พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,003 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3572/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบสินค้า การคำนวณค่าปรับจากสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ และขอบเขตการส่งมอบที่ถูกต้องตามสัญญา
สัญญาซื้อขายมีความว่า ผู้ขายจะส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายให้แก่ผู้ซื้อ ณ กรมขนส่งทหารอากาศ ให้ถูกต้องและครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในสัญญา และสิ่งของที่ซื้อนั้นผู้ขายสั่งเข้ามาจากต่างประเทศในราคาที่ไม่รวมภาษีขาเข้าและภาษีอื่น ๆ ทั้งสิ้น โดยมีเงื่อนไขที่ผู้ขายต้องปฏิบัติตามเกี่ยวกับการขอยกเว้นอากรศุลกากรขาเข้าว่า เมื่อศุลกากรปล่อยของแล้วให้ผู้ขายนำเก็บในคลังของผู้ซื้อทันที ห้ามนำเข้าไปเก็บในที่เก็บของผู้ขาย และการเปิดหีบห่อจะทำได้ต่อเมื่อผู้ซื้อยินยอมเท่านั้น เห็นได้ว่าเมื่อสิ่งของนั้นถูกส่งจากต่างประเทศมาถึงประเทศไทย ผู้ขายไม่มีโอกาสตรวจสอบความสมบูรณ์เรียบร้อยของสิ่งของก่อนส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อเลย ดังนี้ เมื่อผู้ขายนำสิ่งของไปส่งที่กรมขนส่งทหารอากาศย่อมถือได้ว่าผู้ขายส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายให้ผู้ซื้อแล้ว โดยหาจำต้องให้กรรมการตรวจรับของยอมรับไว้ใช้ในราชการเสียก่อนจึงจะถือว่าเป็นการส่งมอบตามสัญญาไม่
ส่วนข้อสัญญาที่ว่า ในกรณีที่ผู้ขายส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้องหรือส่งมอบไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ถ้าไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนั้น คำว่า "สิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ "หมายถึงราคาสิ่งของส่วนที่ผู้ขายยังไม่ได้ส่งมอบเท่านั้น มิได้หมายถึงราคาสิ่งของที่ซื้อขายกันทั้งหมด
ส่วนข้อสัญญาที่ว่า ในกรณีที่ผู้ขายส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้องหรือส่งมอบไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ถ้าไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนั้น คำว่า "สิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ "หมายถึงราคาสิ่งของส่วนที่ผู้ขายยังไม่ได้ส่งมอบเท่านั้น มิได้หมายถึงราคาสิ่งของที่ซื้อขายกันทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3572/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบสินค้าและการคำนวณค่าปรับสัญญาซื้อขาย: การส่งมอบสินค้าที่กรมขนส่งทหารอากาศถือเป็นการส่งมอบตามสัญญา
สัญญาซื้อขายมีความว่า ผู้ขายจะส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายให้แก่ผู้ซื้อ ณ กรมขนส่งทหารอากาศ ให้ถูกต้องและครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในสัญญา และสิ่งของที่ซื้อนั้นผู้ขายสั่งเข้ามาจากต่างประเทศในราคาที่ไม่รวมภาษีขาเข้าและภาษีอื่นๆ ทั้งสิ้น โดยมีเงื่อนไขที่ผู้ขายต้องปฏิบัติตามเกี่ยวกับการขอยกเว้นอากรศุลกากรขาเข้าว่า เมื่อศุลกากรปล่อยของแล้วให้ผู้ขายนำเก็บในคลังของผู้ซื้อทันที ห้ามนำเข้าไปเก็บในที่เก็บของผู้ขาย และการเปิดหีบห่อจะทำได้ต่อเมื่อผู้ซื้อยินยอมเท่านั้น เห็นได้ว่าเมื่อสิ่งของนั้นถูกส่งจากต่างประเทศมาถึงประเทศไทย ผู้ขายไม่มีโอกาสตรวจสอบความสมบูรณ์เรียบร้อยของสิ่งของก่อนส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อเลย ดังนี้ เมื่อผู้ขายนำสิ่งของไปส่งที่กรมขนส่งทหารอากาศย่อมถือได้ว่าผู้ขายส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายให้ผู้ซื้อแล้ว โดยหาจำต้องให้กรรมการตรวจรับของยอมรับไว้ใช้ในราชการเสียก่อนจึงจะถือว่าเป็นการส่งมอบตามสัญญาไม่
