คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทำร้ายร่างกาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,834 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายระหว่างวิวาท: การพิจารณาเจตนาและฐานความผิด
เมื่อเป็นกรณีที่ที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกัน จำเลยจะอ้างว่ากระทำไปโดยถูกยั่วโทษะหาได้ไม่
เนื่องมาจากมีการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันแล้ว ผู้ตายจึงเตะจำเลยก่อนถึง 2 ครั้งจำเลยแทงผู้ตายไปครั้งเดียวด้วยมีดที่ถือติดมือมาสำหรับใช้ทำงานและเมื่อผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ซ้ำเติมดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าให้ตายจำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาต่างกรรมต่างวาระและการบังคับใช้บทกฎหมายตามฟ้อง
ในคดีที่จำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายผู้เสียหายหลายคนโจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยต่างมีมีดเป็นอาวุธสมคบกันฟันและแทงทำร้ายร่างกายนายสอาดกับนายใจถึงบาดเจ็บสาหัสทุพลภาพฯ" ในฟ้องมิได้กล่าวว่าการกระทำของจำเลยเป็นกิจลักษณะต่างกรรมต่างวาระและโจทก์ก็มิได้นำสืบว่าการกระทำร้ายได้เกิดขึ้นในลักษณะอย่างไร ทั้งคำขอท้ายฟ้องโจทก์มิได้อ้าง ม.71 ให้เรียงกะทงลงโทษ เพียงเท่านั้นยังไม่พอฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกะทง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกระทงความผิดฐานทำร้ายร่างกายหลายคน: การพิจารณาต่างกรรมต่างวาระและการบังคับใช้ตามฟ้อง
ในคดีที่จำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายผู้เสียหายหลายคนโจทก์บรรยายฟ้องว่า 'จำเลยต่างมีมีดเป็นอาวุธสมคบกันฟันและแทงทำร้ายร่างกายนายสอาดกับนายใจถึงบาดเจ็บสาหัสทุพพลภาพฯ'ในฟ้องมิได้กล่าวว่าการกระทำของจำเลยเป็นกิจจะลักษณะต่างกรรมต่างวาระและโจทก์ก็มิได้นำสืบว่าการกระทำร้ายได้เกิดขึ้นในลักษณะอย่างไรทั้งคำขอท้ายฟ้องโจทก์มิได้อ้าง มาตรา71 ให้เรียงกระทงลงโทษ เพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาบาดแผลและการกระทำของผู้กระทำ
ใช้มือชกหนึ่งทีถูกที่จมูกเลือดกำเดาไหล ไม่ปรากฎว่าเลือดกำเดาออกเพราะเหตุใดและชกแรงแค่ไหน ย่อมมีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บเท่านั้น
สำนวนการสอบสวนที่ศาลเรียกมาเองนั้นศาลจะยกขึ้นให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาบาดแผลและการกระทำโดยเจตนา
ใช้มือชกหนึ่งทีถูกที่จมูกเลือดกำเดาไหล ไม่ปรากฏว่าเลือดกำเดาออกเพราะเหตุใดและชกแรงแค่ไหน ย่อมมีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บเท่านั้น
สำนวนการสอบสวนที่ศาลเรียกมาเองนั้นศาลจะยกขึ้นให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาบาดแผลและเหตุการณ์ประกอบ
ผู้ตายเป็นคนมุทะลุดุร้ายเคยทุบตีรังแกจำเลยเสมอ ตอนหัวค่ำของวันเกิดเหตุผู้ตายเอาไม้คานตีจำเลยโดยจำเลยไม่ได้ต่อสู้มีรอยฟกช้ำหลายแห่ง จำเลยวิ่งหนีไป ผู้ตายวิ่งตามไปขู่ว่าไม่กลับจะต้องตายจำเลยกลัวก็ยอมกลับ ราว 2 ทุ่มผู้ตายเอามีดมาสับและพูดกับจำเลยว่ามึงมองดูฟ้าเสียเถอะต่อไปมึงจะไม่ได้ดูแล้ว ลับมีดแล้วผู้ตายก็เข้าไปนอนราว 2 ยามบุตรคนเล็กร้องจำเลยและผู้ตายก็ตื่นจำเลยอุ้มให้บุตรกินนม ขณะนั้นผู้ตายล้วงเอามีดออกจากใต้ที่นอน จำเลยจึงวางบุตรลงแล้วเข้าแย่งมีดจากผู้ตาย เมื่อแย่งได้ก็ใช้ฟันผู้ตายหลายทีจนผู้ตายเงียบไป ผู้ตายถูกฟันมีแผล 8 แห่งและมีแผลที่สันหลังด้วยเห็นได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายมากมายจนไม่มีโอาสที่จะทำอะไรจำเลยหรือจำเลยมีทางที่จะหลีกเลี่ยงไปให้พ้นอันตรายได้ก็หาหลีกหนีไปไม่และทั้ง ๆ ที่ผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรจะทำร้ายจำเลย ๆ ก็ยังฟันผู้ตายซ้ำเติมอีกโดยไม่ยับยั้งใจ ฟันเพื่อให้ผู้ตายตายเลยเช่นนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ถูกทำร้ายก่อน ศาลพิจารณาบาดแผลและพฤติการณ์
ผู้ตายเป็นคนมุทะลุดุร้ายเคยทุบตีรังแกจำเลยเสมอ ตอนหัวค่ำของวันเกิดเหตุผู้ตายเอาไม้คานตีจำเลย โดยจำเลยไม่ได้ต่อสู้มีรอยฟกช้ำหลายแห่ง จำเลยวิ่งหนีไป ผู้ตายวิ่งตามไปขู่ว่าไม่กลับจะต้องตายจำเลยกลัวก็ยอมกลับ ราว 2 ทุ่มผู้ตายเอามีดมาลับและพูดกับจำเลยว่ามึงมองดูฟ้าเสียเถอะต่อไปมึงจะไม่ได้ดูแล้ว ลับมีดแล้วผู้ตายก็เข้าไปนอน ราว 2 ยามบุตรคนเล็กร้องจำเลยกลัวและผู้ตายก็ตื่นจำเลยอุ้มให้บุตรกินนม ขณะนั้นผู้ตายล้วงเอามีดออกจากใต้ที่นอน จำเลยจึงวางบุตรลงแล้วเข้าแย่งมีดจากผู้ตาย เมื่อแย่งได้ก็ใช้ฟันผู้ตายหลายทีจนผู้ตายเงียบไป ผู้ตายถูกฟันมีแผล 8 แห่งและมีแผลที่สันหลังด้วย.เห็นได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายมากมายจนไม่มีโอกาสที่จะทำอะไรจำเลย หรือจำเลยมีทางที่จะหลีกเลี่ยงไปให้พ้นอันตรายได้ก็หาหลีกหนีไปไม่และทั้งๆ ที่ผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรจะทำร้ายจำเลยๆ ก็ยังฟันผู้ตายซ้ำเติมอีกโดยไม่ยับยั้งใจ ฟันเพื่อให้ผู้ตายตายเลยเช่นนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย: ความรับผิดชอบเฉพาะผู้ลงมือแทง
ในกรณีที่จำเลยกับผู้ตายต่างสมัครในวิวาทเข้าทำร้ายกันจนผลผู้ตายตายลง โดยจำเลยที่ 1 และผู้ตายเริ่มเข้าทำร้ายกันจำเลยที่ 1 ใช้พายและฆ้อนทำร้ายผู้ตายไม่เป็นแผลฉกรรจ์ส่วนผู้ตายมีมีดขอแล้วเข้ากอดปล้ำกันจำเลยที่ 2 เห็นจำเลยที่ 1 เสียเปรียบเข้าช่วยจำเลยที่ 1 โดยใช้ไม้คานตีและใช้มีดแทงผู้ตายถูกชายโครงขวาทลุช่องท้องเป็นแผลฉกรรจ์แพทย์ลงความเห็นว่าถึงตายเพราะแผลนี้.ข้อเท็จจริงเช่นนี้ยังไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ในการทำร้ายผู้ตาย จำเลยที่ 1 ควรมีความผิดเพียงกรรมที่ตนทำฐานทำร้ายร่างกายตาม ม.256 เท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย: การแบ่งแยกความรับผิดชอบของผู้ร่วมวิวาทและการพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
ในกรณีที่จำเลยกับผู้ตายต่างสมัครใจวิวาทเข้าทำร้ายกันจนผลผู้ตายตายลง โดยจำเลยที่ 1 และผู้ตายเริ่มเข้าทำร้ายกัน จำเลยที่ 1 ใช้พายและฆ้อนทำร้ายผู้ตายไม่เป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนผู้ตายมีมีดขอแล้วเข้ากอดปล้ำกัน จำเลยที่ 2 เห็นจำเลยที่ 1 เสียเปรียบเข้าช่วยจำเลยที่ 1 โดยใช้ไม้คานตีและใช้มีดแทงผู้ตายถูกชายโครงขวาทะลุช่องท้องเป็นแผลฉกรรจ์ แพทย์ลงความเห็นว่าถึงตายเพราะแผลนี้ ข้อเท็จจริงเช่นนี้ยังไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ในการทำร้ายผู้ตายจำเลยที่ 1 ควรมีความผิดเพียงกรรมที่ตนทำฐานทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 254 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาลักทรัพย์-ทำร้ายร่างกาย: การดื่มน้ำส้มในวงไพ่โดยเข้าใจผิด ไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ หากไม่มีเจตนา
เจ้าของร้านอนุญาตให้ผู้ที่มาเล่นไพ่กินน้ำส้มได้เปล่าจำเลยเข้าไปดูการเล่น เอาน้ำส้มกินในที่นั้น โดยเข้าใจว่ากินได้เช่นเดียวกับผู้เล่น ไม่มีเจตนาลักทรัพย์เมื่อมีผู้ขัดขวางจึงเกิดทำร้ายกัน เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น
of 184