คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็ค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1976/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่ลงวันที่ ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค มาตรา 3(5) หากไม่มีการปฏิเสธการจ่ายเงิน
กรณีห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามมาตรา 3(5) จะมีความผิดก็ต่อเมื่อธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็ค ดังบทบัญญัติในวรรคท้ายของมาตรา 3 วันที่ในเช็คอันเป็นกำหนดเวลาที่สั่งให้ธนาคารใช้เงินจึงเป็นสารสำคัญของการกระทำความผิดฐานนี้ด้วย เช็คไม่ลงวันที่ย่อมถือได้ว่าไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำความผิด การออกเช็คโดยไม่ลง วันที่ผู้ออกเช็คไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1965/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คหลายฉบับลงวันที่ต่างกันถือเป็นกรรมต่างกัน แม้โจทก์มิได้ฎีกา ศาลฎีกาปรับบทลงโทษได้
จำเลยออกเช็ค 3 ฉบับ ครั้งเดียวลงวันที่สั่งจ่ายต่างกันชี้ให้เห็นว่าจำเลยเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับแยกจากกันจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1897/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้เช็คไม่ครบตามจำนวน แม้ชำระบางส่วนหลังปฏิเสธการจ่ายเงิน ก็ยังถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
ภายหลังจากธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วจำเลยจึงชำระเงินให้โจทก์ แต่ไม่ครบตามจำนวนเงินในเช็คพิพาท คดีจึงไม่เลิกกันตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 5 วรรคสาม และไม่เป็นผลที่จะทำให้จำเลยพ้นจากความรับผิดตามฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเงินตามเช็ค: แม้ไม่มีภาพถ่ายด้านหลังเช็ค ศาลรับฟังพยานหลักฐานได้หากโจทก์ระบุในบัญชีพยานและจำเลยไม่คัดค้าน
การที่โจทก์ได้แสดงข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาโดยชัดแจ้งว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็คพิพาทให้โจทก์เนื่องจากการเล่นแชร์จำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดชำระเงินตามเช็คให้โจทก์นั้นแม้โจทก์ไม่ได้แนบภาพถ่ายด้านหลังเช็คมาท้ายฟ้องฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม
โจทก์ระบุอ้างเช็คพิพาทไว้ในบัญชีพยานโดยชอบเมื่อโจทก์เบิกความถึงเช็คพิพาทและยื่นต่อศาล จำเลยไม่ได้คัดค้านประการใดเช็คพิพาทเป็นเอกสารสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญแห่งคดีแม้โจทก์มิได้ส่งสำเนาลายมือด้านหลังเช็คให้จำเลยก่อนวันสืบพยาน 3 วันก็ตามแต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลมีอำนาจรับฟังเช็คพิพาทได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายเงินเกินบัญชีจากเช็ค: สิทธิธนาคารในการเรียกคืนเงินและดอกเบี้ย
การที่ธนาคารโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คของจำเลย เป็นการทำไปในฐานะตัวแทนจำเลยเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คฉบับนั้นเท่านั้น และตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันก็มีว่า การนำเช็คฝากเข้าบัญชีจะถือว่าธนาคารได้รับฝากเงินต่อเมื่อธนาคารเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้น ๆ ได้แล้ว เมื่อธนาคารโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คของจำเลยไม่ได้ ธนาคารโจทก์ก็มีอำนาจเพิกถอนรายการรับฝากเงินตามเช็คดังกล่าวของจำเลยออกได้ จึงยังถือไม่ได้ว่าธนาคารโจทก์ก็ได้รับฝากเงินนั้นไว้จากจำเลยแล้ว
จำเลยเพียงทำสัญญาเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารโจทก์เท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องทำสัญญา บัญชีเดินสะพัดต่อกัน ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 856 และถือไม่ได้ว่าเป็นการค้าอย่างอื่นในทำนองเช่นว่านั้น และตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันที่ว่า ถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเข็คให้เกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้ฝากไปผู้ฝากยอมใช้เงินส่วนที่ธนาคารจ่ายเกินบัญชีนั้นให้ธนาคารพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดตามกฎหมายนัยแต่วันที่ธนาคารได้จ่ายเงินนั้นเป็นต้นไป ก็มิได้มีข้อตกลงให้เรียกดอกเบี้ยทบต้นได้ กับทั้งมิใช่เรื่องกู้ยืมเงิน ตามมาตรา 654 แต่เป็นเรื่องของธนาคารโจทก์จ่ายเงินตามคำสั่งของจำเลยผู้ออกเช็คเกินกว่า จำนวนเงินที่จำเลยมีอยู่ในบัญชี ซึ่งตามมาตรา 991 มิได้บังคับโดยเฉียบขาดมิให้ธนาคารโจทก์มีอำนาจจ่ายเงินตามเช็คให้จำเลยเกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีได้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินที่รับเกินไปคืนให้ธนาคารโจทก์ เมื่อจำเลยไม่คืนเงินให้โจทก์ จำเลยก็ตกเป็นผู้ผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตามมาตรา 7 และ 224 โดยไม่ทบต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกเงินเกินบัญชีจากเช็ค: อำนาจธนาคาร, หน้าที่จำเลย, และดอกเบี้ย
