คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,024 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5786/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ต้องยื่นต่อศาลฎีกาโดยตรง ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิจารณา
ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 252 กรณีที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่ยอมรับฎีกาเพราะเหตุใดก็ตาม หากคำสั่งนั้นไม่เป็นที่พอใจของผู้ฎีกาและประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกาโดยตรง เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกานั้นชอบหรือไม่ เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาแล้ว แทนที่จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลฎีกากลับยื่นอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลอุทธรณ์ การปฏิบัติของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความ แต่การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวโดยอ้างว่าจำเลยอุทธรณ์คำสั่งเกิน 10 วันแล้วนั้น กรณีหาใช่การอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ยอมรับฎีกาตามมาตรา 252ดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ หากแต่เป็นการสั่งโดยอาศัย ป.วิ.พ.มาตรา 232 และ 234 ซึ่งเป็นการอุทธรณ์เกี่ยวกับระยะเวลาอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ต้องรับวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5780-5781/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัย เหตุจำเลยอ้างเหตุเพิกถอนการขายทอดตลาดโดยไม่คัดค้านคำสั่งยกคำร้องคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราว
++ คดีแดงที่ 5780-5781/2534 ++
++
++ ทดสอบการทำงานในระบบ CW เพื่อค้นหาข้อมูลทาง online ++
++ ย่อข้อกฎหมายอย่างไม่เป็นทางการ 3 ++
++
จำเลยฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ยกคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ของจำเลย แต่ฎีกาของจำเลยกลับอ้างแต่เหตุอันควรเพิกถอนการขายทอดตลาดว่าราคาต่ำไป และมีคำขอท้ายฎีกาขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดเท่านั้น จำเลยหาได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงในฎีกาเพื่อคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ยกคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ไม่ ฎีกาของจำเลยจึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5739/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าว่าคดีแทนจำเลยโดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ทำให้จำเลยไม่มีอำนาจฎีกา
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์คดีนี้ จำเลยที่ 1 ถูกศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลายอีกคดีหนึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอเข้าว่าคดีแทนจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ แต่ศาลอุทธรณ์มิได้สั่งคำร้องของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยพิพากษาคดีไปเลย ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์อนุญาตให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าว่าคดีแทนจำเลยที่ 1 แล้ว จำเลยที่ 1 จึงไม่มีอำนาจยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5642/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่สมบูรณ์ ขาดรายละเอียดข้อโต้แย้ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฎีกาของจำเลยมีใจความสำคัญสรุปได้เพียงว่า จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยยังขาดเอกสารสำคัญเกี่ยวกับคดีได้ติดต่อไปยังทนายจำเลยแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ เกรงว่าอายุฎีกาจะสิ้นสุดลงจึงได้ยื่นฎีกาไว้ก่อน ส่วนข้อโต้แย้งคัดค้านอันเป็นข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้นจำเลยจะยื่นรายละเอียดอีกในภายหลัง จำเลยมิได้กระทำความผิดตามฟ้องเท่านั้นมิได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อหรือข้อกฎหมายที่ยกอ้างอิงไว้เลยว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีไม่ชอบหรือขัดต่อกฎหมายอย่างไร รายละเอียดที่จำเลยอ้างว่าจะยื่นเข้ามาในภายหลังก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ยื่นเข้ามาภายในอายุฎีกาและมิได้ขอขยายเวลายื่นฎีกาแต่อย่างใด ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นฎีกาที่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยป.วิ.อ. มาตรา 193 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5465/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการลงโทษในชั้นฎีกา: ศาลฎีกาไม่สามารถเพิ่มโทษจำเลยเกินกว่าที่ศาลอุทธรณ์ตัดสิน หากโจทก์มิได้ฎีกาในประเด็นนั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยต่ำกว่าระวางโทษขั้นต่ำ ที่กฎหมายกำหนด เมื่อโจทก์มิได้ฎีกา ศาลฎีกาจะลงโทษจำเลยทั้งสองหนักกว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ได้เพราะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212 ประกอบด้วยมาตรา 225.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5336/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: การอุทธรณ์และฎีกานอกประเด็นที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้ว หากไม่โต้แย้งในชั้นอุทธรณ์