ส่วนข้อสัญญาที่ว่า ในกรณีที่ผู้ขายส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ถ้าไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนั้น คำว่า "สิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ"หมายถึงราคาสิ่งของส่วนที่ผู้ขายยังไม่ได้ส่งมอบเท่านั้น มิได้หมายถึงราคาสิ่งของที่ซื้อขายกันทั้งหมด
ส่วนข้อสัญญาที่ว่า ในกรณีที่ผู้ขายส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ถ้าไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนั้น คำว่า "สิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ"หมายถึงราคาสิ่งของส่วนที่ผู้ขายยังไม่ได้ส่งมอบเท่านั้น มิได้หมายถึงราคาสิ่งของที่ซื้อขายกันทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3547/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายกระป๋อง: สิทธิในการเรียกร้องราคาขึ้นอยู่กับการส่งมอบสินค้าให้ครบถ้วน ผู้ขายผิดสัญญาหากส่งมอบไม่ครบ
โจทก์มีหน้าที่ต้องส่งกระป๋องให้แก่จำเลยให้ครบตามจำนวนและกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ โดยในสัญญามิได้ระบุว่าแม้โจทก์จะยังส่งกระป๋องให้จำเลยไม่ครบจำนวนโจทก์ก็มีสิทธิเรียกเก็บเงินจากจำเลยได้ ดังนี้ เมื่อโจทก์ส่งกระป๋องให้แก่จำเลยไม่ครบจำนวนตามที่จำเลยสั่งซื้อ โจทก์จึงยังไม่อยู่ในฐานะที่จะใช้สิทธิเรียกให้จำเลยชำระราคาได้ การที่จำเลยไม่ชำระราคาให้โจทก์ ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ผิดสัญญา โจทก์จะใช้สิทธิเลิกสัญญาไม่ส่งกระป๋องให้จำเลยให้ครบจำนวนหาได้ไม่ เมื่อโจทก์ไม่ส่งกระป๋องให้จำเลยจนครบจำนวน โจทก์จึงตกเป็นผู้ผิดสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3547/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายกระป๋อง: สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเมื่อส่งมอบสินค้าไม่ครบถ้วนตามสัญญา
โจทก์มีหน้าที่ต้องส่งกระป๋องให้แก่จำเลยให้ครบตามจำนวนและกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ โดยในสัญญามิได้ระบุว่าแม้โจทก์จะยังส่งกระป๋องให้จำเลยไม่ครบจำนวนโจทก์ก็มีสิทธิเรียกเก็บเงินจากจำเลยได้ ดังนี้ เมื่อโจทก์ส่งกระป๋องให้แก่จำเลยไม่ครบจำนวนตามที่จำเลยสั่งซื้อ โจทก์จึงยังไม่อยู่ในฐานะที่จะใช้สิทธิเรียกให้จำเลยชำระราคาได้ การที่จำเลยไม่ชำระราคาให้โจทก์ ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ผิดสัญญา โจทก์จะใช้สิทธิเลิกสัญญาไม่ส่งกระป๋องให้จำเลยให้ครบจำนวนหาได้ไม่ เมื่อโจทก์ไม่ส่งกระป๋องให้จำเลยจนครบจำนวน โจทก์จึงตกเป็นผู้ผิดสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3443/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้และการสะดุดหยุดอายุความจากการยื่นคำขอรังวัดที่ดินเพื่อโอนกรรมสิทธิ์
จำเลยทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้โจทก์เมื่อ พ.ศ.2512 โจทก์ชำระราคาแล้วบางส่วน วันที่ 7 เมษายน 2518 โจทก์จำเลยไปยื่นคำขอรังวัดแบ่งแยกที่ดินด้วยกัน การที่จำเลยยื่นคำขอดังกล่าวก็เพื่อจะดำเนินการโอนที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญา ถือได้ว่าจำเลยทำการอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่า จำเลยยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่มีอยู่ต่อจำเลยตามสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว จึงเป็นการรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ซึ่งมีผลให้อายุความสะดุดหยุดลง เมื่อเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2518 ถึงวันที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ยังไม่เกิน 10 ปี คดียังไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3128/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิครอบครองที่ดินโดยสัญญาซื้อขายและการครอบครองแทนกัน ย่อมทำให้โจทก์ได้สิทธิครอบครอง
