พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,377 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำธนบัตรไทยเกินห้าร้อยบาทเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต และการริบของกลางตามกฎหมาย
จำเลยนำธนบัตรไทยเข้ามาในประเทศมีมูลค่าเกินกว่ากำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดของจำเลยอยู่ที่การนำธนบัตรไทยซึ่งมีมูลค่าเกินกว่าห้าร้อยบาทเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ธนบัตรไทยดังกล่าวมิใช่ทรัพย์สินที่ผู้ใดมีไว้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินก็มิได้บัญญัติเรื่องการริบของกลางไว้ จึงริบไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3314/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาเกินกำหนดเวลาตามกฎหมายศาลแขวงและการขาดอำนาจฟ้อง
จำเลยถูกจับ 2 ข้อหา ฐานดูดทรายในแม่น้ำเจ้าพระยา กับควบคุมเรือยนต์และเครื่องจักรเรือยนต์โดยไม่มีประกาศนียบัตร นำส่งอัยการอัยการไม่ฟ้องฐานดูดทรายซึ่งอยู่ในอำนาจศาลจังหวัด พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฐานควบคุมเรือยนต์ฯอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งแรกอัยการมิได้ขอผัดฟ้อง และมิได้รับอนุญาตให้ฟ้องเกินกำหนดจากอธิบดีกรมอัยการ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3274/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายแร่โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และข้อยกเว้นการมีแร่ไว้ในครอบครองเกินกำหนด
กรณีจะปรับเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมแร่ดีบุก พ.ศ. 2514 มาตรา 19,30 ข้อเท็จจริงจะต้องปรากฏชัดว่าผู้ขายแร่เป็นผู้ทำเหมือง
การที่จำเลยซื้อแร่โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองตามใบอนุญาตซื้อแร่ จึงไม่ต้องฟ้องด้วยข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 105 (6) พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 มาตรา 31
แร่ของกลางจำเลยได้มาโดยการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 147,148 จึงต้องริบตามมาตรา 154 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 มาตรา 39
การที่จำเลยซื้อแร่โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองตามใบอนุญาตซื้อแร่ จึงไม่ต้องฟ้องด้วยข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 105 (6) พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 มาตรา 31
แร่ของกลางจำเลยได้มาโดยการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 147,148 จึงต้องริบตามมาตรา 154 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 มาตรา 39
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3274/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายแร่โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การครอบครองแร่เกินปริมาณที่กำหนด และข้อยกเว้นการครอบครองแร่ในสถานที่ซื้อขาย
กรณีจะปรับเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมแร่ดีบุกพ.ศ.2514 มาตรา 19,30 ข้อเท็จจริงจะต้องปรากฏชัดว่าผู้ขายแร่ เป็นผู้ทำเหมือง
การที่จำเลยซื้อแร่โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองตามใบอนุญาตซื้อแร่จึงไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510มาตรา 105(6) พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2516มาตรา 31
แร่ของกลางจำเลยได้มาโดยการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 มาตรา 147,148 จึงต้องริบตามมาตรา154 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2516 มาตรา39
การที่จำเลยซื้อแร่โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองตามใบอนุญาตซื้อแร่จึงไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510มาตรา 105(6) พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2516มาตรา 31
แร่ของกลางจำเลยได้มาโดยการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 มาตรา 147,148 จึงต้องริบตามมาตรา154 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2516 มาตรา39
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3273/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายแร่โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และการครอบครองแร่เกินปริมาณที่กำหนด
แร่ดีบุกของกลางไม่ปรากฏจำนวนตามบัญชีสต๊อก ไม่มีหลักฐานการซื้อมาในบัญชีซื้อแร่ ไม่มีเอกสารที่ผู้ขายมอบให้เพื่อแสดงว่าเป็นแร่ที่ผู้ขายมีอำนาจขายได้ตามที่กฎหมายบังคับ การซื้อแร่ของจำเลยเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 98 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 มาตรา 28 จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 147
จำเลยมีแร่ไว้ครอบครองเกินสองกิโลกรัม จึงเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 105 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 มาตรา 31 อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 148 ด้วย
การที่จำเลยซื้อแร่โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองตามใบอนุญาตซื้อแร่และไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 31 (6)
จำเลยมีแร่ไว้ครอบครองเกินสองกิโลกรัม จึงเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 105 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 มาตรา 31 อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 148 ด้วย
การที่จำเลยซื้อแร่โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองตามใบอนุญาตซื้อแร่และไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 31 (6)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3273/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายแร่โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และการครอบครองแร่เกินปริมาณที่กำหนด
แร่ดีบุกของกลางไม่ปรากฏจำนวนตามบัญชีสต๊อก ไม่มีหลักฐานการซื้อมาในบัญชีซื้อแร่ ไม่มีเอกสารที่ผู้ขายมอบให้เพื่อแสดงว่าเป็นแร่ที่ผู้ขายมีอำนาจขายได้ตามที่กฎหมายบังคับ การซื้อแร่ของจำเลยเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 98พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 มาตรา 28 จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 147
จำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองเกินสองกิโลกรัม จึงเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 105 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2516 มาตรา 31 อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510มาตรา 148 ด้วย
การที่จำเลยซื้อแร่โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองตามใบอนุญาตซื้อแร่และไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 31(6)
จำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองเกินสองกิโลกรัม จึงเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 105 พระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2516 มาตรา 31 อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510มาตรา 148 ด้วย
การที่จำเลยซื้อแร่โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแร่ ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองตามใบอนุญาตซื้อแร่และไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 31(6)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3020/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการศพ: การพิสูจน์สถานะทายาทและผู้มีสิทธิจัดการศพตามกฎหมาย
ผู้มีอำนาจและหน้าที่จัดการศพคือผู้ที่ระบุไว้ใน มาตรา 1649โจทก์ระบุในฟ้องไม่พอแสดงว่าโจทก์ได้รับมรดกผู้ตายมากที่สุด แม้จำเลยทำศพโดยไม่มีอำนาจก็ไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2941-2942/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบแร่ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย: การกระทำผิดเงื่อนไขใบอนุญาตไม่ใช่เหตุริบ
แร่ของกลางเป็นแร่ที่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งทรัพยากรธรณีจังหวัดได้ออกอนุญาตขนแร่ให้จำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพราะไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตขนแร่ที่ให้บันทึกการขนแร่พร้อมกับลงลายมือชื่อกำกับในใบอนุญาตขนแร่ทันทีที่ขนแร่ออกจากต้นทาง แร่ของกลางจึงหาใช่แร่ที่บุคคลได้มา ได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 148 อันต้องริบตามมาตรา 154 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2765/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค, การเรียงกระทงความผิด, และการนำหลักกฎหมายมาใช้กับเช็ค
ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 196 บัญญัติถึงกรณีที่ให้คดีความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คเป็นอันเลิกกันได้ ไม่ได้บัญญัติในเรื่องเหตุบรรเทาโทษไว้เป็นพิเศษ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17 บัญญัติให้ใช้บทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญาในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย เว้นแต่กฎหมายนั้นๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ศาลจึงนำเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 มาใช้ในกรณีแห่งความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คได้
แม้ตามฟ้องของโจทก์มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยเรียงกระทงความผิดหรืออีกนัยหนึ่งโจทก์มิได้อ้างมาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตามเมื่อตามฟ้องของโจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพของจำเลย ฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามบทบัญญัติมาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญาได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คลงวันที่ 30 ตุลาคม 2519 ต่อมาวันที่ 15 ตุลาคม 2519 โจทก์ได้นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ได้นำเช็คไปขึ้นเงินก่อนวันออกเช็ค จึงไม่อาจอ้างได้ว่าเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่ายในวันออกเช็ค การกระทำของจำเลยเกี่ยวกับเช็คดังกล่าวจึงไม่เป็นความผิด แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17 บัญญัติให้ใช้บทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญาในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย เว้นแต่กฎหมายนั้นๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ศาลจึงนำเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 มาใช้ในกรณีแห่งความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คได้
แม้ตามฟ้องของโจทก์มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยเรียงกระทงความผิดหรืออีกนัยหนึ่งโจทก์มิได้อ้างมาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตามเมื่อตามฟ้องของโจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพของจำเลย ฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามบทบัญญัติมาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญาได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คลงวันที่ 30 ตุลาคม 2519 ต่อมาวันที่ 15 ตุลาคม 2519 โจทก์ได้นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ได้นำเช็คไปขึ้นเงินก่อนวันออกเช็ค จึงไม่อาจอ้างได้ว่าเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่ายในวันออกเช็ค การกระทำของจำเลยเกี่ยวกับเช็คดังกล่าวจึงไม่เป็นความผิด แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2748/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพ (พ.ช.ค.) เป็นเงินเดือนตามกฎหมาย ไม่ตกเป็นเป้าบังคับคดี
คำว่าเงินเดือน ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจ่ายเงินเดือน ฯลฯ หมายความรวมถึง.....เงินอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนดให้เบิกจ่ายในลักษณะเงินเดือนและคำว่าเงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพ ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการ เกี่ยวกับเงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพชั่วคราวพ.ศ.2521 มาตรา 4 หมายความถึงเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวที่จ่ายช่วยเหลือข้าราชการหรือ ลูกจ้างตามภาวะเศรษฐกิจ และตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มาตรา 7 ให้นำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจ่ายเงินเดือน ฯลฯ มาใช้บังคับในการจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพโดยอนุโลม ดังนั้นเงินเพิ่มช่วยค่าครองชีพก็คือเงิน อื่นที่กระทรวงการคลังกำหนดให้เบิกจ่ายแก่ข้าราชการหรือลูกจ้างในลักษณะเงินเดือนจึงเป็นเงินเดือนตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 286(2) ไม่ตกอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี