พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,786 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการมรดกโดยผู้จัดการมรดกแทนทายาทอื่น และข้อยกเว้นอายุความมรดก
ทายาทผู้เป็นผู้จัดการมรดกด้วย ปกครองทรัพย์มรดกแทนทายาทอื่น แม้จะเกิน 1 ปี ทายาทอื่นก็ฟ้องขอแบ่งได้ไม่ขาดอายุความมรดกตามมาตรา 1754
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีมรดกของผู้เยาว์และการหมดอายุความตามกฎหมาย
เมื่อเจ้ามรดกตายทายาทซึ่งเป็นผู้เยาว์มีมารดาเป็นผู้เทนโดยชอบธรรมมารดาของทายาทผู้เยาว์มิได้ฟ้องคดีมรดกเสียภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันเจ้ามรดกตาย ต่อมาเมื่อผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะแล้วจะมาฟ้องคดีมรดกเองหาได้ไม่ เพราะกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม ป.พ.พ. ม.183.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีมรดกโดยผู้เยาว์ผ่านผู้แทนโดยชอบธรรมมีกำหนดเวลาฟ้อง หากพ้นกำหนดสิทธิขาดสิ้น
เมื่อเจ้ามรดกตายทายาทซึ่งเป็นผู้เยาว์มีมารดาเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมมารดาของทายาทผู้เยาว์มิได้ฟ้องคดีมรดกเสียภายในกำหนด1 ปีนับแต่วันเจ้ามรดกตายต่อมาเมื่อผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะแล้วจะมาฟ้องคดีมรดกเองหาได้ไม่เพราะกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา183
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 737/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิคัดค้านการจัดการมรดกของผู้รับพินัยกรรม และการมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก
เมื่อผู้ร้องร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกมีผู้คัดค้านว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมฉบับหลังยกทรัพย์มรดกให้ผู้คัดค้านแล้วและอ้างเหตุอื่นอีกหลายประการว่าผู้ร้องไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก
เช่นนี้ถือว่าผู้คัดค้านมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย จึงมีสิทธิที่จะร้องคัดค้านได้จึงให้ดำเนินคดีไปดังคดีมีข้อพิพาท
เช่นนี้ถือว่าผู้คัดค้านมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย จึงมีสิทธิที่จะร้องคัดค้านได้จึงให้ดำเนินคดีไปดังคดีมีข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งผู้รับมรดก: ทายาทโดยชอบด้วยกฎหมายเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลยที่มรณะ
โจทก์ขอให้เรียก ซ.ภรรยาของจำเลยเข้ามาเป็นจำเลยแทนสามีซึ่งมรณะ ซ.ต่อสู้ว่าไม่ได้เป็นภรรยาโดยชอบด้วย ก.ม. ทั้งไม่ได้รับมรดกจากสามีแต่ประการใด แต่เมื่อไต่สวนแล้วศาลเชื่อว่า ซ.เป็นภรรยาโดยชอบด้วย ก.ม.เป็นทายาทของสามีผู้วายชนม์ ศาลก็ย่อมตั้งให้ ซ.เป็นผู้รับมรดกความได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดก: สิทธิของทายาทแต่ละคน และหลักการแบ่งทรัพย์สินโดยรวม
โจทก์ฟ้องว่าขอแบ่งมรดกจากจำเลยครึ่งหนึ่งของมรดก มีทายาทคนหนึ่งร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยอ้างว่ามีส่วนได้ส่วนเสียตาม ก.ม.ตามทางพิจารณาปรากฏว่าเจ้ามรดกรายนี้มีทายาทรวมทั้งหมด 5 คนคือโจทก์ จำเลย ผู้ร้องสอดและทายาทอื่นอีก 2 คน ที่มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ถือว่าการแบ่งทรัพย์มรดกรายนี้ต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่คู่ความมีสิทธิควรจะได้จะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ด้วยหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่ส่วนได้ของคู่ความในคดีนี้และการแบ่งเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแห่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นตามความใน ป.พ.พ. ม.1749 ดังนั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วนโดยถือว่าทายาทอีก 2 คนฟ้องหรือร้องขึ้นมาอาจถูกยกอายุความฟ้องแบ่งมรดกหรือสิทธิอ้างอิงเหตุอื่นเป็นข้อต่อสู้อ้างอิงและไม่ให้ได้รับส่วนแบ่งหาได้ไม่ เพราะเหตุต่อสู้ผลของการต่อสู้ยังไม่ปรากฏมีขึ้นทั้งทายาทอาจตกลงแบ่งกันโดยดีหรือไม่ยกเหตุต่อสู้อะไรก็ได้จึงต้องแบ่งทรัพย์มรดกออกเป็น 5 ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละ 1 ส่วน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดก: สิทธิของทายาท, การคำนวณส่วนแบ่ง, และผลกระทบต่อทายาทที่ไม่ได้เป็นคู่ความ