โจทก์ทำหนังสือสัญญาซื้อที่ดินมือเปล่าจากจำเลยแล้วเข้าทำฮวงซุ้ยที่ดินส่วนที่เหลือโจทก์ยอมให้จำเลยทำนาได้ (ตามหนังสือสัญญาจำเลยยอมโอนสิทธิในที่ดินแก่โจทก์ และโจทก์ยอมให้จำเลยทำประโยชน์ในที่นาพิพาท) จำเลยจะอ้างว่าการซื้อขายเป็นโมฆะหรือโจทก์ไม่ได้ครอบครองที่นาพิพาทไม่ได้ เพราะการโอนสิทธิครอบครองก็ดีการสละสิทธิครอบครองก็ดี หาได้มีกฎหมายกำหนดแบบไว้ไม่ เมื่อจำเลยแสดงเจตนาสละสิทธิครอบครองแก่โจทก์และรับที่จะครอบครองแทนโจทก์ต่อไป ต่อแต่นั้นมาการครอบครองที่นาพิพาทของจำเลยย่อมถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทนโจทก์ โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2910/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายน้ำมัน: สัญญาเกิดขึ้นเมื่อตกลงซื้อขาย แม้มีวิกฤตการณ์น้ำมันก็ต้องปฏิบัติตามสัญญา
จำเลยแต่งตั้งให้โจทก์เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นของจำเลย โจทก์ได้ทำใบสั่งซื้อน้ำมันชนิดต่างๆ จากจำเลย ใบสั่งซื้อจึงเป็นคำเสนอของโจทก์ เมื่อจำเลยมีหนังสือตอบโจทก์ว่าสินค้าที่โจทก์สั่งซื้อและยังขนไปไม่หมดนั้น จำเลยยินดีให้ราคาเก่าถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2522 ทั้งต่อมายังได้มีหนังสือถึงโจทก์อีกว่า จำเลยพร้อมจะให้โจทก์รับสินค้าไปได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2522 แม้จะมีอุปสรรคเกี่ยวกับภาชนะบรรจุอยู่บ้าง จำเลยก็จะผลิตน้ำมันส่วนที่โจทก์ต้องการให้ถึงที่สุดดังนี้ สัญญาซื้อขายน้ำมันระหว่างโจทก์จำเลยได้เกิดขึ้นแล้ว
เมื่อสัญญาซื้อขายน้ำมันเกิดขึ้นแล้ว ผู้ขายจำต้องส่งมอบทรัพย์ที่ขายให้แก่ผู้ซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 461จำเลยจะอ้างประเพณีการค้าว่าบริษัทผู้ขายน้ำมันไม่จำต้องผูกพันว่าจะต้องขายน้ำมันให้แก่ผู้ซื้อโดยผู้ขายมีสิทธิคืนเงินราคาที่ชำระแล้วแก่ผู้ซื้อหรือเพราะเกิดวิกฤติการณ์น้ำมันขึ้นทั่วโลกมาเป็นข้อบอกปัดไม่ขายน้ำมันให้แก่โจทก์หาได้ไม่
เมื่อจำเลยไม่ส่งมอบทรัพย์ที่ซื้อขายตามสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การไม่ส่งมอบนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 215,222
เมื่อสัญญาซื้อขายน้ำมันเกิดขึ้นแล้ว ผู้ขายจำต้องส่งมอบทรัพย์ที่ขายให้แก่ผู้ซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 461จำเลยจะอ้างประเพณีการค้าว่าบริษัทผู้ขายน้ำมันไม่จำต้องผูกพันว่าจะต้องขายน้ำมันให้แก่ผู้ซื้อโดยผู้ขายมีสิทธิคืนเงินราคาที่ชำระแล้วแก่ผู้ซื้อหรือเพราะเกิดวิกฤติการณ์น้ำมันขึ้นทั่วโลกมาเป็นข้อบอกปัดไม่ขายน้ำมันให้แก่โจทก์หาได้ไม่
เมื่อจำเลยไม่ส่งมอบทรัพย์ที่ซื้อขายตามสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การไม่ส่งมอบนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 215,222
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2866/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับในสัญญาซื้อขาย ศาลมีอำนาจลดจำนวนลงได้หากสูงเกินส่วน โดยคำนึงถึงความเสียหายที่แท้จริง
แม้จะได้มีการกำหนดค่าปรับไว้ในสัญญาก็ตาม แต่เงินค่าปรับตามที่คู่กรณีกำหนดกันไว้นั้น ถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับเพื่อการที่จะชดใช้บรรเทาความเสียหายอันอาจจะมีหรือเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383 วรรคแรก ถ้าเบี้ยปรับที่ริบนั้นสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ ซึ่งแสดงว่าเบี้ยปรับนั้นแม้จะได้กำหนดกันไว้ในสัญญา แต่ก็มิได้บังคับไว้โดยเด็ดขาดว่าจะต้องให้เป็นไปตามนั้น ทั้งนี้ต้องพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของเจ้าหนี้ทุกอย่าง ไม่ใช่แต่ทางได้เสียในเชิงทรัพย์สินเท่านั้น ศาลย่อมใช้ดุลพินิจลดจำนวนค่าปรับหรือเบี้ยปรับตามสัญญาลงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2808/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการปรับสัญญาซื้อขายและการไม่เกิดดอกเบี้ยจากเงินค่าปรับคืน
