พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,834 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายกลุ่มบุคคล: ความรับผิดทางอาญาเมื่อไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำและสาเหตุการตายได้
คดีได้ความว่าจำเลยที่ 1,2 ฝ่ายหนึ่งกับจำเลยที่ 3 กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันแต่เหตุที่ผู้ตายตายเนื่องจากกระทำของใครไม่ปรากฏ จะตายเพราะบาดแผลใดใครเป็นผู้กระทำก็ไม่ปรากฏและได้ความว่าพยานโจทก์เห็นคน 5 - 6 คนกลุ้มรุมตีกัน ใครทำใครอย่างไรก็ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ตายเพราะการกระทำของจำเลยที่ 1,2 ยังไม่ได้ จำเลยที่ 3 ทั้งสอง คงผิดตาม ม.253 เท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน: พยานหลักฐานไม่เพียงพอพิสูจน์การกระทำที่เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
คดีได้ความว่าจำเลยที่ 1,2 ฝ่ายหนึ่งกับจำเลยที่ 3 กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันแต่เหตุที่ผู้ตายเนื่องจากการกระทำของใครไม่ปรากฏ จะตายเพราะบาดแผลใดใครเป็นผู้กระทำก็ไม่ปรากฏและได้ความว่าพยานโจทก์เห็นคน 5-6 คนกลุ้มรุมตีกันใครทำใครอย่างไรก็ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ตายเพราะการกระทำของจำเลยที่1,2 ยังไม่ได้ จำเลยทั้ง 2 คงผิดตาม มาตรา 253เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แม้มีการโต้เถียงก่อนหน้า ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว หากมีเจตนาฆ่า
การที่จำเลยและผู้ตายต่างมีอาวุธ เกิดโต้เถียงท้าทายและสมัครใจเข้าทำร้ายกัน จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายถูกลิ้นปี่ถึงตาย ดังนี้จำเลยจะอ้างว่าได้กระทำไปเพื่อป้องกันชีวิตหาได้ไม่
การที่จำเลยใช้มีดยาวถึงคืบเศษแทงเขาถูกลิ้นปี่เป็นแผลกว้าง 3 ซม. ยาว 4 ซม.ลึกจดหัวใจล้มลงขาดใจตายทันที ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเขาให้ถึงแก่ความตาย.
การที่จำเลยใช้มีดยาวถึงคืบเศษแทงเขาถูกลิ้นปี่เป็นแผลกว้าง 3 ซม. ยาว 4 ซม.ลึกจดหัวใจล้มลงขาดใจตายทันที ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเขาให้ถึงแก่ความตาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายร่วมกัน: การใช้ความรุนแรงเกินกว่าป้องกันตัว
การที่จำเลยและผู้ตายต่างมีอาวุธ เกิดโต้เถียงท้าทายและสมัครใจเข้าทำร้ายกัน จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายถูกลิ้นปี่ถึงตายดังนี้จำเลยจะอ้างว่าได้กระทำไปเพื่อป้องกันชีวิตหาได้ไม่
การที่จำเลยใช้มีดยาวถึงคืบเศษแทงเขาถูกลิ้นปี่เป็นแผลกว้าง3 ซม.ยาว4ซม. ลึกจดหัวใจล้มลงขาดใจตายในทันทีย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเขาให้ถึงแก่ความตาย
การที่จำเลยใช้มีดยาวถึงคืบเศษแทงเขาถูกลิ้นปี่เป็นแผลกว้าง3 ซม.ยาว4ซม. ลึกจดหัวใจล้มลงขาดใจตายในทันทีย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเขาให้ถึงแก่ความตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาทชุลมุนและการร่วมกันทำร้ายร่างกาย: การพิพากษาความผิดตามมาตรา 253
จำเลยทั้งสองฝ่ายวิวาทต่อสู้กันพวกของจำเลยฝ่ายหนึ่งใช้ปืนยิงอีกฝ่ายหนึ่ง ขณะนี้เองจำเลยอีกฝ่ายหนึ่งอ้างว่าได้และหนีออกมาจากการต่อสู้แล้ว เมื่อความปรากฏว่าการวิวาทได้ชุลมุนติดพันกันอยู่ตลอดมาชั่วเวลาเล็กน้อยจึงไม่อาจแยกว่าจำเลยนั้นได้ผละหนีจากการต่อสู้ขณะมีการยิงกันขึ้นแล้ว ดังนี้จำเลยอีกฝ่ายที่อ้างว่าผละหนีออกมาแล้วนั้นย่อมมีความผิดตาม มาตรา 253 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีอาญาเรื่องทำร้ายร่างกาย: การคัดค้านข้อเท็จจริงเกินขอบเขตการฎีกา
การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยทางป้องกันพอสมควรแก่เหตุเช่นนี้ โจทก์จะฎีกาว่าเป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุก็เป็นการคัดค้านในข้อเท็จจริงต้องห้าม (อ้างฎีกาที่ 931/2494)
เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยใช้ขวดทำร้ายผู้เสียหาย และศาลอุทธรณ์อาศัยหลักฐานในสำนวนวินิจฉัยต่อไป แต่ไม่ฟังว่าบาดแผลที่หน้าแข้งของผู้เสียหายเกิดจากการกระทำของจำเลย ดังนี้หาใช่เป็นการฟังข้อเท็จจริงนอกเหนือตรงกันข้ามกับหลักฐานไม่แต่เป็นข้อเท็จจริง โจทก์จะฎีกาหาได้ไม่.
เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยใช้ขวดทำร้ายผู้เสียหาย และศาลอุทธรณ์อาศัยหลักฐานในสำนวนวินิจฉัยต่อไป แต่ไม่ฟังว่าบาดแผลที่หน้าแข้งของผู้เสียหายเกิดจากการกระทำของจำเลย ดังนี้หาใช่เป็นการฟังข้อเท็จจริงนอกเหนือตรงกันข้ามกับหลักฐานไม่แต่เป็นข้อเท็จจริง โจทก์จะฎีกาหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีอาญาเรื่องทำร้ายร่างกาย ศาลฎีกาไม่รับฎีกาเมื่อเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยทางป้องกันพอสมควรแก่เหตุเช่นนี้โจทก์จะฎีกาว่าเป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุก็เป็นการคัดค้านในข้อเท็จจริงต้องห้าม (อ้างฎีกาที่ 931/2494)
เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยใช้ขวดทำร้ายผู้เสียหาย และศาลอุทธรณ์อาศัยหลักฐานในสำนวนวินิจฉัยต่อไปแต่ไม่ฟังว่าบาดแผลที่หน้าแข้งของผู้เสียหายเกิดจากการกระทำของจำเลยดังนี้หาใช่เป็นการฟังข้อเท็จจริงนอกเหนือตรงกันข้ามกับหลักฐานไม่แต่เป็นข้อเท็จจริงโจทก์จะฎีกาหาได้ไม่
เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยใช้ขวดทำร้ายผู้เสียหาย และศาลอุทธรณ์อาศัยหลักฐานในสำนวนวินิจฉัยต่อไปแต่ไม่ฟังว่าบาดแผลที่หน้าแข้งของผู้เสียหายเกิดจากการกระทำของจำเลยดังนี้หาใช่เป็นการฟังข้อเท็จจริงนอกเหนือตรงกันข้ามกับหลักฐานไม่แต่เป็นข้อเท็จจริงโจทก์จะฎีกาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกาวินิจฉัยจากบาดแผลและการกระทำ
ใช้ขวานฟันและตีเขาถูกที่ศีรษะอันเป็นที่สำคัญ มีบาดแผลลึกจดกระโหลกศีรษะถึง 2 แผลบาดเจ็บสาหัส และที่ขมับอีกหนึ่งแผลผู้ถูกทำร้ายหมดสติทันทีดังนี้ ฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่า ย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการใช้สากตำข้าวทำร้ายถึงแก่ความตาย แม้เหตุเกิดตะวันตกดินแต่ยังไม่มืดดีก็เป็นเวลากลางคืนตามกฎหมาย
ตะวันตกดินแล้ว แม้จะยังไม่มืดดี ก็เป็นเวลากลางคืนตามกฎหมายแล้ว
ใช้สากตำข้าวโตขนาดวัดผ่าศูนย์กลาง 8 เซ็นติเมตร ยาว 64 เซ็นติเมตรและวัดโดยรอบได้27เซ็นติเมตรตีศีรษะถึง 2 ที จนกระโหลกศีรษะแตกทะลุถึงมันสมองต่อมาไม่นานผู้ตายก็ถึงแก่ความตายย่อมแสดงว่า จำเลยเจตนาฆ่า
ใช้สากตำข้าวโตขนาดวัดผ่าศูนย์กลาง 8 เซ็นติเมตร ยาว 64 เซ็นติเมตรและวัดโดยรอบได้27เซ็นติเมตรตีศีรษะถึง 2 ที จนกระโหลกศีรษะแตกทะลุถึงมันสมองต่อมาไม่นานผู้ตายก็ถึงแก่ความตายย่อมแสดงว่า จำเลยเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายขณะวิวาท ไม่ถึงเจตนาฆ่า ศาลลดโทษจากฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
เมื่อเป็นกรณีที่ที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกัน จำเลยจะอ้างว่ากระทำไปโดยถูกยั่วโทษะหาได้ไม่
เนื่องมาจากมีการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันแล้ว ผู้ตายจึงเตะจำเลยก่อนถึง 2 ครั้ง จำเลยแทงผู้ตายไปครั้งเดียวด้วยมีดที่ถือติดมือมาสำหรับใช้ทำงานและเมื่อผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ซ้ำเติมดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าให้ตาย จำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา.
เนื่องมาจากมีการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันแล้ว ผู้ตายจึงเตะจำเลยก่อนถึง 2 ครั้ง จำเลยแทงผู้ตายไปครั้งเดียวด้วยมีดที่ถือติดมือมาสำหรับใช้ทำงานและเมื่อผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ซ้ำเติมดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าให้ตาย จำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา.