พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,449 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของตัวแทนและการรับผิดของตัวการในหนี้ซื้อขาย
บรรยายฟ้องว่า 'จำเลยที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดได้แต่งตั้งและเชิดให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการมีอำนาจซื้อขายและออกเช็คในนามของห้างหุ้นส่วน' เช่นนี้ถือว่ามิได้บรรยายให้จำเลยที่ 2 รับผิดชอบเป็นส่วนตัวด้วยแต่เป็นเรื่องเป็นตัวแทนของจำเลยที่1 ซึ่งเป็นตัวการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้โดยไม่สุจริตต่อตัวแทนที่ไม่ได้รับมอบอำนาจ ย่อมไม่ถือเป็นการชำระหนี้โดยชอบ
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ จำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระให้แก่นายขาบสามี โจทก์แล้ว นายขาบร้องสอดเข้ามารับว่าได้รับชำระไว้แทนโจทก์แล้ว วันชี้สองสถาน ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยนำสืบก่อน จำเลยแถลงว่าถ้าโจทก์ยอมรับว่าขณะทำสัญญาซื้อขายที่ดิน นายขาบได้ยินยอมรู้เห็นด้วยจำเลยก็ไม่นำสืบ โจทก์ยอมรับ คู่ความต่างไม่สืบพยาน
ดังนี้ เมื่อจำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมประเด็น ข้อต่อสู้กลับไม่สืบ จะอาศัยแต่เพียงการรับของโจทก์ว่าขณะทำสัญญาซื้อขาย นายขาบได้ยินยอมรู้เห็นด้วยเท่านั้นไม่พอ หากจะฟังว่าขณะนั้นนายขาบเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ปรากฎว่าเป็นสามีที่ร้างกันหรืออยู่กินด้วยกันตามปกติ นามสกุลก็ใช้ต่างกัน เมื่อฟ้องคดี โจทก์ก็อ้างว่าเป็นหญิงหม้าย จำเลยมิได้นำสืบว่านายขาบยังเป็นสามีโจทก์อยู่ และมีอำนาจที่จะรับชำระหนี้แทนโจทก์ได้แต่อย่างใด การที่จำเลยอ้างว่าได้ทำการชำระหนี้รายนี้แก่นายขาบแม้จะเป็นจริง ก็ยังถือไม่ได้ว่าได้ทำการชำระหนี้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยจึงต้องแพ้คดี
ดังนี้ เมื่อจำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมประเด็น ข้อต่อสู้กลับไม่สืบ จะอาศัยแต่เพียงการรับของโจทก์ว่าขณะทำสัญญาซื้อขาย นายขาบได้ยินยอมรู้เห็นด้วยเท่านั้นไม่พอ หากจะฟังว่าขณะนั้นนายขาบเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ปรากฎว่าเป็นสามีที่ร้างกันหรืออยู่กินด้วยกันตามปกติ นามสกุลก็ใช้ต่างกัน เมื่อฟ้องคดี โจทก์ก็อ้างว่าเป็นหญิงหม้าย จำเลยมิได้นำสืบว่านายขาบยังเป็นสามีโจทก์อยู่ และมีอำนาจที่จะรับชำระหนี้แทนโจทก์ได้แต่อย่างใด การที่จำเลยอ้างว่าได้ทำการชำระหนี้รายนี้แก่นายขาบแม้จะเป็นจริง ก็ยังถือไม่ได้ว่าได้ทำการชำระหนี้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยจึงต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ส่วนตัวจากการกู้เงินของภริยา: ไม่ผูกพันสินบริคณห์
หญิงมีสามีกู้เงิน ย่อมผูกพันหญิงเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ผูกพันสินบริคณห์โดยเฉพาะ เมื่อหญิงถูกฟ้อง หญิงจะยกข้อต่อสู้ว่าสามีบอกล้างแล้วไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลดหนี้ของผู้ค้ำประกันและการเรียกร้องหนี้ระหว่างผู้ค้ำประกันร่วม ผู้ค้ำประกันที่ได้รับการปลดหนี้แล้วไม่มีสิทธิเรียกร้องจากผู้ค้ำประกันร่วม
เมื่อเจ้าหนี้ได้ยอมปลดหนี้ตามส่วนของผู้ค้ำประกันลูกหนี้แล้ว หนี้ที่ผู้ค้ำประกันจะพึงต้องชำระก็ตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกร้องเอาแก่ผู้ค้ำประกันร่วมกันอีกคนหนึ่งเกินกว่าที่ต้องรับผิดไม่ได้
ผู้ค้ำประกันร่วมคนหนึ่งซึ่งยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนต้องรับผิดนั้น ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากผู้ค้ำประกันร่วมคนอื่นผู้ซึ่งเจ้าหนี้ได้ปลดหนี้ให้แล้ว.
