คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ล้มละลาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,913 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2722/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนทรัพย์สินก่อนล้มละลายเมื่อเจตนาให้เจ้าหนี้รายหนึ่งได้เปรียบ
จำเลยที่ 2 มีหนี้สินจำนวนมาก เฉพาะที่มายื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ มี119 ราย เป็นจำนวนหนี้ถึง 262 ล้าน บาท ดังนั้นการที่จำเลยที่ 2 รู้อยู่แล้วว่าตนเอง มีหนี้สินเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ แต่กลับ โอนรถยนต์พิพาทให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายหนึ่งเพื่อเป็นการชำระหนี้ภายในเวลา 3 เดือนก่อนมีการขอให้ ล้มละลายย่อมถือได้ว่า จำเลยที่ 2 ได้โอนทรัพย์สิน โดยมุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นตามนัยของ มาตรา 115 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 แล้ว
การโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ในระยะเวลาสามเดือนก่อนมีการ ขอให้ล้มละลายตาม มาตรา 115. ถ้าลูกหนี้ซึ่งเป็นผู้โอน ทรัพย์สิน เพียงฝ่ายเดียวรู้ว่าเป็นการโอนที่ทำให้เจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งได้เปรียบ เจ้าหนี้อื่นก็เป็นการเพียงพอที่ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะร้องขอให้ เพิกถอนการโอนได้แล้ว
บุคคลภายนอกแม้จะรับโอนมาโดยสุจริต และมีค่าตอบแทน แต่หากรับโอนไว้ภายหลังที่มีการขอให้ลูกหนี้ล้มละลายแล้วย่อมไม่ได้รับ ความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 116

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2645/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการรับชำระหนี้จากการล้มละลาย: เจ้าหนี้มีประกัน vs. เจ้าหนี้ไม่มีประกัน พิจารณาจากคำพิพากษาและสัญญาจำนอง
เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้โดยอ้างคำพิพากษาของศาลเป็นหลักฐานประกอบหนี้และเสียค่าธรรมเนียมยื่นคำขอรับชำระหนี้ 25 บาท เท่ากับอัตราค่ายื่นคำขอรับชำระหนี้อย่าง เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา แม้ในชั้นสอบสวนเจ้าหนี้อ้างส่ง สัญญาจำนองทรัพย์สินระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ที่ 5 ก็ตาม แต่เมื่อคำพิพากษาดังกล่าวไม่ปรากฏว่าได้มีการบังคับจำนอง เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้รวมอยู่ด้วยเช่นนี้เจ้าหนี้ คงมีสิทธิขอรับชำระหนี้ในฐานเป็นเจ้าหนี้ไม่มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 130 (8) เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2645/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย: การพิสูจน์ฐานะเจ้าหนี้มีประกันจากคำพิพากษาและการบังคับจำนอง
เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้โดยอ้างคำพิพากษาของศาลเป็นหลักฐานประกอบหนี้และเสียค่าธรรมเนียมยื่นคำขอรับชำระหนี้ 25 บาท เท่ากับอัตราค่ายื่นคำขอรับชำระหนี้อย่าง เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา แม้ในชั้นสอบสวนเจ้าหนี้อ้างส่งสัญญาจำนองทรัพย์สินระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ที่ 5 ก็ตาม แต่เมื่อคำพิพากษาดังกล่าวไม่ปรากฏว่าได้มีการบังคับจำนอง เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้รวมอยู่ด้วยเช่นนี้ เจ้าหนี้ คงมีสิทธิขอรับชำระหนี้ในฐานเป็นเจ้าหนี้ไม่มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 130(8) เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2392/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้พลาดกำหนดยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ย่อมหมดสิทธิ แม้ไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้มิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน กำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 91 โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ จะอ้างว่าไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดโดยสุจริตหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่แจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ให้โจทก์ทราบหาได้ไม่เพราะจะเท่ากับเป็นการขยายระยะเวลา ตามมาตรา 91 ออกไปโดยไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2392/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาตามกฎหมายล้มละลาย แม้ไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้มิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน กำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 91 โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จะอ้างว่าไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดโดยสุจริตหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่แจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดให้ โจทก์ทราบหาได้ไม่ เพราะจะเท่ากับเป็นการขยายระยะเวลา ตามมาตรา 91 ออกไปโดยไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ยืมไม่สมบูรณ์-หลักฐานพิรุธ-สิทธิรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
สัญญากู้ยืมที่เจ้าหนี้อ้างส่งไว้แล้วในศาลชั้นต้นปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย เจ้าหนี้มิได้ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุญาตนำสัญญากู้ยืมไปปิดแสตมป์ให้บริบูรณ์ก่อนศาลชั้นต้นชี้ขาดตัดสินคดีเพิ่งขอมาในชั้นฎีกา จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะอนุญาต ดังนั้น จึงใช้เป็นพยานหลักฐานแห่งการกู้ยืมไม่ได้ เจ้าหนี้ผู้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย มีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เพื่อพิสูจน์ ว่าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้มีอยู่จริง เจ้าหนี้จึงจะมีสิทธิได้รับชำระหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ล้มละลาย: การพิจารณาหนี้สินและทรัพย์สินเพื่อพิสูจน์สภาพบุคคลล้มละลาย
คำฟ้องโจทก์บรรยายถึงมูลหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องว่า เป็นหนี้ตามคำพิพากษาอันถึงที่สุดแล้วมีจำนวนแน่นอนเกินกว่า 30,000 บาทถึงกำหนดชำระแล้ว จำเลยไม่ชำระ โจทก์จึงนำยึดทรัพย์สินของจำเลยทั้งหมด แต่ทรัพย์สินที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีการจำนองไว้ เจ้าหนี้จำนองได้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยในฐานะเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิไว้ต่อศาล ทรัพย์สินอื่นๆ ก็มีราคาไม่พอชำระหนี้ จำเลยจึงเป็นบุคคลมีหนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย ดังนี้ เป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 9 ครบถ้วนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ประกอบด้วยพระราบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 153 ไม่ต้องบรรยายให้เข้าหลักเกณฑ์แห่งข้อสันนิษฐานตาม พระราชบัญญัติ ล้มละลายฯมาตรา 8 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2007/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ที่เกิดจากความรู้เห็นชอบของเจ้าหนี้ แม้เป็นหนี้เดิม ศาลล้มละลายยกคำขอรับชำระได้
แม้ว่าหนี้ที่เจ้าหนี้นำมาขอรับชำระหนี้จะเป็นหนี้รายเดียวกับที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลายที่เจ้าหนี้เป็นโจทก์ฟ้องคดีก็ตามก็หามีผลผูกพันให้ศาล จำต้องถือตามไม่ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่าหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ที่นำมาขอรับชำระในคดีล้มละลายไม่ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94 (2) และยกคำขอรับชำระหนี้นั้นเสียได้
หมายเหตุ ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2528

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2007/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ที่เกิดจากการให้ลูกหนี้มีหนี้สินพ้นตัว ไม่อาจนำมาขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้
แม้ว่าหนี้ที่เจ้าหนี้นำมาขอรับชำระหนี้จะเป็นหนี้รายเดียวกับที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลายที่เจ้าหนี้เป็นโจทก์ฟ้องคดีก็ตาม ก็หามีผลผูกพันให้ศาล จำต้องถือตามไม่ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่าหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ที่นำมาขอรับชำระในคดีล้มละลายไม่ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94(2) และยกคำขอรับชำระหนี้นั้นเสียได้
หมายเหตุ ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2528

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2006/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ที่เกิดขึ้นหลังรู้สภาพคล่องหนี้สินลูกหนี้ ไม่อาจรับชำระในคดีล้มละลาย
ผู้ขอรับชำระหนี้เป็นผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ซึ่งเป็นภริยาให้ ยื่นฟ้องจำเลยล้มละลายและได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เงินกู้ตามเช็คหลายฉบับ เช็คบางฉบับลงวันที่สั่งจ่ายก่อนวันที่จำเลยถูกฟ้องเพียง 10 วัน ถึง 3 เดือนเศษ บางฉบับลงวันที่สั่งจ่ายหลังวันที่จำเลยถูกฟ้องล้มละลายแล้ว และบางฉบับลงวันที่สั่งจ่ายหลังวันศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยผู้ขอรับชำระหนี้ไม่มีหลักฐานการกู้เป็นหนังสือมาแสดงและไม่มีพยานรู้เห็น ทั้งยังปรากฏว่าผู้ขอรับชำระหนี้รู้จักจำเลยทั้งสองมา 6 - 7 ปีเศษมีความสนิทสนมเคยติดต่อทำธุรกิจระหว่างกันและทราบดีว่าจำเลยที่ 1มีหนี้สินล้นพ้นตัวก่อนที่จำเลยจะถูกฟ้องประมาณ 2 - 3 เดือนยิ่งกว่านั้นก่อนนั้นขึ้นไปจำเลยที่ 1 เคยสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ขอรับชำระหนี้หลายฉบับซึ่งถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาแล้ว ดังนี้ พฤติการณ์ย่อมเห็นได้ว่าเช็คที่ขอรับชำระหนี้เป็นเช็คที่เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจึงเป็นหนี้ที่ขอรับชำระไม่ได้ในคดีล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94 (2)
of 192