โจทก์ทำสัญญาขายสินค้าให้จำเลย แล้วโจทก์ผิดสัญญาส่งมอบสินค้าให้จำเลยล่าช้ากว่ากำหนด จำเลยจึงปรับโจทก์ตามสัญญาโดยหักเงินค่าปรับไว้จากราคาสินค้า เมื่อศาลพิพากษาลดค่าปรับลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา383 วรรคแรก ให้จำเลยคืนเงินค่าปรับบางส่วนแก่โจทก์โจทก์หามีสิทธิได้ดอกเบี้ย จากเงินค่าปรับที่ได้รับคืนนั้น ไม่ เพราะการที่จำเลยหักเงินค่าปรับไว้เป็นการใช้สิทธิตามสัญญาซื้อขาย ซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบที่จำเลยจะกล่าวอ้างได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2757/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้สัญญาซื้อขาย: การริบเงินประกัน ค่าปรับ และค่าเสียหาย
จำเลยทำสัญญาขายหลอดเครื่องรับส่งวิทยุให้โจทก์ สัญญาข้อ 7 มีว่าเพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้ ผู้ขายได้นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมามอบไว้แก่ผู้ซื้อ ถ้าผู้ขายละเลยเสียไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาข้อหนึ่งข้อใดผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบเงินประกันการปฏิบัติตามสัญญา โดยเรียกร้องเอาจากธนาคารผู้ออกหนังสือค้ำประกันนี้เป็นจำนวนเงินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้ตามแต่จะเห็นสมควรได้ทันทีข้อ 8 นี้ว่า ถ้าผู้ขายไม่นำหลอดเครื่องรับส่งวิทยุที่ขายตามสัญญามาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อให้เป็นการถูกต้องครบถ้วนภายในกำหนด ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นจำนวนเงินร้อยละห้าของราคาหลอดเครื่องรับส่งวิทยุที่ยังไม่ได้ส่งโดยคิดเป็นรายเดือน จนกว่าผู้ขายจะได้นำสิ่งของมาส่งมอบให้ครบถ้วนและถูกต้องตามสัญญา กับให้ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเสียเมื่อใดก็ได้ในกรณีที่ผู้ซื้อบอกเลิกสัญญาให้สัญญานี้เป็นอันระงับไป ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ซื้อในอันที่จะริบเงินประกันตลอดจนค่าปรับตามสัญญา และสัญญาข้อ 9 มีว่านอกจากที่กล่าวมาแล้วในข้อ 8 ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญาไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆก็ตามจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ซื้อแล้ว ผู้ขายยอมรับผิดโดยสิ้นเชิง ดังนี้สัญญาทั้งสามข้อดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ต่างกัน คือข้อ 7 ใช้บังคับในกรณีที่จำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาเลย โดยไม่รวมถึงกรณีที่จำเลยส่งของให้โจทก์ แต่ส่งให้ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามสัญญา ซึ่งอยู่ในบังคับตามสัญญาข้อ 8 และกรณีตามสัญญาข้อ 8 ยังให้สิทธิโจทก์บอกเลิกสัญญาเมื่อใดก็ได้โดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ในอันที่จะริบเงินประกันและเรียกเอาค่าปรับหรือเบี้ยปรับตามสัญญาส่วนข้อ 9 ใช้บังคับในกรณีที่โจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษนอกเหนือจากสัญญาข้อ 7 และข้อ 8 ฉะนั้น เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญามิได้ส่งมอบของให้แก่โจทก์เลย โจทก์ย่อมมีสิทธิริบเงินประกันดังที่กำหนดไว้ในข้อ 7และเรียกค่าเสียหายตามข้อ 9 จะปรับจำเลยตามข้อ 8 มิได้(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2526)