คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความรับผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,971 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3177/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องตั๋วสัญญาใช้เงินและขอบเขตความรับผิดของผู้สลักหลัง/ผู้รับรอง
โจทก์ฟ้องว่า บริษัท อ. ได้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่โจทก์ มีส. และจำเลยเป็นผู้อาวัลตั๋ว แล้วบริษัท อ. ได้นำตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวขายให้โจทก์ตามหนังสือรับรองการขายตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งระบุว่า บริษัท อ. จะจ่ายเงินให้แก่โจทก์ เมื่อครบกำหนดวันใช้เงินตามตั๋วสัญญาใช้เงิน และมีข้อความต่อมาว่า ส.และจำเลยได้ทราบข้อตกลงที่บริษัท อ. นำตั๋วสัญญาใช้เงินมาขายแก่โจทก์ดังกล่าวข้างต้นทุกประการ ยินยอมรับอาวัล อนึ่งถ้าธนาคารโจทก์ยอมผ่อนเวลาการชำระเงินให้แก่บริษัท อ. ถือว่า ส. และจำเลยยินยอมตกลงผ่อนเวลานั้นด้วย ข้อความดังกล่าวไม่มีลักษณะเป็นสัญญาค้ำประกัน หนังสือรับรองดังกล่าวเป็นเพียงคำรับรองว่าจำเลยเป็นผู้อาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินเท่านั้น มิได้เป็นผู้ค้ำประกันการขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินแต่อย่างใด โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อพ้นกำหนด 3 ปี นับแต่วันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนด คดีจึงขาดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 940 ประกอบมาตรา 1001

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3176/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ vs. ประเด็นใหม่: ความรับผิดตามตั๋วสัญญาใช้เงินและหนังสือรับรองการขาย
คดีเดิมโจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดตามตั๋วสัญญาใช้เงินในฐานะที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินและจำเลยที่ 2 เป็นผู้รับอาวัล ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะคดีขาดอายุความ แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดตามหนังสือรับรองการขายตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งเป็นการเรียกร้องให้รับผิดตามสัญญาอีกฉบับหนึ่งต่างหากจากตั๋วสัญญาใช้เงิน จึงเป็นคนละประเด็นกับที่โจทก์และจำเลยที่ 1 พิพาทกันในคดีเดิม ฟ้องโจทก์ส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ แต่เมื่อศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเกี่ยวกับความรับผิดตามสัญญาที่จำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีนี้ จึงต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงเช่นว่านั้นเสียก่อนแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
สำหรับฟ้องของโจทก์ส่วนที่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 2 นั้น ตามหนังสือรับรองการขายตั๋วสัญญาใช้เงินมีข้อความระบุถึงจำเลยที่ 2 เพียงว่า จำเลยที่ 2 ผู้รับอาวัลได้ทราบข้อตกลงในการที่จำเลยที่ 1 ได้นำตั๋วสัญญาใช้เงินมาขายให้แก่โจทก์ดังกล่าวข้างต้นแล้วทุกประการ จำเลยที่ 2 ยินยอมรับอาวัล และลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับอาวัล ไม่ปรากฎว่ามีข้อความอื่นใดในลักษณะเป็นการค้ำประกันคงระบุแต่เพียงว่าเป็นผู้รับอาวัล แม้จะระบุถึงเรื่องการผ่อนเวลาไว้ก็คงเป็นการกล่าวถึงความรับผิดของจำเลยที่ 2 ในฐานะผู้รับอาวัลซึ่งต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกับบุคคลที่ตนประกันตาม ป.พ.พ. มาตรา 940 โดยไม่อาจอ้างเรื่องการผ่อนเวลาตามหลักค้ำประกันทั่วไปในมาตรา 700 ขึ้นต่อสู้ได้ ฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 คดีนี้จึงเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดตามตั๋วสัญญาใช้เงิน อันเป็นประเด็นข้อวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีเดิม และเมื่อคดีเดิมถึงที่สุดแล้วฟ้องของโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3176/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ-ความรับผิดตั๋วสัญญาใช้เงิน: ประเด็นการฟ้องซ้ำและขอบเขตความรับผิดของผู้รับอาวัล