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกจากจำเลยครึ่งหนึ่งของมรดกมีทายาทคนหนึ่งร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยอ้างว่ามีส่วนได้ส่วนเสียตามกฎหมายตามทางพิจารณาปรากฏว่าเจ้ามรดกรายนี้มีทายาทรวมทั้งหมด5 คนคือโจทก์จำเลยผู้ร้องสอดและทายาทอื่นอีก 2 คนที่มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ถือว่าการแบ่งทรัพย์มรดกรายนี้ต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่คู่ความมีสิทธิควรจะได้จะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ด้วยหาได้ไม่เพราะไม่ใช่ส่วนได้ของคู่ความในคดีนี้และการแบ่งเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแห่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1749
ดังนั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วนโดยถือว่าทายาทอีก 2 คนฟ้องหรือร้องขึ้นมาอาจถูกยกอายุความฟ้องแบ่งมรดกหรือสิทธิอ้างอิงเหตุอื่นเป็นข้อต่อสู้ไม่ให้ได้รับส่วนแบ่งหาได้ไม่เพราะเหตุต่อสู้อ้างอิงและผลของการต่อสู้ยังไม่ปรากฏมีขึ้นทั้งทายาทอาจตกลงแบ่งปันกันโดยดีหรือไม่ยกเหตุต่อสู้อะไรก็ได้จึงต้องแบ่งทรัพย์มรดกออกเป็น 5ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละ 1 ส่วน
ดังนั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วนโดยถือว่าทายาทอีก 2 คนฟ้องหรือร้องขึ้นมาอาจถูกยกอายุความฟ้องแบ่งมรดกหรือสิทธิอ้างอิงเหตุอื่นเป็นข้อต่อสู้ไม่ให้ได้รับส่วนแบ่งหาได้ไม่เพราะเหตุต่อสู้อ้างอิงและผลของการต่อสู้ยังไม่ปรากฏมีขึ้นทั้งทายาทอาจตกลงแบ่งปันกันโดยดีหรือไม่ยกเหตุต่อสู้อะไรก็ได้จึงต้องแบ่งทรัพย์มรดกออกเป็น 5ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละ 1 ส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองการซื้อขายทรัพย์สินโดยผู้เยาว์และการเพิกเฉยต่อการแสดงกรรมสิทธิ์ของจำเลย ทำให้สิทธิในการแบ่งมรดกสิ้นสุดลง
ระหว่างเป็นผู้เยาว์โจทก์มีชกรรมสิทธิ์ร่วมในห้องพิพาทร่วมกับจำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2 ได้ขายห้องพิพาทนี้โดยจำเลยที่ 2 มิได้แสดงกรรมสิทธิรวมแต่ประการใด โจทก์ก็ได้ลงนามรับรองในหนังสือซื้อขายนั้นด้วย ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ฟ้องขับไล่บุคคลภายนอกออกจากห้องพิพาทจนได้คืนห้องพิพาทมา.โจทก์ก็มิได้คัดค้าน แสดงว่าโจทก์ได้จงใจรับรู้ให้จำเลยที่ 1 แสดงตนเป็นเจ้าของห้องพิพาทมาตั้งแต่ต้นกระทำให้จำเลย หลงผิดว่าห้องพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 ดังนั้น โจทก์จะอ้างสิทธิแห่งความเป็นผู้เยาว์มาเพิกถอนการซื้อขายห้องพิพาทระหว่างจำเลยทั้งสอง และขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์มีกรรมสิทธิคนละครึ่งกับจำเลยที่ 2 ย่อมไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดตัดสิทธิบุตรคนอื่น ย่อมมีผลตามพินัยกรรม
พินัยกรรมมีความตอนต้นว่า ยกทรัพย์ให้ พ. ตอนต่อไประบุทรัพย์ แล้วมีความว่าขอมอบพินัยกรรมนี้แก่ พ.ให้พ. จัดการมรดกตามพินัยกรรมนี้ย่อมแปลความได้ว่า เป็นพินัยกรรมที่ยกทรัพย์ให้ พ. ผู้เดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์มรดก และการสืบพยานที่ขัดแย้งต่อการให้การเดิม
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าเป็นของจำเลยแต่ลงชื่อผู้ตายไว้ในฐานะนิติกรรมอำพรางและปรากฏตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำให้การว่าจำเลยออกเงินซื้อในชั้นนำสืบจำเลยสืบว่าที่ทำเช่นนี้เพื่อปกปิดสามีดังนี้ไม่เป็นการสืบนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์บางอย่างเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าทรัพย์เช่นว่านั้นไม่มีอยู่ที่จำเลย แต่ชั้นนำสืบจำเลยนำสืบว่าทรัพย์เหล่านี้ผู้ตายยกให้บุตรจำเลย เช่นนี้ฟังไม่ได้เพราะเป็นการปิดบังเอาเปรียบโจทก์ในเชิงคดีทั้งๆ ที่จำเลยรู้ดีแล้วว่าทรัพย์อยู่ที่ไหน
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์บางอย่างเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าทรัพย์เช่นว่านั้นไม่มีอยู่ที่จำเลย แต่ชั้นนำสืบจำเลยนำสืบว่าทรัพย์เหล่านี้ผู้ตายยกให้บุตรจำเลย เช่นนี้ฟังไม่ได้เพราะเป็นการปิดบังเอาเปรียบโจทก์ในเชิงคดีทั้งๆ ที่จำเลยรู้ดีแล้วว่าทรัพย์อยู่ที่ไหน