คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่อุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 159 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีถึงที่สุดหลังจำหน่ายคดีแล้ว ไม่อุทธรณ์คำสั่งจำหน่ายคดี ศาลฎีกายกคำร้อง
ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์นำเงินมาวางศาลภายใน15 วัน เพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์หากไม่นำมาวางภายในกำหนด ให้จำหน่ายคดีก่อนสิ้นกำหนดวางเงิน ผู้ร้องขัดทรัพย์อุทธรณ์คำสั่งนั้นว่าผู้ร้องไม่ต้องวางเงินประกันความเสียหาย และขอให้มีคำสั่งงดการจำหน่ายคดี ครั้นสิ้นกำหนดแล้วศาลชั้นต้นจึงสั่งจำหน่ายคดีผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่อุทธรณ์คำสั่งนี้ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีแล้ว คู่ความมิได้อุทธรณ์คำสั่งเช่นนี้ คดีจึงถึงที่สุดแล้ว ไม่มีทางจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ได้และไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องเรื่องคำสั่งของศาลชั้นต้น ที่ให้วางเงินประกันต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลหลังศาลพิพากษาคดีแล้ว ถือเป็นการยอมรับคำสั่ง
โจทก์ขอแก้คำฟ้อง จำเลยคัดค้าน ศาลอนุญาตให้แก้ จำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งศาลนั้นอีก จำเลยอุทธรณ์คำสั่งนั้นเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลยกคำร้องขอโอนคดีก่อนมีคำพิพากษา เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่อุทธรณ์ได้ตามมาตรา 226
คดีที่ศาลสั่งรับคำฟ้องแล้ว เป็นคดีที่อยู่ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 ก่อนยื่นคำให้การ จำเลยยื่นคำร้องขอโอนคดีไปยังศาลอื่น ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 คำร้องขอโอนคดีไปศาลอื่นนั้น เป็นวิธีการเกี่ยวกับเขตอำนาจศาลที่จะพิจารณาคดี มิใช่เกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์อย่างใดของคู่ความในระหว่างการพิจารณา ดังเช่นที่บัญญัติไว้ในมาตรา 264 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 228(2) คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องขอโอนคดีของจำเลยจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในระหว่างพิจารณาตามมาตรา 226(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2716/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษที่ไม่กระทบต่อบทความผิด ไม่อุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 72 ให้จำคุก 15 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นให้จำคุก 5 ปี ตามบทกฎหมายที่ศาลชั้นต้นวางมาเป็นการแก้เฉพาะกำหนดโทษโดยมิได้แก้บทความผิด ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย คู่ความต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2292/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่อนุญาตยื่นคำให้การพ้นกำหนด – คำสั่งระหว่างพิจารณา – ไม่อุทธรณ์ได้
จำเลยมิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโดยไม่มีเหตุอันสมควร ไม่อนุญาตให้ยื่นคำให้การ โดยยังมิได้ตรวจดูคำให้การจำเลย คำสั่งของศาลชั้นต้นเช่นนี้ไม่ใช่คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18แต่เป็นคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199และเป็นคำสั่งโดยปกติในระหว่างการพิจารณาของศาลก่อนที่จะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณา ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยไว้พิจารณาเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกร้องหนี้จากสัญญาจะซื้อขายที่ดินที่ถูกเพิกถอนสิทธิ โดยการไม่อุทธรณ์ถือเป็นการยอมรับหนี้
กรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการไม่ยอมรับสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินระหว่างลูกหนี้ผู้ล้มละลายกับผู้ขายตามอำนาจในมาตรา 122 และดำเนินการเรียกร้องเงินค่าที่ดินที่ผู้ขายได้รับไว้จากลูกหนี้คือตามอำนาจในมาตรา 119 เมื่อดำเนินการมาจนถึงขั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือยืนยันหนี้ให้ผู้ขายคืนเงินค่าที่ดินและแจ้งให้ผู้ขายร้องคัดค้านต่อศาลภายในกำหนดเวลาสิบสี่วัน แต่ผู้ขายมิได้ร้องคัดค้านต่อศาลแต่อย่างใด ดังนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำขอต่อศาลขอให้บังคับผู้ขายชำระหนี้เงินค่าที่ดินดังกล่าว ศาลก็ต้องมีคำสั่งบังคับไปตามคำขอ ไม่มีปัญหาที่ศาลจะต้องวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีสิทธิเรียกร้องเงินค่าที่ดินคืนจากผู้ขายหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2045/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีล้มละลาย ศาลจำหน่ายคดี และไม่อุทธรณ์ได้ แม้เข้าใจผิดเวลานัด
กรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องส่งมอบรถยนต์หรือชำระเงินต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาล แต่ผู้ร้องไม่มีศาลตามวันเวลาที่ศาลนัดไต่สวนนั้น พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม จึงต้องถือว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาตามมาตรา 197 วรรคสอง
เมื่อผู้ร้องขาดนัดพิจารณาและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ศาลสั่งตามรูปคดี ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 นั้น แม้ผู้ร้องจะเข้าใจเวลานัดของศาลผิดไปโดยสุจริต ก็ไม่อาจดำเนินคดีต่อไปได้คงทำได้เพียงประการเดียว คือร้องเริ่มต้นคดีใหม่ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 74/2512)
กรณีผู้ร้องขาดนัดพิจารณาซึ่งศาลสั่งจำหน่ายคดี กฎหมายห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งหรือมีคำขอให้พิจารณาคดีนั้นใหม่ ย่อมไม่มีความจำเป็นที่ศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้องว่าจงใจขาดนัดหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายค่าทดแทนกรณีประสบอุบัติเหตุจากการทำงาน การไม่อุทธรณ์คำวินิจฉัยถือเป็นที่สุด และสิทธิในการฟ้องร้อง
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินทดแทนตลอดจนจำนวนเงินค่าทดแทน ข้อ 14 นั้น เมื่อคู่กรณี (นายจ้างกับลูกจ้าง) ไม่พอใจคำวินิจฉัยของอธิบดีกรมแรงงานหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมอบหมาย ก็ต้องอุทธรณ์ไปตามลำดับ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้วินิจฉัยให้นายจ้างจ่ายเงินค่าทดแทนให้ลูกจ้างแล้ว นายจ้างมิได้อุทธรณ์ ก็ต้องถือเป็นยุติตามคำวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่นั้น จะมาโต้แย้งในชั้นศาลอีกว่าลูกจ้างผู้เป็นโจทก์นั้นไม่ใช่ลูกจ้างหรือโจทก์ประสบอุบัติเหตุเพราะความผิดของโจทก์เองหรือยกเหตุตามประกาศข้อ 15 ขึ้นอ้าง เพื่อไม่จ่ายเงินค่าทดแทนหาได้ไม่
เมื่อลูกจ้างพอใจคำวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่ และไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์คำวินิจฉัยไปยังอธิบดีกรมแรงงาน เมื่อนายจ้างไม่จ่ายเงินค่าทดแทนให้ลูกจ้างตามคำวินิจฉัยนั้นลูกจ้างก็มีสิทธิฟ้องต่อศาลได้ และไม่ใช่กรณีที่อยู่ในบังคับแห่งกำหนดเวลาตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ข้อ 14 ว่าจะต้องฟ้องภายใน 30 วัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่เพียงพอสนับสนุนการกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า ศาลฎีกายกฟ้องได้แม้จำเลยบางรายไม่อุทธรณ์
เมื่อคำพยานโจทก์รับฟังไม่ได้ว่า ได้มีการกระทำผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายเกิดขึ้นจริงตามฟ้อง ดังนี้ จึงเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยอื่นจะมิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ได้รับฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจฟ้องยกฟ้องโจทก์ถึงจำเลยนั้นด้วยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213, 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีขัดทรัพย์: การสั่งให้ฟ้องคดีใหม่เป็นคำสั่งที่ไม่อุทธรณ์ได้
ในกรณีร้องขัดทรัพย์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ไปจัดการฟ้องคดีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร้องเสียใหม่ และให้รอคดีร้องขัดทรัพย์ไว้รอฟังผลคดีใหม่ คำสั่งเช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์
of 16