คดีเดิมโจทก์ฟ้องให้จำเลยที่1รับผิดในฐานะผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินและจำเลยที่2ในฐานะ ผู้รับอาวัลศาลพิพากษายกฟ้องเพราะคดีขาดอายุความคดีถึงที่สุดต่อมาโจทก์มาฟ้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดตามหนังสือรับรองการขายตั๋วสัญญาใช้เงินเมื่อสัญญามีข้อความว่าจำเลยที่1ไม่จ่ายเงินตามมูลค่าแห่งตั๋วสัญญาใช้เงินจำเลยที่1ยอมใช้เงินให้แก่โจทก์จนครบถ้วนตลอดถึงค่าเสียหายจึงเป็นคนละประเด็นกับที่พิพาทในคดีเดิมฟ้องโจทก์ส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่1จึงไม่เป็น ฟ้องซ้ำส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่2นั้นเมื่อสัญญาไม่มีข้อความในลักษณะเป็นการ ค้ำประกัน คงระบุเพียงว่าเป็น ผู้รับอาวัล จึงเป็นการ ใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่2รับผิดในฐานะ ผู้รับอาวัลโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกับคดีเดิมจึงเป็น ฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3176/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำและขอบเขตความรับผิดของผู้รับอาวัลในตั๋วสัญญาใช้เงิน: การพิจารณาความแตกต่างของข้อตกลง
คดีเดิมโจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดตามตั๋วสัญญาใช้เงินในฐานะที่จำเลยที่1เป็นผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินและจำเลยที่2เป็นผู้รับอาวัลศาลพิพากษายกฟ้องเพราะคดีขาดอายุความแต่คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่1รับผิดตามหนังสือรับรองการขายตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งเป็นการเรียกร้องให้รับผิดตามสัญญาอีกฉบับหนึ่งต่างหากจากตั๋วสัญญาใช้เงินจึงเป็นคนละประเด็นกับที่โจทก์และจำเลยที่1พิพาทกันในคดีเดิมฟ้องโจทก์ส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่1จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำแต่เมื่อศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเกี่ยวกับความรับผิดตามสัญญาที่จำเลยที่1จะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีนี้จึงต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงเช่นว่านั้นเสียก่อนแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี สำหรับฟ้องของโจทก์ส่วนที่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่2นั้นตามหนังสือรับรองการขายตั๋วสัญญาใช้เงินมีข้อความระบุถึงจำเลยที่2เพียงว่าจำเลยที่2ผู้รับอาวัลได้ทราบข้อตกลงในการที่จำเลยที่1ได้นำตั๋วสัญญาใช้เงินมาขายให้แก่โจทก์ดังกล่าวข้างต้นแล้วทุกประการจำเลยที่2ยินยอมรับอาวัลและลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับอาวัลไม่ปรากฏว่ามีข้อความอื่นใดในลักษณะเป็นการค้ำประกันคงระบุแต่เพียงว่าเป็นผู้รับอาวัลแม้จะระบุถึงเรื่องการผ่อนเวลาไว้ก็คงเป็นการกล่าวถึงความรับผิดของจำเลยที่2ในฐานะผู้รับอาวัลซึ่งต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกับบุคคลอื่นตนประกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา940โดยไม่อาจอ้างเรื่องการผ่อนเวลาตามหลักค้ำประกันทั่วไปในมาตรา700ข้อต่อสู้ได้ฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยที่2คดีนี้จึงเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่2ร่วมรับผิดตามตั๋วสัญญาใช้เงินอันเป็นประเด็นข้อวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีเดิมและเมื่อคดีเดิมถึงที่สุดแล้วฟ้องของโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยที่2คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้ำประกันความเสียหายจากการทำงาน: ความรับผิดของผู้ค้ำประกันเกิดขึ้นตามกฎหมาย แม้ไม่มีข้อความระบุ
เอกสารที่ทำขึ้นใช้ถ้อยคำแสดงว่าเป็นหนังสือสัญญาค้ำประกันและข้อความต่อมาก็ระบุในรายละเอียดให้เป็นที่เข้าใจได้ว่า จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันที่ลงชื่อไว้ในเอกสารดังกล่าว ขอรับรองการเข้ามาทำงานของจำเลยที่ 1 ในกรณีที่จำเลยที่ 1 ยักยอกหรือทุจริตเงินของโจทก์ ให้โจทก์ดำเนินการตามกฎหมายแก่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้ทันที ดังนี้เป็นกรณีที่จำเลยที่ 2ได้ค้ำประกันความเสียหายที่จะเกิดจากการทำงานของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2ทำหลักฐานการค้ำประกันเป็นหนังสือให้ไว้แก่โจทก์ แม้จะไม่มีข้อความในเอกสารดังกล่าวระบุว่า จำเลยที่ 2 ยอมผูกพันตนรับผิดต่อโจทก์เพื่อชำระหนี้เมื่อจำเลยที่ 1ไม่ชำระหนี้ ก็ไม่ทำให้ความรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันของจำเลยที่ 2 ที่มีอยู่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้เพราะเมื่อจำเลยที่ 2 ยินยอมผูกพันตนรับผิดต่อโจทก์ในฐานะผู้ค้ำประกันแล้ว ความรับผิดจะมีขึ้นตอนไหนเพียงใดย่อมเป็นไปตามกฎหมายไม่จำต้องระบุถึงความรับผิดดังกล่าวซ้ำอีกถึงได้ใช้คำว่า "ผู้ค้ำประกัน" อันเป็นถ้อยคำที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 11ว่าด้วยค้ำประกัน จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ในฐานะผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2986/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้และการค้ำประกัน แม้หนังสือค้ำประกันไม่สมบูรณ์ แต่การรับสภาพหนี้และยอมรับการค้ำประกันแล้ว ถือเป็นหลักฐานได้
