คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องซ้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,459 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีขาดนัดพิจารณาไม่ถือเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็น หากฟ้องใหม่ได้
คดีก่อนโจทก์ขาดนัดพิจารณาจำเลยขอให้พิจารณาคดีไปฝ่ายเดียว โดยจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน ศาลพิพากษาว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาให้ยกฟ้องโจทก์ จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความนั้น เป็นคำพิพากษาซึ่งยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดี โจทก์ย่อมนำคดีมาฟ้องใหม่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีมรดก: การที่โจทก์ไม่ยกเหตุรับรองบุตรขึ้นต่อสู้ในคดีเดิม ทำให้ไม่สามารถฟ้องเรียกมรดกโดยอ้างเหตุเดียวกันอีกได้
คดีเดิมจำเลยฟ้องเรียกมรดกผู้ตายจากโจทก์ จึงเป็นกรณีที่พิพาทกันเรื่องมรดกโดยตรงและมีประเด็นชัดแจ้งว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายได้อย่างไร แต่โจทก์ให้การสู้คดีเฉพาะเรื่องพินัยกรรมอย่างเดียว มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เลยว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตรดังนี้ เมื่อศาลพิพากษาชี้ขาดว่าพินัยกรรมนั้นใช้ไม่ได้ คดีถึงที่สุดฉนั้นโจทก์จะรื้อฟื้นกล่าวหาเรียกมรดกรายเดียวกันขึ้นมาอีกโดยกล่าวอ้างว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตรไว้แล้วโจทก์จึงมีสิทธิได้รับมรดกเช่นนี้หาได้ไม่เพราะมิใช่คนละประเด็นกับคดีก่อน ย่อมถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำเรื่องมรดก: การที่โจทก์ไม่ยกเหตุรับรองบุตรเป็นข้อต่อสู้ในคดีก่อน ทำให้ไม่สามารถฟ้องเรียกมรดกโดยอ้างเหตุเดียวกันอีกได้
คดีเดิมจำเลยฟ้องเรียกมรดกผู้ตายจากโจทก์ จึงเป็นกรณีที่พิพาทกันเรื่องมรดกโดยตรงและมีประเด็นชัดแจ้งว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายได้อย่างไร แต่โจทก์ให้การสู้คดีเฉพาะเรื่องพินัยกรรมอย่างเดียว มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เลยว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตร ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาชี้ขาดว่าพินัยกรรมนั้นใช้ไม่ได้ คดีถึงที่สุด ฉะนั้นโจทก์จะรื้อฟื้นกล่าวหาเรียกมรดกรายเดียวกันขึ้นมาอีกโดยกล่าวอ้างว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตรไว้แล้วโจทก์จึงมีสิทธิได้รับมรดกเช่นนี้หาได้ไม่ เพราะมิใช่คนละประเด็นกับคดีก่อน ย่อมถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำค่าเสียหาย: การฟ้องเรียกค่าเสียหายซ้ำในประเด็นที่เคยฟ้องร้องและศาลมีอำนาจพิจารณาแล้ว ถือเป็นฟ้องซ้ำตาม ป.วิ.แพ่ง ม.148
โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายแล้ว ในคดีนั้นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายตั้งแต่วันผิดนัดถึงวันฟ้องเท่านั้น คดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกาพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียงแค่วันฟ้อง ดังนี้ แม้ปรากฎว่าจำเลยเพิ่งจะส่งมอบห้องพิพาทแก่โจทก์ โจทก์จะกลับมาฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายนับตั้งแต่วันฟ้องในคดีก่อนจนถึงวันจำเลยส่งมอบห้องพิพาทใหม่อีกไม่ได้
ค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องใหม่นี้ โจทก์มีทางจะเรียกรวมไปในคดีก่อน และศาลก็อาจพิพากษาให้จำเลย+ได้อยู่แล้วเป็นฟ้องในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกับคดีก่อน ต้องห้ามตามป.วิ.แพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากละเมิดที่ควรฟ้องรวมในคดีเดิม ศาลฎีกายกฟ้อง
โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายแล้ว ในคดีนั้นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายตั้งแต่วันผิดนัดถึงวันฟ้องเท่านั้น คดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกาพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียงแค่วันฟ้อง ดังนี้ แม้ปรากฏว่าจำเลยเพิ่งจะส่งมอบห้องพิพาทแก่โจทก์ โจทก์จะกลับมาฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายนับตั้งแต่วันฟ้องในคดีก่อนจนถึงวันจำเลยส่งมอบห้องพิพาทใหม่อีกไม่ได้
ค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องใหม่นี้ โจทก์มีทางจะเรียกรวมไปในคดีก่อน และศาลก็อาจพิพากษาให้จำเลยชำระได้อยู่แล้วเป็นฟ้องในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกับคดีก่อน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: สิทธิเรียกร้องบังคับโอน และการฟ้องซ้ำ
ข้อความในสัญญามีว่า ได้ซื้อขายที่ดินกันและได้ชำระราคากันเสร็จแล้ว แต่มีกล่าวไว้อีกว่าคู่สัญญาจะต้องไปทำการโอนโฉนดที่ดินที่ซื้อขายให้แก่กันภายในกำหนด ดังนี้ย่อมเป็นสัญญาจะซื้อขาย หาใช่เป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาด
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกันไว้แล้ว ผู้ขายถึงแก่กรรมลงก่อนทำการโอน ดังนี้ ผู้ซื้อย่อมฟ้องผู้รับมรดกของผู้ขายให้ทำการโอนที่ดินนั้น ให้ตามสัญญาได้
โจทก์เคยฟ้องจำเลย ขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินพิพาทที่โจทก์ซื้อไว้จากผู้ตาย เป็นกรรมสิทธิของโจทก์ศาลวินิจฉัยว่าสัญญาที่โจทก์ฟ้องเป็นเพียงสัญญาจะซื้อขายเท่านั้น โจทก์ยังไม่มีกรรมสิทธิ จึงพิพากษายกฟ้อง ดังนี้ โจทก์ย่อมฟ้องใหม่ให้จำเลยโอนที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายนั้น ให้แก่โจทก์ ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเบิกความเท็จซ้ำ: โจทก์ฟ้องได้ครั้งเดียว แม้ข้อความเท็จหลายตอน
แม้จำเลยจะเบิกความเท็จหลายตอน ก็เป็นกรรมและวาระเดียวกัน โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ครั้งเดียว โจทก์จะ แบ่งฟ้องเป็นตอน ๆ ไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 39 (4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเบิกความเท็จซ้ำ: โจทก์มีสิทธิฟ้องได้ครั้งเดียว แม้จะเป็นหลายตอน
แม้จำเลยจะเบิกความเท็จหลายตอน ก็เป็นกรรมและวาระเดียวกันโจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ครั้งเดียว โจทก์จะแบ่งฟ้องเป็นตอนๆ ไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: การเรียกร้องค่าเสียหายจากการยึดครองทรัพย์สินที่ศาลเคยพิพากษาแล้ว
กรณีที่จำเลยเข้าแย่งทำนาภายหลังที่โจทก์ฟ้องคดีก่อนนั้น เป็นการละเมิดที่เกิดขึ้นใหม่ในระหว่างที่เป็นความกัน โจทก์ไม่มีทางที่จะทราบและกล่าวเป็นข้อหาขึ้นได้ในขณะฟ้องคดีก่อนนั้น ฉะนันการที่โจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหาย ในการที่ จำเลยทำละเมิดระหว่างคดีก่อนนั้น จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ แต่ถ้ามีทางที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่า เสียหายที่ได้เกิดขึ้นแล้ว และจะเกิดขึ้นต่อไป รวมไปในฟ้องโจทก์ในคดรก่อนได้อยู่แล้ว โจทก์มิได้นำเาเรียกร้อง เสีย การอ้างว่าไม่แน่ว่าจะชนะคดีหรือไม่ หาทำให้เกิดสิทธิฟ้องใหม่แต่อย่างไรไม่ ถ้าฟ้องใหม่ในกรณีหลังนี้ ยอ่ม ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ.
โจทก์เคยฟ้องขอแบ่งมรดกที่ดินจากผู้มีชื่อ ในระหว่างคดีผู้มีชื่อโอนขายที่ดินนั้นแก่จำเลย โจทก์จึงยื่นคำร้องขอ เรียกจำเลยเข้ามาเป็นจำเลยด้วย ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีได้ส่วนแบ่งที่ดิน คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์กลับมาฟ้อง เรียกค่าเสียหายจากจำเลยอีกในการที่จำเลยได้เข้าทำนาส่วนของโจทก์ ซึ่งโจทก์มีทางที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทน นี้ รวมไปในฟ้องในคดีก่อนได้อยู่แล้ว ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตาม าป.ม.ว.แพ่งมาตรา 148./ เพราะ ประด็นเนื่องมาจากมูลฐานเดียวกัน คือจำเลยยึดครองทรัพย์สินของโจทก์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการยึดครองทรัพย์สินที่พิพาทในคดีก่อน แม้เรียกค่าเสียหายภายหลัง ก็ถือเป็นฟ้องซ้ำ
กรณีที่จำเลยเข้าแย่งทำนาภายหลังที่โจทก์ฟ้องคดีก่อนนั้นเป็นการละเมิดที่เกิดขึ้นใหม่ในระหว่างที่เป็นความกันโจทก์ไม่มีทางที่จะทราบและกล่าวเป็นข้อหาขึ้นได้ในขณะฟ้องคดีก่อนนั้น ฉะนั้นการที่โจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยทำละเมิดระหว่างคดีก่อนนั้น จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำแต่ถ้ามีทางที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าเสียหายที่ได้เกิดขึ้นแล้ว และจะเกิดขึ้นต่อไปรวมไปในฟ้องโจทก์ในคดีก่อนได้อยู่แล้วโจทก์มิได้นำพาเรียกร้องเสียการอ้างว่าไม่แน่ว่าจะชนะคดีหรือไม่ หาทำให้เกิดสิทธิฟ้องใหม่แต่อย่างไรไม่ถ้าฟ้องใหม่ในกรณีหลังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์เคยฟ้องขอแบ่งมรดกที่ดินจากผู้มีชื่อ ในระหว่างคดีผู้มีชื่อโอนขายที่ดินนั้นแก่จำเลย โจทก์จึงยื่นคำร้องขอเรียกจำเลยเข้ามาเป็นจำเลยด้วยศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีได้ส่วนแบ่งที่ดิน คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์กลับมาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยอีกในการที่จำเลยได้เข้าทำนาส่วนของโจทก์ซึ่งโจทก์มีทางที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนนี้ รวมไปในฟ้องในคดีก่อนได้อยู่แล้ว ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 เพราะประเด็นเนื่องมาจากมูลฐานเดียวกัน คือจำเลยยึดครองทรัพย์สินของโจทก์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
of 146