พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,314 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์: สิทธิทายาทและการกันส่วนมรดก
การแบ่งทรัพย์มรดก เมื่อเจ้ามรดกตายเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 แล้ว ต้องแบ่งตาม มาตรา 1635 และ 1636
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ศาลต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้
คำว่า "กันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่น" ตามที่มาตรา 1749 ห้ามไว้นั้น หมายความว่า กันไว้เพื่อทายาทนั้นมารับเอาไปได้ทีเดียว โดยมิต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ดังเช่นที่เคยปฏิบัติกันมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 การแบ่งให้โจทก์เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้ตามกฎหมายนั้น หาใช่เป็นการกันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่นไม่
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ศาลต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้
คำว่า "กันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่น" ตามที่มาตรา 1749 ห้ามไว้นั้น หมายความว่า กันไว้เพื่อทายาทนั้นมารับเอาไปได้ทีเดียว โดยมิต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ดังเช่นที่เคยปฏิบัติกันมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 การแบ่งให้โจทก์เพียงเท่าที่โจทก์มีสิทธิควรจะได้ตามกฎหมายนั้น หาใช่เป็นการกันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกของบุตรบุญธรรมต้องจดทะเบียน และสิทธิทายาทเมื่อมีข้อพิพาทเรื่องมรดก
บุตรบุญธรรมจะมีสิทธิรับมฤดกของผู้รับบุตรบุญธรรมได้ ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้เอาทรัพย์มฤดกของผู้ตายประมูลราคาหรือขายทอดตลาดแบ่งกัน ระหว่างโจทก์ ซึ่งเป็นทายาท เมื่อได้ความว่า จำเลยก็เป็นทายาทมีสิทธิได้รับมฤดกและโจทก์ก็มิได้คัดค้านในการที่ศาลจะแบ่งส่วนให้จำเลยด้วย ดังนี้ ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาแบ่งส่วนให้จำเลยด้วยได้ และในคดีเช่นนี้ค่าฤาชาธรรมเนียมทั้งค่าทนายศาลสั่งให้ชักจากกองมฤดกก่อนแล้วจึงให้แบ่งกันระหว่างทายาท.
โจทก์ฟ้องขอให้เอาทรัพย์มฤดกของผู้ตายประมูลราคาหรือขายทอดตลาดแบ่งกัน ระหว่างโจทก์ ซึ่งเป็นทายาท เมื่อได้ความว่า จำเลยก็เป็นทายาทมีสิทธิได้รับมฤดกและโจทก์ก็มิได้คัดค้านในการที่ศาลจะแบ่งส่วนให้จำเลยด้วย ดังนี้ ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาแบ่งส่วนให้จำเลยด้วยได้ และในคดีเช่นนี้ค่าฤาชาธรรมเนียมทั้งค่าทนายศาลสั่งให้ชักจากกองมฤดกก่อนแล้วจึงให้แบ่งกันระหว่างทายาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกของบุตรบุญธรรมและการแบ่งมรดกของทายาท
บุตรบุญธรรมจะมีสิทธิรับมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรมได้ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้เอาทรัพย์มรดกของผู้ตายประมูลราคาหรือขายทอดตลาดแบ่งกันระหว่างโจทก์ซึ่งเป็นทายาท เมื่อได้ความว่า จำเลยก็เป็นทายาทมีสิทธิได้รับมรดก และโจทก์ก็มิได้คัดค้านในการที่ศาลจะแบ่งส่วนให้จำเลยด้วยดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาแบ่งส่วนให้จำเลยด้วยได้และในคดีเช่นนี้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งค่าทนายศาลสั่งให้ชักจากกองมรดกก่อนแล้วจึงให้แบ่งกันระหว่างทายาท
โจทก์ฟ้องขอให้เอาทรัพย์มรดกของผู้ตายประมูลราคาหรือขายทอดตลาดแบ่งกันระหว่างโจทก์ซึ่งเป็นทายาท เมื่อได้ความว่า จำเลยก็เป็นทายาทมีสิทธิได้รับมรดก และโจทก์ก็มิได้คัดค้านในการที่ศาลจะแบ่งส่วนให้จำเลยด้วยดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาแบ่งส่วนให้จำเลยด้วยได้และในคดีเช่นนี้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งค่าทนายศาลสั่งให้ชักจากกองมรดกก่อนแล้วจึงให้แบ่งกันระหว่างทายาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิร่วมที่ดิน, ทายาทรับมรดก, หน้าที่นำสืบ, กฎหมายคนต่างด้าว
ปู่ร่วมซื้อกรรมสิทธิที่ดินร่วมกับผู้อื่นคนละครึ่ง ภายหลังปู่ย่าและบิดาถงแก่กรรมหมด คงเหลือแต่หลานเป็นทายาท หลานย่อมมีสิทธิฟ้องขอแบ่งที่ดินนั้นครี่งหนี่งได้
ในเรื่องหน้าที่นำสืบนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้ฝ่ายใดนำสืบก่อนแล้วฝ่ายนั้นไม่ยื่นคำโต้แย้งคำสั่งนั้นตามมาตรา 226 ( 2 )แล้ว ก็หมดสิทธิอุทธร์ฎีกาในข้อนี้
พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 ไม่ได้ห้ามมิให้คนต่างด้าวมีที่ดินเสียทีเดียวและการที่มีที่ดินมาก่อนแล้ว ไม่ได้ไปจดทะเบียนก็ไม่เป็นเหตุให้ที่ดินของเขาตกไปเป็นของคนอื่น.
ในเรื่องหน้าที่นำสืบนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้ฝ่ายใดนำสืบก่อนแล้วฝ่ายนั้นไม่ยื่นคำโต้แย้งคำสั่งนั้นตามมาตรา 226 ( 2 )แล้ว ก็หมดสิทธิอุทธร์ฎีกาในข้อนี้
พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว 2486 ไม่ได้ห้ามมิให้คนต่างด้าวมีที่ดินเสียทีเดียวและการที่มีที่ดินมาก่อนแล้ว ไม่ได้ไปจดทะเบียนก็ไม่เป็นเหตุให้ที่ดินของเขาตกไปเป็นของคนอื่น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกเกิดขึ้นเมื่อใด: ทายาทต้องมีสิทธิในขณะเจ้ามรดกตาย
เจ้ามรดกตาย มรดกย่อมตกทอดแก่ทายาททันที บุคคลธรรมดาที่จะเป็นทายาทและมีสิทธิรับมรดกของบุคคลใด นอกจากจะต้องมีสภาพหรือสามารถมีสิทธิตาม มาตรา1604 แล้วยังต้องมีสิทธิที่จะรับมรดกในขณะที่เจ้ามรดกตายด้วย บุตรในกรณีที่มีคำพิพากษาว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายนั้นมีผลนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุด ถ้าในขณะที่คำพิพากษาถึงที่สุดนั้น เป็นเวลาภายหลังเจ้ามรดกตายแล้ว และไม่มีมรดกจะรับก็ไม่มีทางจะให้เด็กนั้นได้รับมรดกได้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของบิดาโดยอ้างข้อที่ศาลพิพากษา ว่าเป็นบุตรเท่านั้น ไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่าเมื่อก่อนบิดาตาย บิดาได้รับรองโจทก์ว่าเป็นบุตร อันจะทำให้มีสิทธิรับมรดกตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 หรือไม่ คงมีประเด็นข้อเถียงว่าคำสั่งของศาลที่แสดงไว้นั้น จะมีผลแก่โจทก์ในทางรับมรดกอย่างไรหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของบิดาโดยอ้างข้อที่ศาลพิพากษา ว่าเป็นบุตรเท่านั้น ไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่าเมื่อก่อนบิดาตาย บิดาได้รับรองโจทก์ว่าเป็นบุตร อันจะทำให้มีสิทธิรับมรดกตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 หรือไม่ คงมีประเด็นข้อเถียงว่าคำสั่งของศาลที่แสดงไว้นั้น จะมีผลแก่โจทก์ในทางรับมรดกอย่างไรหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทายาทรับมรดกเฉพาะเจาะจงต้องรับภาระผูกพันเดิมของทรัพย์สินนั้นด้วย
ตามพินัยกรรมได้ระบุทรัพย์ที่ยกให้แก่บรรดาทายาทไว้เป็นกิจลักษณะ ย่อมถือว่าผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมเป็นผู้รับในลักษณะเฉพาะตามความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.1651(2) ต้องรับภาระผูกพันเช่นภาระจำนองที่ติดอยู่กับทรัพย์ที่ตนรับด้วย
ข้อความในพินัยกรรมข้อหนึ่งที่กล่าวว่า 'ทรัพย์สินอันใดที่มิได้ระบุไว้ข้างต้นบรรดาที่มีเหลืออยู่ในวันที่ข้าพเจ้าวายชนม์ลงจะเป็นสังหาริมทรัพย์ก็ดีอสังหาริมทรัพย์ก็ดี ให้ผู้จัดการมรดกรวมขายเอาเงินทำศพ และจัดการมรดกของข้าพเจ้าและทำบุญในส่วนกุศลสาธารณะประโยชน์ได้ตามที่เห็นสมควร'นั้น เป็นข้อความกำหนดที่สั่งให้ผู้จัดการมรดกจัดการขายทรัพย์ที่มิได้ระบุให้ผู้ใด ไว้ขายเอาเงินทำศพและทำบุญมิได้หมายความให้ไถ่ถอนการจำนองหรือชำระหนี้สินในทรัพย์ที่ระบุให้แก่ผู้ใดไว้แล้ว เพื่อผู้นั้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1740 เป็นเรื่องบัญญัติถึงวิธีให้ผู้จัดการมรดกจัดการทรัพย์มรดกเท่านั้นมิได้หมายความจะให้ลบล้างความในมาตรา 1651(2)
ข้อความในพินัยกรรมข้อหนึ่งที่กล่าวว่า 'ทรัพย์สินอันใดที่มิได้ระบุไว้ข้างต้นบรรดาที่มีเหลืออยู่ในวันที่ข้าพเจ้าวายชนม์ลงจะเป็นสังหาริมทรัพย์ก็ดีอสังหาริมทรัพย์ก็ดี ให้ผู้จัดการมรดกรวมขายเอาเงินทำศพ และจัดการมรดกของข้าพเจ้าและทำบุญในส่วนกุศลสาธารณะประโยชน์ได้ตามที่เห็นสมควร'นั้น เป็นข้อความกำหนดที่สั่งให้ผู้จัดการมรดกจัดการขายทรัพย์ที่มิได้ระบุให้ผู้ใด ไว้ขายเอาเงินทำศพและทำบุญมิได้หมายความให้ไถ่ถอนการจำนองหรือชำระหนี้สินในทรัพย์ที่ระบุให้แก่ผู้ใดไว้แล้ว เพื่อผู้นั้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1740 เป็นเรื่องบัญญัติถึงวิธีให้ผู้จัดการมรดกจัดการทรัพย์มรดกเท่านั้นมิได้หมายความจะให้ลบล้างความในมาตรา 1651(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้จัดการมฤดกขายทรัพย์มฤดกและผลผูกพันต่อทายาท ผู้รับซื้อสุจริต
ผู้ตายทำพินัยกรรม์ยกที่ดินให้เด็ก และตั้งบิดาของเด็กเป็นผู้จัดการมฤดก
บิดาลงชื่อในโฉนดในฐานะผู้จัดการมฤดกแล้วโอนขายที่ดินนั้นมห้แก่บุคคลภายนอกซึ่งรับโอนทางทะเบียนไปโดยสุจริต ดังนี้เด็กย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจกรรมทั้งหลายอนผู้จัดการมฤดกได้ทำไปภายในขอบอำนาจในฐานะที่เป็นผู้จัดการมฤดก เด็กจะนำมาฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนไม่ได้.
บิดาลงชื่อในโฉนดในฐานะผู้จัดการมฤดกแล้วโอนขายที่ดินนั้นมห้แก่บุคคลภายนอกซึ่งรับโอนทางทะเบียนไปโดยสุจริต ดังนี้เด็กย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจกรรมทั้งหลายอนผู้จัดการมฤดกได้ทำไปภายในขอบอำนาจในฐานะที่เป็นผู้จัดการมฤดก เด็กจะนำมาฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย่งทรัพย์มรดก: ข้อจำกัดในการขอครอบครองมรดกโดยไม่เข้าสู่กระบวนการจัดการมรดกตามกฎหมาย
โจทก์เป็นภรรยาผู้ตาย ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นบุตรขอให้ (1) ส่งทรัพย์สินของผู้ตายทั้งหมดให้โจทก์มีสิทธิยึดถือครอบครองแต่ผู้เดียว หรือว่า (2) ให้แบ่งปันทรัพย์ซึ่งโจทก์มีส่วนได้รับ 2206 บาท ดังนี้ศาลบังคับให้ตามฟ้องโจทก์ไม่ได้ เพราะคำขอข้อ 1 ไม่ใช่เรื่องขอเข้าจัดการมฤดกตามกฎหมาย เป็นการขอเข้าครอบครองเฉย ๆ ซึ่งจำเลยเป็นทายาทมีส่วนได้ในกองมฤดกอยู่ด้วย จึงทำไม่ได้ คำขอข้อ 2 โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องเป็นเรื่องขอแบ่งสมรสและแบ่งมฤดก จำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้ในเรื่องสินเดิมของผู้ตาย ไม่มีทางจะแบ่งให้ในคดีนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742-743/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของความตายของจำเลยหลังศาลพิพากษา: คำพิพากษายังสมบูรณ์และดำเนินการกับทายาทได้
ข้อเท็จจริงที่ว่า จำเลยตายเสียก่อนที่ศาลพิพากษานั้นเมื่อไม่มีฝ่ายใดกล่าวอ้างขึ้นมา จะถือว่าศาลได้รู้ข้อเท็จจริงนี้แล้วไม่ได้
จำเลยตายก่อนศาลพิพากษาแต่ความปรากฏต่อศาลภายหลังศาลพิพากษาแล้วนั้น คำพิพากษานั้นก็คงสมบูรณ์
ในคดีแพ่งเมื่อปรากฏต่อศาลว่า คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายเป็นอำนาจของศาลชั้นต้นดำเนินคดีหาทายาทเข้ารับมรดกความ
จำเลยตายก่อนศาลพิพากษาแต่ความปรากฏต่อศาลภายหลังศาลพิพากษาแล้วนั้น คำพิพากษานั้นก็คงสมบูรณ์
ในคดีแพ่งเมื่อปรากฏต่อศาลว่า คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายเป็นอำนาจของศาลชั้นต้นดำเนินคดีหาทายาทเข้ารับมรดกความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการขายแทนทายาท: การเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินที่ขายโดยมารดาแทนบุตร
ที่ดินมฤดกตกได้แก่มารดาบุตร เมื่อเจ้ามฤดกตายแล้วทายาทก็เก็บค่าเช่าแบ่งกันต่อมาประมาณ 4 ปี มารดาโอนขายที่มฤดกในนามของตนและแทนเด็กไปตามลำพังดังนี้ อัยยการเป็นโจทก์ฟ้องแทนเด็กขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายได้
การเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งผู้ขายขายในนามของตนเองและขายแทน เมื่อมีการเพิกถอนสัญญาโดยขายแทนเด็กไม่ได้ ก็ต้องเพิกถอนทั้งหมดส่วนผู้ขายจะต้องรับผิดชอบต่อผู้ซื้ออย่างไรก็คงมีอยู่ตามกฎหมาย
มารดาขายที่ดินแทนเด็กตามลำพังนั้น ถ้าผู้ซื้อทราบอยู่แล้วว่าเด็กทั้งสองมีกรรมสิทธิในทรัพย์นั้นด้วย ผู้ซื้อจะยกเอาความสุจริตขึ้นต่อสู้ไม่ได้ ฝ่ายเด็กก็ขอให้เพิกถอนสัญญานั้นได้
การเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งผู้ขายขายในนามของตนเองและขายแทน เมื่อมีการเพิกถอนสัญญาโดยขายแทนเด็กไม่ได้ ก็ต้องเพิกถอนทั้งหมดส่วนผู้ขายจะต้องรับผิดชอบต่อผู้ซื้ออย่างไรก็คงมีอยู่ตามกฎหมาย
มารดาขายที่ดินแทนเด็กตามลำพังนั้น ถ้าผู้ซื้อทราบอยู่แล้วว่าเด็กทั้งสองมีกรรมสิทธิในทรัพย์นั้นด้วย ผู้ซื้อจะยกเอาความสุจริตขึ้นต่อสู้ไม่ได้ ฝ่ายเด็กก็ขอให้เพิกถอนสัญญานั้นได้