หนังสือค้ำประกันปิดอากรแสตมป์ไม่ถูกต้องตามกฎหมายแต่เมื่อจำเลยที่2รับแล้วว่าจำเลยที่2เป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่1จริงก็ไม่จำต้องอาศัยหนังสือค้ำประกันของจำเลยที่2เป็นหลักฐานในคดีศาลพิพากษาให้จำเลยที่2รับผิดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2903/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้าง และขอบเขตค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับ
ส.เป็นเพียงลูกจ้างขับรถคันที่ถูกจำเลยกระทำละเมิดในกิจการรับขนสินค้าของโจทก์ไม่มีความผูกพันตามกฎหมายที่จะต้องทำการงานให้เป็นคุณแก่โจทก์ในครัวเรือนหรืออุตสาหกรรมของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา445โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าขาดประโยชน์จากแรงงานของส. จากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2882/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากการขุดคลองใกล้เขตที่ดินของผู้อื่น และข้อยกเว้นอายุความ
"คลอง" ก็คือสิ่งอื่นที่คล้าย "คู" ดังนั้น การขุดคลองจึงต้องอยู่ในบังคับของ ป.พ.พ. มาตรา 1342 ด้วย
การที่จำเลยตกลงให้บริษัท ก.เข้าขุดคลองในที่ดินของจำเลยเพื่อประโยชน์ของจำเลยถือได้ว่าจำเลยต้องรู้เห็นและต้องรับผิดต่อโจทก์ด้วย เมื่อคลองที่ขุดขึ้นอยู่ห่างจากแนวเขตที่ดินของโจทก์ไม่ถึง 1 เมตร ตาม ป.พ.พ. มาตรา1342 วรรคสอง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจัดการป้องกันความเสียหายอันจะเกิดแก่ความอยู่มั่นแห่งที่ดินของโจทก์ที่ติดต่อกับที่ดินที่จำเลยขุดคลอง มิใช่เรียกเอาค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดโดยตรง จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งอายุความ 1 ปี ตามป.พ.พ. มาตรา 448 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2857/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ลายมือชื่อในสัญญากู้เงิน - พยานหลักฐานไม่เพียงพอ
ธ.พยานโจทก์มิได้เป็นประจักษ์พยานรู้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อเป็นผู้กู้ในสัญญากู้เงิน ทั้งโจทก์มิได้นำผู้ที่รู้เห็นข้อเท็จจริงดังกล่าวมาเบิกความต่อศาล ที่โจทก์อ้างเหตุในชั้นฎีกาว่า พนักงานสาขาของโจทก์ผู้ที่รู้เห็นกรณีที่จำเลยที่ 1 เข้าทำสัญญากับโจทก์ย่อมต้องบอกเล่าให้ ธ.ทราบโดยละเอียด แม้ ธ.จะมารับตำแหน่งภายหลังการทำสัญญา ก็ย่อมทราบได้อย่างแน่ชัดว่า จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อต่อหน้าพนักงานของธนาคารนั้น เป็นเพียงการคาดเดาของโจทก์ที่อ้างขึ้นในชั้นฎีกา โดย ธ.มิได้เบิกความถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวเลย คำเบิกความของพยานโจทก์มีน้ำหนักน้อย
เมื่อพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาปราศจากน้ำหนัก ฟังไม่ได้ว่าลายมือชื่อในช่องผู้กู้ในสัญญากู้เงินตามฟ้องเป็นลายมือชื่อของจำเลยที่ 1 ดังนี้เมื่อโจทก์สืบไม่สมฟ้องและจำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามในสัญญากู้เงินดังกล่าวแล้ว จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันและผู้จำนองเป็นประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้มอบหมายหน้าที่และการประมาทเลินเล่อทางการเงิน
การที่จำเลยที่ 2 ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมด ซึ่งจำเลยที่ 1 มีหน้าที่จัดทำบัญชี แต่มิได้จัดทำไว้ตามระเบียบและจำเลยที่ 2 ก็มิได้ควบคุมดูแลให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติให้ถูกต้อง หากจำเลยที่ 2 ควบคุมดูแลจะทราบได้ว่ามีการปลอมเอกสารและจำเลยที่ 1 ยักยอกเงินไป แม้จำเลยที่ 2 จะได้แต่งตั้งให้ จ.ควบคุมดูแลอีกชั้นหนึ่ง เมื่อจำเลยที่ 2เป็นผู้รับผิดชอบควบคุมดูแลอยู่ด้วยก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 พ้นความรับผิด
ส่วนความเสียหายที่จำเลยที่ 1 ปลอมลายมือชื่อจำเลยที่ 2ลงในเช็คแล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารนั้น ความเสียหายของโจทก์ทั้งสองย่อมเกิดขึ้นแล้ว ส่วนเงินจำนวนดังกล่าวแม้จะมีคนต้องรับผิดหลายคน โจทก์ทั้งสองจะเลือกฟ้องให้บางคนรับผิดก็เป็นสิทธิที่จะทำได้ เมื่อจำเลยที่ 2 ประมาทเลินเล่ออันเป็นละเมิดต่อโจทก์ทั้งสองก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 พ้นความรับผิด
of 498