พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,786 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องพิพากษาแสดงสถานะภริยาหลังคู่สมรสเสียชีวิต และผลกระทบต่อสิทธิรับมรดกที่ไม่ชัดเจน
เมื่อคดีได้ความว่าการสมรสของนายทองไทยได้สิ้นสุดลงแล้วโดยการตายของนายทองไทยและโจทก์บรรยายฟ้องขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าโจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายทองไทย จำเลยมิใช่ภริยา การจดทะเบียนสมรสระหว่างจำเลยกับนายทองไทยเป็นโมฆะขอให้สั่งเพิกถอนเสียนั้น คำขอเช่นนี้ไม่บังเกิดผลอะไรแก่สิทธิในครอบครัวของโจทก์กับนายทองไทย ส่วนสิทธิในการรับมรดกของนายทองไทยนั้น โจทก์มิได้ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้แต่อย่างใด ทำนองจะเลี่ยงค่าธรรมเนียมในการรับมรดก จึงเป็นฟ้องที่ไม่ควรรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์จากการครอบครองปรปักษ์มีผลเหนือชื่อในโฉนดที่ได้จากการรับมรดก
จำเลยได้ครอบครองที่ดินรายพิพาทมาโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปี และศาลก็ได้ไต่สวนสั่งให้ที่ดินรายนี้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยทางครอบครองแล้วเช่นนี้ การที่โจทก์เพียงแต่มีชื่อในโฉนดที่ดินโดยโอนรับมรดกทางทะเบียนมาเฉย ๆ หาอาจใช้ยันกับกรรมสิทธิ์ของจำเลยดังกล่าวแล้วได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินเดิม, สินสมรส, การแบ่งมรดกตามพินัยกรรม, และสิทธิของผู้จัดการมรดก
"สินเดิม" คือทรัพย์สินของผัวหรือของเมียที่มีอยู่ก่อนแต่งงานซึ่งอาจนำมาใช้ประกอบการทำมาหากินให้เกิดผลได้หรืออาจนำมาใช้เพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในภายหลังที่ทำการสมรสแล้ว ถึงแม้จะมิได้นำมาบริคณห์กันในเวลาแต่งงานแล้วก็ดี
การที่โจทก์มีเงินสดติดตัวมาและมีเครื่องทองเพชรสำหรับแต่งตัวเป็นสินเดิม เมื่อมาอยู่กับเจ้ามรดก แม้เจ้ามรดกทำแต่ราชการอย่างเดียวมิได้ค้าขายก็ถือว่ามีสินเดิม มีสิทธิขอแบ่งสินสมรสได้
ผู้ทำพินัยกรรมจะเอาส่วนสินสมรสของโจทก์ไปทำยกให้ผู้อื่นไม่ได้
เมื่อพินัยกรรมได้ระบุยกทรัพย์สินให้ น.ส. หนุ่ย ๆ ตายก่อนเจ้ามรดก ต้องเอาส่วนของ น.ส.หนุ่ยมาแบ่งแก่ทายาทที่มิได้มีคำสั่งกำจัดมรดกทุกคน
การที่โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสและส่วนมรดก ไม่เป็นการฟ้องให้เพิกถอนข้อกำหนดในพินัยกรรม จึงไม่จำต้องฟ้องภายใน
3 เดือน นับแต่ทราบข้อความในพินัยกรรม
การยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม ไม่ใช่เป็นการรับรองพินัยกรรม พินัยกรรมระบุจำนวนเงินที่จะใช้ทำศพแน่นอน ถ้าผู้จัดการใช้เงินเกินไปจากที่กำหนด ที่ประชุมใหญ่ให้ถือว่าเป็นหนี้ทางศีลธรรม ซึ่งผู้ออกเงินไป สมัครออกไปเองจะหักเงินนี้จากกองมรดกไม่ได้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4
การที่โจทก์มีเงินสดติดตัวมาและมีเครื่องทองเพชรสำหรับแต่งตัวเป็นสินเดิม เมื่อมาอยู่กับเจ้ามรดก แม้เจ้ามรดกทำแต่ราชการอย่างเดียวมิได้ค้าขายก็ถือว่ามีสินเดิม มีสิทธิขอแบ่งสินสมรสได้
ผู้ทำพินัยกรรมจะเอาส่วนสินสมรสของโจทก์ไปทำยกให้ผู้อื่นไม่ได้
เมื่อพินัยกรรมได้ระบุยกทรัพย์สินให้ น.ส. หนุ่ย ๆ ตายก่อนเจ้ามรดก ต้องเอาส่วนของ น.ส.หนุ่ยมาแบ่งแก่ทายาทที่มิได้มีคำสั่งกำจัดมรดกทุกคน
การที่โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสและส่วนมรดก ไม่เป็นการฟ้องให้เพิกถอนข้อกำหนดในพินัยกรรม จึงไม่จำต้องฟ้องภายใน
3 เดือน นับแต่ทราบข้อความในพินัยกรรม
การยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม ไม่ใช่เป็นการรับรองพินัยกรรม พินัยกรรมระบุจำนวนเงินที่จะใช้ทำศพแน่นอน ถ้าผู้จัดการใช้เงินเกินไปจากที่กำหนด ที่ประชุมใหญ่ให้ถือว่าเป็นหนี้ทางศีลธรรม ซึ่งผู้ออกเงินไป สมัครออกไปเองจะหักเงินนี้จากกองมรดกไม่ได้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินเดิม, สินสมรส, พินัยกรรม, การแบ่งมรดก, สิทธิทายาท
"สินเดิม" คือทรัพย์สินของผัวหรือของเมียที่มีอยู่ก่อนแต่งงาน ซึ่งอาจนำมาใช้ประกอบการทำมาหากินให้เกิดผลได้ หรืออาจนำมาใช้เพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในภายหลังที่ทำการสมรสแล้ว ถึงแม้จะมิได้นำมาบริคณห์กันในเวลาแต่งงานแล้วก็ดี
การที่โจทก์มีเงินสดติดตัวมาและมีเครื่องทองเพชรสำหรับแต่งตัวเป็นสินเดิมมา เมื่อมาอยู่กับเจ้ามรดกแม้เจ้ามรดกทำแต่ราชการอย่างเดียวมิได้ค้าขายก็ถือว่ามีสินเดิม มีสิทธิขอแบ่งสินสมรสได้
ผู้ทำพินัยกรรมจะเอาส่วนสินสมรสของโจทก์ไปทำยกให้ผู้อื่นไม่ได้
เมื่อพินัยกรรมระบุยกทรัพย์สินให้ น.ส.หนุ่ย.น.ส.หนุ่ยตายก่อนเจ้ามรดก ต้องเอาส่วนของ น.ส.หนุ่ยมาแบ่งแก่ทายาทที่มิได้มีคำสั่งกำจัดมรดกทุกคน
การที่โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสและส่วนมรดก ไม่เป็นการฟ้องให้เพิกถอนข้อกำหนดในพินัยกรรม จึงไม่จำต้องฟ้องภายใน 3 เดือน นับแต่ทราบข้อความในพินัยกรรม
การยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม ไม่ใช่เป็นการรับรองพินัยกรรม พินัยกรรมระบุจำนวนเงินที่จะใช้ทำศพแน่นอน ถ้าผู้จัดการมรดกใช้เงินเกินไปจากที่กำหนด ที่ประชุมใหญ่ให้ถือว่าเป็นหนี้ทางศีลธรรมซึ่งผู้ออกเงินไป สมัครออกไปเองจะหักเงินนี้จากกองมรดกไม่ได้
การที่โจทก์มีเงินสดติดตัวมาและมีเครื่องทองเพชรสำหรับแต่งตัวเป็นสินเดิมมา เมื่อมาอยู่กับเจ้ามรดกแม้เจ้ามรดกทำแต่ราชการอย่างเดียวมิได้ค้าขายก็ถือว่ามีสินเดิม มีสิทธิขอแบ่งสินสมรสได้
ผู้ทำพินัยกรรมจะเอาส่วนสินสมรสของโจทก์ไปทำยกให้ผู้อื่นไม่ได้
เมื่อพินัยกรรมระบุยกทรัพย์สินให้ น.ส.หนุ่ย.น.ส.หนุ่ยตายก่อนเจ้ามรดก ต้องเอาส่วนของ น.ส.หนุ่ยมาแบ่งแก่ทายาทที่มิได้มีคำสั่งกำจัดมรดกทุกคน
การที่โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสและส่วนมรดก ไม่เป็นการฟ้องให้เพิกถอนข้อกำหนดในพินัยกรรม จึงไม่จำต้องฟ้องภายใน 3 เดือน นับแต่ทราบข้อความในพินัยกรรม
การยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม ไม่ใช่เป็นการรับรองพินัยกรรม พินัยกรรมระบุจำนวนเงินที่จะใช้ทำศพแน่นอน ถ้าผู้จัดการมรดกใช้เงินเกินไปจากที่กำหนด ที่ประชุมใหญ่ให้ถือว่าเป็นหนี้ทางศีลธรรมซึ่งผู้ออกเงินไป สมัครออกไปเองจะหักเงินนี้จากกองมรดกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องคดีมรดก: ศาลไม่พิพากษาแบ่งมรดก หากโจทก์เพียงขอห้ามทายาท
ปรากฎจากฟ้องและกระบวนพิจารณาว่าโจทก์ประสงค์เพียงขอห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องแก่ทรัพย์มรดก โดยอ้างว่าจำเลยไม่ใช่บุตรของเจ้ามรดก ดั่งนี้ ไม่มีประเด็นเรื่องแบ่งมรดก ศาลจึงไม่พิพากษาให้แบ่งกันในชั้นนี้
ฟ้องขอห้าม แต่เสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อศาลตัดสินให้ในประเด็นเรื่องขอห้ามแล้ว ศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลที่เสียมาอย่างคดีทุนทรัพย์นั้น คงเรียกไว้แต่อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์
ฟ้องขอห้าม แต่เสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อศาลตัดสินให้ในประเด็นเรื่องขอห้ามแล้ว ศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลที่เสียมาอย่างคดีทุนทรัพย์นั้น คงเรียกไว้แต่อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องห้ามมิให้รับมรดกโดยอ้างไม่ใช่บุตร ศาลไม่พิพากษาแบ่งมรดกหากโจทก์ไม่ขอ
ปรากฏจากฟ้องและกระบวนพิจารณาว่าโจทก์ประสงค์เพียงขอห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องแก่ทรัพย์มรดกโดยอ้างว่าจำเลยไม่ใช่บุตรของเจ้ามรดกดั่งนี้ ไม่มีประเด็นเรื่องแบ่งมรดก ศาลจึงไม่พิพากษาให้แบ่งกันในชั้นนี้
ฟ้องขอห้าม แต่เสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อศาลตัดสินให้ในประเด็นเรื่องขอห้ามแล้วศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลที่เสียมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์นั้น คงเรียกไว้แต่อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์
ฟ้องขอห้าม แต่เสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อศาลตัดสินให้ในประเด็นเรื่องขอห้ามแล้วศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลที่เสียมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์นั้น คงเรียกไว้แต่อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 322/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกที่ดินตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมลักษณะมรดก ร.ศ. ๑๒๑ เมื่อมีผู้รับมรดกหลายคนและมีการเปลี่ยนแปลงสิทธิ
ข้อสันนิษฐานของกฎหมายในประมวลแพ่งฯ มาตรา 1357 ใช้เมื่อความจริงไม่ปรากฎ เมื่อมีข้อเท็จจริงปรากฎฟังได้ก็พึงถือตามข้อเท็จจริงนั้น
การที่จำเลยและโจทก์และทายาทอื่นรวม 14 คนมีชื่อในโฉนดแต่ พ.ศ.2465 เวลาจะแบ่งที่ในโฉนด ย่อมต้องแบ่งตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมลักษณะมรดก ร.ศ.121 มาตรา 1 ข้อ 1 (2) คือ "ถ้าบุตรบางคนมรณภาพ ฯลฯ ให้เอาส่วนของบุตรที่มรณภาพแบ่งให้แก่หลานผู้มรณภาพ ซึ่งเป็นบุตรของบุตรผู้มรณภาพนั้น เหมือนอย่างว่าเป็นมรดกของบุตรผู้นั้นเองต่อ ๆ ลงไป ฯลฯ"
การที่จำเลยและโจทก์และทายาทอื่นรวม 14 คนมีชื่อในโฉนดแต่ พ.ศ.2465 เวลาจะแบ่งที่ในโฉนด ย่อมต้องแบ่งตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมลักษณะมรดก ร.ศ.121 มาตรา 1 ข้อ 1 (2) คือ "ถ้าบุตรบางคนมรณภาพ ฯลฯ ให้เอาส่วนของบุตรที่มรณภาพแบ่งให้แก่หลานผู้มรณภาพ ซึ่งเป็นบุตรของบุตรผู้มรณภาพนั้น เหมือนอย่างว่าเป็นมรดกของบุตรผู้นั้นเองต่อ ๆ ลงไป ฯลฯ"
