พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,515 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3434/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องสัญญาเช่าซื้อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยไม่ประทับตราสำคัญ
หนังสือรับรองการจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์ของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทข้อ3ระบุว่า ข.เป็น หุ้นส่วนผู้จัดการ ข้อ4ระบุว่าข้อจำกัดอำนาจของหุ้นส่วนผู้จัดการไม่มีแสดงว่ามิได้บังคับว่าเมื่อหุ้นส่วนผู้จัดการลงชื่อแล้วต้องมีตราสำคัญของโจทก์ประทับไว้ด้วยจึงจะกระทำการแทนได้ สัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์ซึ่ง ข.ลงลายมือชื่อแทนโจทก์โดยมิได้ ประทับตราสำคัญของโจทก์จำเลยทั้งสองจึงเป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมายโจทก์มี อำนาจฟ้องตามสัญญา เช่าซื้อดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3378/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องผู้ทรงเช็ค: การส่งมอบเช็คเพื่อทวงหนี้ไม่ถือเป็นการโอนสิทธิ และการหักกลบลบหนี้จากหนี้ของบุคคลอื่นทำไม่ได้
โจทก์ได้เช็คพิพาทซึ่งจำเลยเป็น ผู้สั่งจ่ายและเป็น เช็คผู้ถือไว้ในครอบครองโดยจำเลยร่วม นายวงแชร์ส่งมอบให้เพื่อชำระ ค่าแชร์จึงเป็น ผู้ทรง การที่โจทก์มอบเช็คพิพาทให้จำเลยร่วมนำไปทวงถามให้จำเลยชำระหนี้หลังจากเช็คพิพาทเรียกเก็บเงินไม่ได้เป็นเพียงการมอบให้จำเลยร่วมถือไว้แทนโจทก์ไม่ใช่เป็นการโอนเช็คพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา918,989โจทก์จึงเป็นผู้ทรงอยู่และเมื่อโจทก์มิได้เป็นหนี้จำเลยจำเลยจะนำหนี้ที่จำเลยร่วมเป็นหนี้จำเลยมา หักกลบลบหนี้กับโจทก์หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3375/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความตกเป็นโมฆะ ไม่ตัดอำนาจฟ้องละเมิดเดิม
จำเลยที่ 1 ทำร้ายร่างกายโจทก์ได้รับอันตรายสาหัส โจทก์มอบอำนาจให้ ร. ทำสัญญาประนีประนอมยอมกับจำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยที่ 1ไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ร. จึงฟ้องจำเลยที่ 1 ให้ชำระค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นยกฟ้องเนื่องจากสัญญาประนีประนอมยอมความตกเป็นโมฆะดังนั้น สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นอันเสียเปล่าเท่ากับว่ามิได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อกัน ถือไม่ได้ว่าหนี้ละเมิดที่จำเลยที่ 1 กระทำต่อโจทก์ซึ่งเป็นมูลเหตุของการทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์และจำเลยที่ 1 ได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไปและได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.พ.พ. มาตรา 852 การฟ้องคดีดังกล่าวจึงไม่มีผลต่ออำนาจฟ้องของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนฐานละเมิดคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3375/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและอำนาจฟ้องในคดีละเมิด: สัญญาประนีประนอมยอมความโมฆะไม่กระทบอำนาจฟ้องเดิม
คดีเดิมภริยาโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่1ชำระหนี้ตามสัญญา ประนีประนอมยอมความ ประเด็นข้อพิพาทจึงมีว่าจำเลยที่1ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่1ชดใช้ ค่าสินไหมทดแทนเนื่องจากจำเลยที่1ทำร้ายร่างกายโจทก์และทำให้กล้องวีดีโอของโจทก์เสียหายอันเป็นการ ละเมิด ประเด็นข้อพิพาทจึงมีว่าจำเลยที่1กระทำ ละเมิดหรือไม่ดังนั้นประเด็นแห่งคดีที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้จึงมิใช่ประเด็นที่ได้วินิจฉัยมาแล้วโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีเดิมฟ้องโจทก์คดีนี้จึง ไม่เป็น ฟ้องซ้ำ อำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จำเลยที่1ย่อมมีสิทธิที่จะยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคสองคดีเดิมศาลพิพากษายกฟ้องภริยาโจทก์เพราะสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งโจทก์ มอบอำนาจให้ภริยาทำกับจำเลยที่1เป็นโมฆะจึงถือไม่ได้ว่าหนี้ ละเมิดที่จำเลยที่1กระทำต่อโจทก์ซึ่งเป็นมูลเหตุของการทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์และจำเลยที่1ได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไปและได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นของโจทก์และจำเลยที่1ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา852การฟ้องคดีดังกล่าวจึงไม่มีผลต่ออำนาจฟ้องของโจทก์โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยที่1ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนฐานละเมิดเป็นคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3375/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ-อำนาจฟ้องละเมิด: สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นโมฆะ ไม่ตัดสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย
คดีเดิมภริยาโจทก์ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความอันสืบเนื่องมาจากจำเลยทำร้ายร่างกายของโจทก์ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะสัญญาประนีประนอมยอมความมีวัตถุประสงค์ให้ระงับคดีอาญาแผ่นดินเป็นโมฆะคดีถึงที่สุดประเด็นข้อพิพาทจึงมีว่าจำเลยผิดสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่จำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์และทำให้กล้องวีดีโอของโจทก์เสียหายอันเป็นการละเมิดประเด็นข้อพิพาทจึงมีว่าจำเลยกระทำละเมิดหรือไม่ประเด็นแห่งคดีที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้จึงมิใช่ประเด็นที่ได้วินิจฉัยมาแล้วโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีเดิมไม่เป็นฟ้องซ้ำ จำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์โจทก์มอบอำนาจให้ภริยาทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยแต่จำเลยไม่ชำระหนี้ตามสัญญาโจทก์จึงมอบอำนาจให้ภริยาฟ้องจำเลยเป็นคดีก่อนปรากฏว่าศาลพิพากษายกฟ้องเพราะสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นโมฆะดังนั้นสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นอันเสียเปล่าเท่ากับมิได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อกันจึงถือไม่ได้ว่าหนี้ละเมิดที่จำเลยกระทำต่อโจทก์ซึ่งเป็นมูลเหตุของการประนีประนอมยอมความที่โจทก์และจำเลยได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไปและได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญาประนีประนอมเป็นของโจทก์และจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา852โจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานละเมิดเป็นคดีนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3375/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความโมฆะไม่กระทบอำนาจฟ้องละเมิดเดิม โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายฐานละเมิดได้
จำเลยที่1ทำร้ายร่างกายโจทก์ได้รับอันตรายสาหัสโจทก์มอบอำนาจให้ ร. ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยที่1ต่อมาจำเลยที่1ไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ร.จึงฟ้องจำเลยที่1ให้ชำระค่าเสียหายศาลชั้นต้นยกฟ้องเนื่องจากสัญญาประนีประนอมยอมความตกเป็นโมฆะดังนั้นสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นอันเสียเปล่าเท่ากับว่ามิได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อกันถือไม่ได้ว่าหนี้ละเมิดที่จำเลยที่1กระทำต่อโจทก์ซึ่งเป็นมูลเหตุของการทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์และจำเลยที่1ได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไปและได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา852การฟ้องคดีดังกล่าวจึงไม่มีผลต่ออำนาจฟ้องของโจทก์โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่1ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนฐานละเมิดคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3328/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องจำเลยที่ 4: การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 ภาค 4 ไม่เป็นบุคคลหรือนิติบุคคล จึงไม่มีอำนาจเป็นคู่ความ
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 ภาค 4 มิได้เป็นบุคคลหรือนิติบุคคลไม่อาจเป็นคู่ความในคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3328/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยที่ 4 ไม่เป็นบุคคลหรือนิติบุคคล จึงไม่มีอำนาจเป็นคู่ความในคดี โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต1ภาค4มิได้เป็นบุคคลหรือนิติบุคคลไม่อาจเป็นคู่ความในคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3319/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีผิดสัญญาประกันของพนักงานสอบสวน: เจ้าพนักงานตามตำแหน่งหน้าที่ย่อมมีอำนาจฟ้องได้
พันตำรวจโท ธ. เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐาน ผิดสัญญาประกันและเป็น พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจเดียวกันกับพันตำรวจโท ป. ผู้รับสัญญาประกัน ต่าง ปฏิบัติราชการในตำแหน่งหน้าที่ พนักงานสอบสวนด้วยกันไม่ใช่ ทำแทนกันจึงมี อำนาจฟ้องคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3277/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีก่อนการวินิจฉัยของ คชก.จังหวัด ทำให้ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์เป็นผู้เช่านาตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 โจทก์อ้างว่า จำเลยที่ 4 ได้บอกเลิกการเช่าโดยมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงร้องเรียนต่อ คชก.ตำบลดอนแฝก หลังจากคชก.ตำบลดอนแฝกมีคำวินิจฉัยแล้วโจทก์อุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อ คชก.จังหวัดนครปฐมโจทก์ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524มาตรา 57 คือให้ คชก.จังหวัดนครปฐมมีคำวินิจฉัยก่อน หลังจาก คชก.จังหวัด-นครปฐมวินิจฉัยแล้ว โจทก์ไม่พอใจคำวินิจฉัยดังกล่าว จึงนำคดีฟ้องร้องต่อศาลได้เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง