คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาซื้อขาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,003 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขาย: การชำระเงินครบถ้วนหลังทำสัญญาไม่ทำให้กลายเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาด
ข้อความในเอกสารสัญญามีว่า จำเลยขายที่ดินให้โจทก์ราคา 36,000 บาท โดยโจทก์ชำระราคาให้จำเลยแล้วในวันทำสัญญา 32,000 บาท ส่วนอีก 4,000 บาท จะชำระให้เมื่อทำการโอน ดังนี้ สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาจะซื้อขาย แม้ต่อมาโจทก์ชำระเงินที่ค้างอีก 4,000 บาท ให้จำเลยหลังจากทำสัญญาจะซื้อขายกันแล้ว ก็เป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาจะซื้อขายเท่านั้น ไม่เป็นเหตุให้เอกสารสัญญาดังกล่าวกลายเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อที่แท้จริงเป็นสัญญาซื้อขายผ่อนชำระ กรรมสิทธิ์โอนทันทีแม้ยังไม่โอนทะเบียน
แม้ตอนบนของสัญญาระบุว่าเป็นสัญญาเช่าซื้อรถยนต์แต่ข้อความในสัญญามีลักษณะเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดที่ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อผ่อนชำระราคาได้เท่านั้น กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ย่อมโอนไปยังจำเลยผู้ซื้อทันที แม้ยังไม่ได้โอนทะเบียนรถยนต์ให้แก่กัน ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ จึงขอคืนรถยนต์ของกลางที่ศาลสั่งริบแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อทำสัญญาซื้อขาย ไม่ต้องโอนทะเบียน
รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์ที่อยู่ในบังคับตามมาตรา 456 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ย่อมโอนไปยังผู้ซื้อแต่ขณะทำสัญญาซื้อขายกันโดยมิต้องไปโอนทะเบียน ส่วนการโอนทะเบียนรถยนต์ตามกฎหมาย เกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่จะควบคุมยานพาหนะและภาษีรถยนต์ มิใช่แบบของนิติกรรมแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3821/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเบี้ยปรับในสัญญาซื้อขายสิทธิการเช่า ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
จำเลยทำสัญญาจะขายสิทธิการเช่าตึกแถวแก่โจทก์โดยมีข้อตกลงว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาไม่ไปทำหนังสือสัญญาและจดทะเบียนขายตามกำหนดจำเลยยอมให้โจทก์ฟ้องศาลบังคับให้เป็นไปตามสัญญาและ ยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 650,000 บาท อีกส่วนหนึ่งด้วยนั้น เป็นข้อตกลงที่โจทก์จำเลยสมัครใจตกลงกันไว้ แม้การผิดสัญญาของจำเลยนอกจากจำเลยจะถูกฟ้องศาลบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว จำเลยยังจะต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีก 650,000 บาท ก็ตาม การบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาก็คือการเรียกใช้ชำระหนี้ตามสัญญา และค่าเสียหายที่กำหนดจำนวนไว้ล่วงหน้าก็คือเบี้ยปรับนั่นเอง โจทก์จำเลยจึงอาจตกลงกันได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381 วรรคหนึ่ง ข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่เป็นโมฆะ เพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม อันดีของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3821/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเบี้ยปรับในสัญญาซื้อขายสิทธิการเช่า ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
จำเลยทำสัญญาจะขายสิทธิการเช่าตึกแถวแก่โจทก์โดยมีข้อตกลงว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาไม่ไปทำหนังสือสัญญาและจดทะเบียนขายตามกำหนดจำเลยยอมให้โจทก์ฟ้องศาลบังคับให้เป็นไปตามสัญญาและยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 650,000 บาทอีกส่วนหนึ่งด้วยนั้น เป็นข้อตกลงที่โจทก์จำเลยสมัครใจตกลงกันไว้ แม้การผิดสัญญาของจำเลยนอกจากจำเลยจะถูกฟ้องศาลบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว จำเลยยังจะต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีก 650,000 บาทก็ตาม การบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาก็คือการเรียกใช้ชำระหนี้ตามสัญญา และค่าเสียหายที่กำหนดจำนวนไว้ล่วงหน้าก็คือเบี้ยปรับนั่นเอง โจทก์จำเลยจึงอาจตกลงกันได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 381 วรรคหนึ่ง ข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่เป็นโมฆะ เพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม อันดีของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดินไม่ระบุราคา โมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และอำนาจศาลในการบังคับค่าฤชาธรรมเนียมคนอนาถา
จำเลยกู้เงินโจทก์ แล้วมอบนาพิพาทให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ย ในสัญญากู้มีข้อความว่า ถ้าจำเลยไม่นำเงินต้นและดอกเบี้ยมาชำระภายในหนึ่งปีนับแต่วันทำสัญญา จำเลยยอมยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แทนเงินกู้ แต่มิได้ระบุว่าที่พิพาทมีราคาเท่าใด เท่ากับราคาในท้องตลาดในเวลาและ ณ สถานที่ส่งมอบหรือไม่ข้อสัญญาดังกล่าวนี้จึงขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 656 วรรคสอง และตกเป็นโมฆะตามวรรคสาม
