คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลอุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,244 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3997/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับบทกฎหมายอาญาที่ถูกต้องโดยไม่เพิ่มโทษ: ศาลอุทธรณ์แก้ข้อหาได้ แต่ต้องไม่หนักกว่าเดิม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 มิได้บัญญัติห้ามมิให้ศาลปรับบทกฎหมายที่ถูกต้องลงโทษแก่จำเลย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 วรรคสอง การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 วรรคสาม แต่กำหนดโทษของจำเลยยังคงเดิมนั้น เป็นเพียงปรับบทกฎหมายที่ถูกต้องลงโทษแก่จำเลยเท่านั้น หาได้พิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยแต่อย่างใดไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3898/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ค่าเสียหายต้องชัดเจนเหตุผล หากอุทธรณ์ไม่ชัดเจน ศาลอุทธรณ์พิจารณาไม่ได้
อุทธรณ์เรื่องค่าเสียหายที่กล่าวเพียงว่าจำเลยมิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้นตามกฎหมายนั้นจำเลยหาได้กล่าวโต้แย้งข้อเท็จจริงและยกเหตุผลให้ชัดแจ้งว่าเหตุใดจึงไม่สมควรให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามที่ศาลชั้นต้นให้ชดใช้และมีเหตุผลใดที่จะให้จำเลยรับผิดน้อยลงอุทธรณ์ของจำเลยในเรื่องค่าเสียหายจึงไม่เป็นอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาแก้เรื่องค่าเสียหายจึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายในเรื่องอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งสำเนาคำอุทธรณ์ให้คู่ความที่ไม่ใช่จำเลยอุทธรณ์ เป็นเหตุให้ศาลอุทธรณ์ไม่ปฏิบัติตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 ยื่นคำร้องขอให้ถอนผู้จัดการมรดกแล้วผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำร้องนั้น ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตและพิจารณาต่อมาเฉพาะคดีเกี่ยวกับผู้จัดการมรดกยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งผู้รองที่ 1ที่ 2 ยื่นคำแถลงคัดค้าน ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 ซึ่งมิได้เป็นผู้คัดค้านจึงมิใช่คู่ความในคดีเกี่ยวกับคำร้องนี้เมื่อผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้จัดการมรดกลาออกจากตำแหน่งได้ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 จึงมิใช่จำเลยอุทธรณ์ แต่ผู้จัดการมรดกเท่านั้นที่เป็นจำเลยอุทธรณ์ ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์ของผู้ร้องแก่ผู้ร้องที่ 3 ที่ 4 โดยมิได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ผู้จัดการมรดก และศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีมาโดยมิได้สั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อนนั้น จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ว่าด้วยการพิจารณา ตามมาตรา 247ประกอบด้วยมาตรา 243(2) ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ผู้จัดการมรดกแล้วส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบเมื่อไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เรื่องอายุความก่อนอ้างสิทธิในที่ดิน
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้หลังจากจำเลยที่ 1 ได้แย่งการครอบครองของโจทก์ไปเกินกว่า 1 ปีแล้ว โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องเรียกคืนการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวว่าไม่ถูกต้องอย่างไร กลับฎีกาว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์เพราะพยานหลักฐานและเหตุผลอื่น ดังนี้ ฎีกาของโจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ชอบหรือผิดพลาดอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2783/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากฎีกาไม่ตรงประเด็นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเพราะเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกอุทธรณ์โจทก์เพราะเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาว่าคดีโจทก์มีมูลซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัย แล้วขอให้ศาลชั้นต้นประทับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2783/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากเป็นการฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างถูกต้อง
ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเพราะเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกอุทธรณ์โจทก์ เพราะเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาว่าคดีโจทก์มีมูล ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัย แล้วขอให้ศาลชั้นต้นประทับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2728/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลยกคำขอฉุกเฉินถือเป็นที่สุด ไม่อุทธรณ์ได้ ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยไม่ชอบ
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 267 วรรคแรก เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอในเหตุฉุกเฉินแล้ว คำสั่งเช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด โจทก์จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ จึงเป็นการไม่ชอบ เมื่อโจทก์ฎีกาต่อมา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2568-2569/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามเมื่อศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษแต่ไม่เปลี่ยนบทมาตราความผิด โจทก์ฎีกาขอเพิ่มโทษไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 279,285 ลงโทษจำเลยตามมาตรา 285 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลยสำนวนละ 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 ประกอบด้วยมาตรา 279 จำคุกจำเลยสำนวนละ 3 เดือน เป็นการที่ศาลอุทธรณ์มิได้แก้บทมาตราแห่งความผิด เพียงแต่ปรับบทกฎหมายที่ลงโทษให้ถูกต้อง ทั้งโทษเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้แล้วก็ให้จำคุกจำเลยสำนวนละไม่เกิน 5 ปีจึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย คู่ความต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อบกพร่องคำฟ้องอุทธรณ์และการพิจารณาคดีโดยศาลอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ผู้อุทธรณ์มิได้ลงชื่อในคำฟ้องอุทธรณ์ คำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่การที่จะให้โจทก์แก้ฟ้องอุทธรณ์หรือสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ ก็ล่วงเลยเวลาที่จะปฏิบัติแล้ว เพราะศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาพิพากษาคดีเสร็จไปแล้วคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา: ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจสั่งคุ้มครองก่อนพิจารณาพิพากษาคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์ แม้โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ถ้าศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับฟ้องของโจทก์ คดีก็ต้องกลับไปสู่ศาลชั้นต้นที่จะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไป ศาลอุทธรณ์ยังไม่อาจสั่งหรือพิพากษาให้เป็นไปตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ ดังนั้น การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองก่อนพิพากษาต่อศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จึงไม่อาจมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้โจทก์ได้
of 225