คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็ค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3083/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็ค: ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดต่อผู้ทรง แม้มีข้อพิพาทกับผู้ทรงคนก่อน หากไม่มีเจตนาฉ้อฉล
จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท ย่อมจะต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914ประกอบกับมาตรา 989 จำเลยจะต่อสู้โจทก์ด้วยข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อนๆ นั้นหาได้ไม่เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล
แม้จะฟังว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้ ช. เกี่ยวกับหนี้การพนัน แต่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงก็ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องด้วย และฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทมาโดยคบคิดกับ ช. เพื่อฉ้อฉลจำเลย ดังนี้ ย่อมไม่มีทางที่จำเลยจะปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์
การคำนวณนับระยะเวลาในการคิดดอกเบี้ยนั้นอยู่ในบังคับของหลักทั่วไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ซึ่งห้ามมิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมคำนวณเข้าด้วย ย่อมจะเริ่มนับหนึ่งในวันรุ่งขึ้น โดยไม่นับวันฟ้องรวมคำนวณเข้าด้วยอยู่แล้ว จึงใช้ว่านับแต่วันฟ้อง ไม่จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำว่า ให้คิดดอกเบี้ยนับแต่วันถัดจากวันฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3083/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็ค: ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดต่อผู้ทรง แม้มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้สั่งจ่ายกับผู้ทรงคนก่อน
จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท ย่อมจะต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914ประกอบกับมาตรา 989 จำเลยจะต่อสู้โจทก์ด้วยข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อนๆ นั้นหาได้ไม่เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล
แม้จะฟังว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้ ช. เกี่ยวกับหนี้การพนัน แต่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงก็ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องด้วย และฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทมาโดยคบคิดกับ ช. เพื่อฉ้อฉลจำเลย ดังนี้ ย่อมไม่มีทางที่จำเลยจะปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์
การคำนวณนับระยะเวลาในการคิดดอกเบี้ยนั้นอยู่ในบังคับของหลักทั่วไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ซึ่งห้ามมิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลารวมคำนวณเข้าด้วย ย่อมจะเริ่มนับหนึ่งในวันรุ่งขึ้น โดยไม่นับวันฟ้องรวมคำนวณเข้าด้วยอยู่แล้ว จึงใช้ว่านับแต่วันฟ้อง ไม่จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำว่า ให้คิดดอกเบี้ยนับแต่วันถัดจากวันฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2827/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: การชำระหนี้ด้วยเช็คไม่ตรงตามสัญญา ผู้ซื้อผิดสัญญา
สัญญาจะซื้อขายระบุว่าผู้ซื้อจะนำเงินสดไปชำระในวันนัดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินครั้นถึงวันนัดโอนผู้ซื้อสั่งจ่ายเช็คเงินสดไปชำระ ผู้ขายไม่ยอมรับและไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ถือได้ว่าผู้ซื้อไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญา ผู้ซื้อจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้ขายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบมัดจำได้
การบอกเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ดินนั้น กฎหมายมิได้บัญญัติให้ทำเป็นหนังสือเพียงแต่แสดงเจตนาต่อกันก็สมบูรณ์แล้วหนังสือบอกเลิกสัญญาที่จำเลยมอบอำนาจให้บุตรจำเลยบอกเลิกและส่งให้โจทก์มีลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย โดยไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพอถือได้ว่าจำเลยแสดงเจตนาเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สั่งจ่ายเช็คต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็ค แม้ไม่มีนิติสัมพันธ์โดยตรง หากไม่ได้ต่อสู้ว่าการโอนเช็คเป็นการฉ้อฉล
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย จำเลยให้การว่าโจทก์กับจำเลยไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ต่อกัน แต่มิได้ต่อสู้ว่าผู้ทรงคนก่อนโอนเช็คพิพาทให้โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลย ฉะนั้น จำเลยจะอ้างเรื่องการเล่นแชร์ระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อนและโจทก์มาใช้ยันโจทก์ไม่ได้ เมื่อจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทจำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2552/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์เช็คเพื่อชำระหนี้การพนัน ผู้สั่งจ่ายต้องพิสูจน์ หากพิสูจน์ไม่ได้ต้องรับผิดตามเช็ค
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คซึ่งจำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินยืม จำเลยรับว่าได้ออกเช็คดังกล่าวจริง ในเบื้องต้นต้องถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยย่อมต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คการที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าเช็คที่จำเลยออกให้โจทก์นั้นเพื่อชำระหนี้การพนัน เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพื่อจะไม่ต้องรับผิดในเช็คดังกล่าว ภาระการพิสูจน์หรือหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงนั้นจึงตกอยู่แก่จำเลย เมื่อจำเลยนำสืบรับฟังไม่ได้ว่าเช็คที่จำเลยออกให้โจทก์เป็นการชำระหนี้การพนัน แม้โจทก์จะมิได้สืบพยาน จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 และ มาตรา 904