จำเลยได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถา โดยได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมบางส่วน เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชนะคดี ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจกำหนดให้โจทก์ซึ่งจะต้องรับผิดเสียค่าฤชาธรรมเนียมนั้นเป็นผู้เสียค่าฤชาธรรมเนียมเฉพาะส่วนที่จำเลยได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3459/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายตกลงกันแล้ว จำเลยผิดสัญญา ส่งมอบสินค้าไม่ทันตามกำหนด โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย
โจทก์เคยเป็นลูกค้าของจำเลย ประมาณเดือนกรกฎาคม 2521 โจทก์ได้ส่งใบสอบราคาเพื่อจัดพิมพ์สมุดบันทึกประจำปี พ.ศ. 2522 ไปให้จำเลยใบสอบราคาได้กำหนดขนาด วัตถุดิบที่ใช้กำหนดวันแล้วเสร็จ วิธีการจัดส่งและจำนวนการสั่งพิมพ์จากขั้นต่ำ 8,000 เล่ม ถึงขั้นสูง 15,000 เล่ม มีข้อกำหนดด้วยว่าถ้า การพิมพ์ไม่เป็นไปตามใบสั่ง โจทก์มีสิทธิไม่รับของและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และถ้าส่งล่าช้า จะถูกปรับวันละ 2,000 บาท จำเลยได้กรอกราคาในใบสอบราคาของโจทก์แล้วส่งกลับคืนไป โดยเสนอว่าถ้าพิมพ์จำนวนขั้นต่ำและขั้นสูงราคาจะแตกต่างกัน ถ้าพิมพ์จำนวนน้อยจะแพงกว่าพิมพ์จำนวนมากมีรายละเอียดทุกราคา ต่อมาวันที่ 9 สิงหาคม 2521 โจทก์ตอบตกลงให้จำเลยจัดพิมพ์ หลักฐานดังกล่าวเป็นคำเสนอสนองระหว่างโจทก์และจำเลยเกิดเป็นสัญญาขึ้น เรื่องจำนวนพิมพ์ที่แน่นอน จำเลยไม่ได้เกี่ยงให้ฝ่ายโจทก์กำหนดก่อนเพราะเคยพิมพ์กันมาแล้ว จึงหาใช่ข้อสารสำคัญไม่การที่ระบุในใบสอบราคาว่าตัวอย่างและรายละเอียดตลอดจนการอนุมัติการวางรูปเล่ม จำนวนสั่งพิมพ์ให้ติดต่อกับ ร.เจ้าหน้าที่แผนกโฆษณาของโจทก์ก็เพื่อให้ทราบว่าจะติดต่อกับผู้ใดข้อโต้แย้งของจำเลยว่ายังไม่ได้ตกลงรับจ้างเพราะไม่ทราบจำนวนพิมพ์และวันหยุดของธนาคารพาณิชย์นั้นเป็นเรื่องกล่าวอ้างขึ้นภายหลังดังจะเห็นได้ว่าจำเลยก็ยอมรับว่าโจทก์เป็นผู้สั่งทำและขอเลื่อนเวลาการส่งของออกไปจึงฟังไม่ขึ้นจำเลยไม่สามารถส่งของให้โจทก์ได้ภายในกำหนด จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาและไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายในการดำเนินงานล่วงหน้าจากโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3330-3331/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีสัญญาซื้อขายที่ดิน - ประเด็นผิดสัญญาเดียวกัน แม้ฟ้องก่อนมีคำพิพากษา
ก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ถูกจำเลยฟ้องขับไล่ออกจากที่พิพาท อ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาท โจทก์ให้การอย่างเดียวกับข้ออ้างตามคำบรรยายฟ้องคดีนี้ต่อมาคดีแรกศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่โจทก์ ดังนี้ เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้กับคดีแรกมีประเด็นข้อพิพาทอย่างเดียวกัน และศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดคดีแรกว่าโจกท์เป็นฝ่ายผิดสัญญา ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 แม้โจทก์จะฟ้องคดีนี้ก่อนที่ศาลจะวินิจฉัยคดีแรกก็ตาม แต่เมื่อศาลพิพากษาคดีแรกแล้ว กรณีก็ต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 144 เช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินได้
จำเลยซื้อบ้านและที่ดินจากโจทก์โดยทำสัญญากู้เงินที่ยังค้างชำระให้ไว้ ต่อมาโจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ซึ่งเป็นค่าที่ดินและบ้านดังกล่าวจนชนะคดีและคดีถึงที่สุด การซื้อขายที่ดินและบ้านระหว่างโจทก์กับจำเลยยังมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงยังไม่เป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด แม้จำเลยอาจฟ้องร้องให้บังคับตามข้อตกลงซื้อขายได้เนื่องจากได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว แต่กรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านยังคงเป็นของโจทก์อยู่ เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ที่จะให้จำเลยอยู่ในที่ดินและบ้านต่อไป โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3281/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องค่าเสียหายจากสินค้าชำรุด: สัญญาซื้อขายตามตัวอย่าง/คำพรรณนา vs. สัญญาซื้อขายธรรมดา
สัญญาซื้อขายอะไหล่เครื่องยนต์ยอมให้โจทก์ผู้ซื้อตรวจสอบและทดลองคุณภาพสินค้า ถ้าปรากฏว่าสินค้าที่ส่งมอบมีคุณภาพไม่ตรงตามตัวอย่างหรือรายการละเอียดที่ระบุไว้ในสัญญา โจทก์ทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะไม่รับสินค้านั้นได้ ดังนี้ มิใช่การขายตามตัวอย่างหรือตามคำพรรณนา มีอายุความ 10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
of 201