คดีมีประเด็นพิพาทว่า การที่ธนาคารจำเลยไม่หักเงินตามเช็คเข้าบัญชีของธนาคารโจทก์ และไม่แจ้งให้ธนาคารโจทก์ทราบในวันรุ่งขึ้นหรือวันเปิดทำการนั้น จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ ซึ่งศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า เป็นความผิดของจำเลยแสดงให้ประจักษ์ต่อโจทก์ตามวิธีที่เคยปฏิบัติว่าจำเลยได้นำเงินตามเช็คเข้าบัญชีโจทก์แล้วการที่โจทก์จ่ายเงินตามเช็คให้ลูกค้าไปจึงมิใช่ความประมาทเลินเล่อของโจทก์ หรือเป็นการจ่ายเงินตามอำเภอใจ จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ เช่นนี้ การที่จำเลยอุทธรณ์ในทำนองโต้แย้งว่า จำเลยได้นำเงินมาเข้าบัญชีของธนาคารโจทก์แล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องโดยมิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดอย่างไรในการที่ไม่แจ้งให้ทราบถึงเหตุที่ไม่สามารถหักเงินเข้าบัญชีโจทก์ได้ จึงเป็นอุทธรณ์นอกประเด็น แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิฎีกา ประเด็นพิพาทใดที่เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยให้แล้วคู่ความมิได้อุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยในเรื่องดังกล่าวให้ด้วยก็ถือไม่ได้ว่าได้วินิจฉัยตามประเด็นคู่ความอุทธรณ์ คู่ความจึงไม่อาจฎีกาในปัญหาดังกล่าวได้ เพราะเป็นข้อที่มิได้ว่ากันมาในศาลอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5247/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาแก้ไขคำพิพากษาเรื่องการทำลายของกลาง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากเป็นการโต้เถียงดุลพินิจ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท ริบของกลางและให้ทำลายลานปูนซีเมนต์ของกลาง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เฉพาะให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้ทำลายลานปูนซีเมนต์ของกลาง เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก โจทก์ฎีกาขอให้ทำลายลานปูนซีเมนต์ของกลาง เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาล อันเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5247/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับคำสั่งทำลายสิ่งของ (ลานปูนซีเมนต์) เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน ปรับ5,000 บาท ริบของกลางและให้ทำลายลานปูนซีเมนต์ของกลางโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษาแก้เฉพาะในยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้ทำลายลานปูนซีเมนต์ของกลาง เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก โจทก์ฎีกาขอให้ทำลายปูนซีเมนต์ของกลางเป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาล อันเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4764/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฎีกาและการจำหน่ายคดีออกจากสารบบความเนื่องจากจำเลยเพิกเฉยต่อการดำเนินการตามขั้นตอนวิธีพิจารณาความ
จำเลยทั้งสองยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยทั้งสองมาฟังคำสั่งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2534 ถ้าไม่มาฟังคำสั่งให้ถือว่าได้ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นแล้วต่อมาวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2534ศาลชั้นต้นสั่งว่ารับฎีกาของจำเลยทั้งสอง สำเนาฎีกาให้โจทก์ถ้าหากไม่มีผู้รับสำเนาฎีกาให้ปิดหมายนัดได้ และศาลชั้นต้นออกหมายนัดให้เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2534 จำเลยทั้งสองจึงมีหน้าที่นำส่งหรือเสียค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาฎีกาแก่โจทก์ภายในเวลาอันสมควร การที่จำเลยทั้งสองเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีต่อมาเป็นเวลา 1 เดือนเศษ ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองทิ้งฎีกา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4672/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสิทธิอุทธรณ์/ฎีกาในคดีประกันตัว: คำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์ถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119
เมื่อผู้ประกันขอลดค่าปรับและศาลชั้นต้นมีคำสั่งลดให้แล้วผู้ประกันอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์ของผู้ประกัน คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 119 ผู้ประกันไม่อาจจะฎีกาต่อมาอีกได้ ศาลชั้นต้นรับฎีกาของผู้ประกันที่ 1 จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
of 303