ผู้ค้ำประกันร่วมคนหนึ่งซึ่งยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนต้องรับผิดนั้น ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากผู้ค้ำประกันร่วมคนอื่นผู้ซึ่งเจ้าหนี้ได้ปลดหนี้ให้แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลดหนี้ผู้ค้ำประกันและการเรียกร้องหนี้ระหว่างผู้ค้ำประกันร่วม ผู้ค้ำประกันที่ได้รับการปลดหนี้แล้วไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ส่วนที่เหลือ
เมื่อเจ้าหนี้ได้ยอมปลดหนี้ตามส่วนของผู้ค้ำประกันลูกหนี้แล้ว หนี้ที่ผู้ค้ำประกันจะพึงต้องชำระก็ตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกร้องเอาแก่ผู้ค้ำประกันร่วมกันอีกคนหนึ่งเกินกว่าที่ต้องรับผิดไม่ได้
ผู้ค้ำประกันร่วมคนหนึ่งซึ่งยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนต้องรับผิดนั้น ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากผู้ค้ำประกันร่วมคนอื่นผู้ซึ่งเจ้าหนี้ได้ปลดหนี้ให้แล้ว
ผู้ค้ำประกันร่วมคนหนึ่งซึ่งยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนต้องรับผิดนั้น ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากผู้ค้ำประกันร่วมคนอื่นผู้ซึ่งเจ้าหนี้ได้ปลดหนี้ให้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้มีสิทธิเก็บหนี้จากบุคคลที่สามตามตกลง แม้หนี้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
จำเลยให้นางถนอมยืมเงินไป2,500บาท นางถนอมมอบหลักฐานให้จำเลยเก็บเงินค่าหิน ค่าทรายเอากับนายบุญทองเพื่อชดใช้เงินที่นางถนอมเป็นหนี้จำเลย จำเลยไปเก็บมาได้จำเลยย่อมมีสิทธิ์ในเงินนั้น ไม่ต้องคืนให้โจทก์ซึ่งเป็นทายาทนางถนอม แม้ว่านางถนอมยืมเงินจำเลยไปไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1388/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยาและการบังคับคดี: สินบริคณห์ผูกพันหนี้โดยชอบธรรม
ผู้ร้องเป็นภรรยาจำเลยซึ่งถูกยึดทรัพย์จะมายื่นคำร้องขอให้งดขายทอดตลาดทรัพย์จำเลยที่ถูกยึด โดยอ้างว่าตนกำลังฟ้องขอแบ่งทรัพย์จากจำเลย โดยไม่ปรากฏว่ามีการหย่าขาดจากกัน หรือไม่ปรากฏในคำร้องว่า ผู้ร้องกับสามีมีสัญญาตกลงให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการสินบริคณฑ์อย่างใด ไม่ได้ เพราะอย่างไรๆ หนี้ของจำเลยก็ผูกพันมาถึงสินบริคณฑ์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงนามค้ำประกันหนี้: ผลผูกพันตามสัญญา
การที่จำเลยที่ 1 กรอกข้อความในสัญญากู้ แล้วระบุให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เมื่อเขียนแล้วจำเลยที่ 1 ลงชื่อเป็นผู้กู้ แล้วบรรทัดต่อมา มีช่องผู้ค้ำประกัน ไม่มีข้อความอื่น เมื่อจำเลยที่ 2 ลงชื่อในช่องผู้ค้ำประกันก็ย่อมผูกพันตนในการชำระหนี้ที่ผู้กู้ กู้ไปนั้นในฐานะผู้ค้ำประกันแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1523/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของตัวการต่อหนี้ที่ตัวแทนก่อขึ้นจากการทำสัญญาซื้อขายเพื่อสร้างโรงน้ำแข็ง
เมื่อฟ้องของโจทก์ในข้อ 2 กล่าวว่าจำเลยที่ 2 เชิดจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงน้ำแข็ง จำเลยที่ 1 ซื้อเชื่อเครื่องก่อสร้างไปสร้างโรงน้ำแข็ง จึงขอให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยเกี่ยวกับเรื่องตัวการตัวแทนได้ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
อนึ่งเมื่อฟังว่าตามทะเบียนแท้จริงจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็ง แม้ภายหลังจำเลยที่ 1 ที่ 2 พิพาทกัน ศาลพิพากษาว่าโรงน้ำแข็งเป็นของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างก็ตาม เมื่อการก่อสร้างโรงน้ำแข็งรายนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ 2 ดังนี้ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของโรงนี้แข็งรายนี้จำต้องรับผิดในฐานะเป็นตัวการของจำเลยที่ 1 โดยตรงตามกฎหมาย.
อนึ่งเมื่อฟังว่าตามทะเบียนแท้จริงจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็ง แม้ภายหลังจำเลยที่ 1 ที่ 2 พิพาทกัน ศาลพิพากษาว่าโรงน้ำแข็งเป็นของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างก็ตาม เมื่อการก่อสร้างโรงน้ำแข็งรายนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ 2 ดังนี้ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของโรงนี้แข็งรายนี้จำต้องรับผิดในฐานะเป็นตัวการของจำเลยที่ 1 โดยตรงตามกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1416/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทน การยึดโฉนดเพื่อชำระหนี้ตามสัญญา
มอบโฉนดที่ดินให้ผู้อื่นไปใช้ประกันจำเลยในคดีอาญาโดยผู้นั้นออกเงินจำนวนหนึ่งไปไถ่ถอนโฉนดนั้นมาจากการที่เจ้าของโฉนดไปวางประกันเงินกู้ไว้กับผู้มีชื่อและตกลงกันว่าเมื่อถอนประกันจำเลยแล้วเจ้าของโฉนดจะคืนเงินจำนวนที่ผู้นั้นออกไปไถ่ถอนโฉนดนั้นมาให้ ถ้ายังหาเงินให้ไม่ทัน ก็ให้ผู้นั้นยึดโฉนดไว้ก่อนดังนี้ ผู้นั้นย่อมมีสิทธิจะยึดโฉนดไว้ได้จนกว่าเจ้าของโฉนดจะปฏิบัติตามข้อสัญญาที่ตกลงกัน