คดีอาญาที่จำเลยถูกฟ้องเป็นคดีที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คส่วนคดีแพ่งโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คอันเป็นสิทธิเรียกร้อง โดยไม่ต้องอาศัยมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค จึงไม่ใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาดังกล่าว จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 มาใช้ บังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่มีวันที่ออก ไม่ถือเป็นความผิดอาญา
การที่จำเลยออกเช็คโดยไม่ลงวันเดือนปีที่ออกเช็คย่อมถือได้ว่าไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำผิด แม้จำเลยได้ตกลงกำหนดวันเดือนปีที่ผู้ทรงเช็คจะนำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารไว้แน่นอน โจทก์ผู้ทรงเช็คได้นำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารตามวันที่ตกลงกัน และเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ลงวันเดือนปีตามที่โจทก์ยื่นเช็ค ก็เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ธนาคารลงวันออกเช็คไปตามอำนาจของโจทก์ ที่โจทก์มีอยู่ตามกฎหมายในฐานะเป็นผู้ทรงเช็ค มีผลเพียงให้เช็คนั้นมีรายการสมบูรณ์ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ในทางแพ่งเท่านั้น หามีผลที่จะปรับเป็นความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คได้ไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว (ประชุมใหญ่ครั้งที่2/2524)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2390/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องไม่สมบูรณ์หากไม่บรรยายองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
ปัญหาว่าคำฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คำฟ้องของโจทก์มีสารสำคัญแต่เพียงว่า จำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้แก่ผู้เสียหาย หลังจากเช็คถึงกำหนดผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายได้นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคาร และธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเท่านั้นโจทก์มิได้กล่าวถึงการกระทำอันเป็นองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3 อนุมาตรา (1) ถึง (5) แต่ประการใด ถือได้ว่าโจทก์มิได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิด ฟ้องโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 901/2522)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2254/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: มูลหนี้ตามเช็ค vs. หนี้กู้ยืม
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายโดยอาศัยมูลหนี้ตามเช็คซึ่งจำเลยออกให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินยืมแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด โจทก์ได้มายื่นคำขอรับชำระหนี้ เห็นได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามเช็ค หาใช่ประสงค์ขอรับชำระหนี้ในหนี้กู้ยืมไม่ จึงไม่ต้องมีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1891/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิในเช็คและการเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาจากการใช้เช็ค
จำเลยออกเช็คให้ ม. และ ม. สลักหลังชำระหนี้ให้โจทก์โจทก์ลงลายมือชื่อด้านหลังเช็คและส่งมอบเช็คให้ ป.นำไปเข้าบัญชีของ ป. ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ ป. จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยตรง หาใช่เป็นตัวแทนในการเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ เมื่อ ป. เป็นผู้ทรงเช็คในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน อันเป็นวันเกิดเหตุ ป. จึงเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา การที่เช็คกลับมาอยู่ที่โจทก์ แม้จะเป็นเช็คให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ก็หามีผลให้โจทก์กลับเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาไม่โจทก์ไม่มีอำนาจนำเช็คมาฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเช็คและการผิดนัดชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ผลของการทำเช็คหายต่อการระงับหนี้
บทบัญญัติมาตรา 321 วรรคท้ายมิได้จำกัดว่า ต้องเป็นกรณีผู้ทรงได้นำตั๋วเงินไปยื่นเพื่อให้ใช้เงินแล้ว แต่ผู้จ่ายปฏิเสธการจ่ายเงินหนี้เดิมจึงจะไม่ระงับ แม้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เป็นผู้ทำเช็คที่จำเลยโอนชำระหนี้หายไป จึงมิได้นำเช็คไปยื่นเพื่อให้ใช้เงิน และไม่มีการใช้เงินตามเช็คนั้นก็อยู่ในบังคับของมาตรานี้ อันมีผลว่าหนี้เดิมยังไม่ระงับไปเช่นเดียวกัน การที่โจทก์เพิ่งแจ้งเหตุขัดข้องในการเรียกเก็บเงินตามเช็คดังกล่าวให้จำเลยทราบ จำเลยจะได้รับความเสียหายอย่างไรหรือไม่ ย่อมเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากมูลหนี้เดิม เมื่อมูลหนี้ดังกล่าวยังมีอยู่ไม่ระงับไป จำเลยย่อมมีหน้าที่ต้องชำระหนี้นั้นให้แก่โจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยเป็นผู้ออกข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยมอบเช็คซึ่งมี อ. เป็นผู้สั่งจ่ายให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินในวันเดียวกันกับที่จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงิน เช็คนั้นถึงกำหนดใช้เงินก่อนตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงิน อ. มีฐานะการเงินเป็นที่เชื่อถือในวงการค้า เชื่อได้ว่าหากโจทก์นำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินโจทก์ก็จะได้รับชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น แต่โจทก์หาได้กระทำไม่ พฤติการณ์ดังกล่าวโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จึงตกเป็นผู้ผิดนัด ซึ่งตามมาตรา 221 มิให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างนั้น จำเลยจึงไม่ต้องชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่วันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงิน
of 187