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 322/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกที่ดินตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมลักษณะมรดก ร.ศ. 121 กรณีมีผู้รับมรดกหลายคนและมีการเสียชีวิต
ข้อสันนิษฐานของกฎหมายในประมวลแพ่งฯ มาตรา 1357 ใช้เมื่อความจริงไม่ปรากฏเมื่อมีข้อเท็จจริงปรากฏฟังได้ก็พึงถือตามข้อเท็จจริงนั้น
การที่จำเลยและโจทก์และทายาทอื่นรวม 14 คนมีชื่อในโฉนดแต่ พ.ศ.2465 เวลาจะแบ่งที่ในโฉนดย่อมต้องแบ่งตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะมรดก ร.ศ.121 มาตรา 1 ข้อ 1(2) คือ 'ถ้าบุตรบางคนมรณภาพฯลฯ ให้เอาส่วนของบุตรที่มรณภาพแบ่งให้แก่หลานผู้มรณภาพซึ่งเป็นบุตรของบุตรผู้มรณภาพนั้นเหมือนอย่างว่าเป็นมรดกของบุตรผู้นั้นเองต่อๆ ลงไป ฯลฯ'
การที่จำเลยและโจทก์และทายาทอื่นรวม 14 คนมีชื่อในโฉนดแต่ พ.ศ.2465 เวลาจะแบ่งที่ในโฉนดย่อมต้องแบ่งตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะมรดก ร.ศ.121 มาตรา 1 ข้อ 1(2) คือ 'ถ้าบุตรบางคนมรณภาพฯลฯ ให้เอาส่วนของบุตรที่มรณภาพแบ่งให้แก่หลานผู้มรณภาพซึ่งเป็นบุตรของบุตรผู้มรณภาพนั้นเหมือนอย่างว่าเป็นมรดกของบุตรผู้นั้นเองต่อๆ ลงไป ฯลฯ'
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 912/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งมรดกไม่ตัดสิทธิทายาทในการเรียกร้องทรัพย์ที่ไม่ได้ระบุในสัญญา
ทายาททำสัญญาแบ่งมรดก แต่ไม่ระบุทรัพย์บางรายทายาทมาฟ้องขอแบ่งมรดกทรัพย์ที่ไม่ปรากฏในสัญญาอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 860/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับราคาประมาณในคดีมรดก: ศาลต้องพิจารณาราคาจริงหากโจทก์ไม่ยอมรับราคาที่ศาลเปรียบเทียบ
โจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาทรัพย์สิ่งของจากจำเลยและประมาณราคาที่โจทก์ควรได้รับมาในชั้นชี้สองสถานจำเลยยอมใช้ราคาตามที่โจทก์ฟ้องตามคำเปรียบเทียบของศาลโจทก์กลับไม่ยอมรับเงินจะให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไปศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ได้รับราคาทรัพย์สินตามที่ฟ้องเรียกร้องแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องพิจารณาต่อไป จึงสั่งตัดพยานและพิพากษาให้โจทก์รับเงินตามที่โจทก์ฟ้องเรียกร้อง
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ราคาทรัพย์สินที่โจทก์เรียกมาเพียงแต่ประมาณเมื่อโจทก์ไม่ยอมตามที่ศาลเปรียบเทียบก็ต้องพิจารณากันไปและตัดสินไปตามรูปคดีโดยถือว่าโจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาเพียงที่ประมาณมาไม่ได้
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ราคาทรัพย์สินที่โจทก์เรียกมาเพียงแต่ประมาณเมื่อโจทก์ไม่ยอมตามที่ศาลเปรียบเทียบก็ต้องพิจารณากันไปและตัดสินไปตามรูปคดีโดยถือว่าโจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาเพียงที่ประมาณมาไม่ได้