเล่นการพะนันกันที่บ้านจำเลย ในขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนเดือนมืดมากถิ่นนั้นก็มีผู้ร้ายปล้นชุกชุม จนจำเลยต้องเตรียมตัวระวังคนร้ายอยู่เสมอ จำเลยจึงเข้าใจผิดคิดว่าพวกตำรวจเป็นคนร้ายจะเข้าปล้นจำเลยจึงยิงปืนไปที่พวกตำรวจ 1 นัดเพื่อจะยับยั้งและหนีเอาตัวรอด ดังนี้ถือได้ว่าเป็นการเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง ยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดได้เพราะการกระทำของจำเลยเรียกได้ว่าจำเลยกระทำการโดยเจตนาเพื่อป้องกันตนและผู้อื่น โดยสุจริตและพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ปืนโดยไม่มีเหตุอันสมควร ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 28 และการริบปืนเป็นดุลยพินิจของศาล
การไช้ปืนยิงไนหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันสมควน หาเปนความผิดไนตัวเองดังที่บัญญัติไว้ไนมาตรา 28 ไม่ และไม่มีกดหมายบัญญัติไว้ว่าการไช้ปืนเช่นนี้เปนความผิดอันพึงจะริบ
บทบัญญัติแห่งมาตรา 27 กดหมายอาญาเปนเรื่องไห้สาลมีอำนาดไช้ดุลยพินิจ.
of 13