การที่ธนาคารโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คของจำเลย เป็นการทำไปในฐานะตัวแทนจำเลยเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คฉบับนั้นเท่านั้น และตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันก็มีว่า การนำเช็คฝากเข้าบัญชีจะถือว่าธนาคารได้รับฝากเงินต่อเมื่อธนาคารเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้น ๆ ได้แล้วเมื่อธนาคารโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คของจำเลยไม่ได้ธนาคารโจทก์ก็มีอำนาจเพิกถอนรายการรับฝากเงินตามเช็คดังกล่าวของจำเลยออกได้จึงยังถือไม่ได้ว่าธนาคารโจทก์ได้รับฝากเงินนั้นไว้จากจำเลยแล้ว
จำเลยเพียงทำสัญญาเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารโจทก์เท่านั้นจึงไม่ใช่เรื่องทำสัญญาบัญชีเดินสะพัดต่อกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 856. และถือไม่ได้ว่าเป็นการค้าอย่างอื่นในทำนองเช่นว่านั้น และตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันที่ว่า ถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเช็คให้เกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้ฝากไป ผู้ฝากยอมใช้เงินส่วนที่ธนาคารจ่ายเกินบัญชีนั้นให้ธนาคารพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดตามกฎหมายนับแต่วันที่ธนาคารได้จ่ายเงินนั้นเป็นต้นไป ก็มิได้มีข้อตกลงให้เรียกดอกเบี้ยทบต้นได้ กับทั้งมิใช่เรื่องกู้ยืมเงิน ตามมาตรา654 แต่เป็นเรื่องของธนาคารโจทก์จ่ายเงินตามคำสั่งของจำเลยผู้ออกเช็คเกินกว่าจำนวนเงินที่จำเลยมีอยู่ในบัญชีซึ่งตามมาตรา 991 มิได้บังคับโดยเฉียบขาดมิให้ธนาคารจ่ายเงินเกินบัญชีของผู้เคยค้า และตามเงื่อนไขคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันดังกล่าวให้ธนาคารโจทก์มีอำนาจจ่ายเงินตามเช็คให้จำเลยเกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีได้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินที่รับเกินไปคืนให้ธนาคารโจทก์เมื่อจำเลยไม่คืนเงินให้โจทก์ จำเลยก็ตกเป็นผู้ผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตามมาตรา 7 และ 224 โดยไม่ทบต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1577/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คโดยไม่มีเงิน หรือขัดขวางการใช้เงิน ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยสั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้ให้แก่ผู้เสียหาย โดยระบุว่าจ่ายเงินสด แต่จำเลยได้ขีดคำว่า 'หรือผู้ถือ'ออก ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายทราบหรือได้ยินยอมด้วยกับการขีดคำดังกล่าว การกระทำของจำเลยเห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่จะไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คให้ผู้เสียหาย ถือได้ว่าเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3(1) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การข่มขู่เพื่อบังคับให้เซ็นเช็คเป็นโมฆะ และไม่เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย
การที่นายตำรวจขู่ให้โจทก์ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ให้จำเลย มิฉะนั้นจะจับโจทก์ไปขังในฐานะเป็นบุคคลซึ่งเป็นภัยต่อสังคมนั้น ไม่ถือว่า เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายหรือตามปกตินิยม
แม้บุคคลภายนอกจะเป็นผู้ข่มขู่ ก็ย่อมทำให้เช็คนั้นเสื่อมเสียตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 128 และเมื่อได้บอกล้างแล้วจึงตกเป็นโมฆะตามมาตรา 138

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การข่มขู่ให้เซ็นเช็คโดยอ้างอำนาจรัฐเป็นโมฆะ การใช้สิทธิตามกฎหมายต้องสุจริตและชอบธรรม
การที่นายตำรวจขู่ให้โจทก์ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ให้จำเลย มิฉะนั้นจะจับโจทก์ไปขังในฐานะเป็นบุคคลซึ่งเป็นภัยต่อสังคมนั้น ไม่ถือว่าเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายหรือตามปกตินิยม
แม้บุคคลภายนอกจะเป็นผู้ข่มขู่ ก็ย่อมทำให้เช็คนั้นเสื่อมเสียตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 128 และเมื่อได้บอกล้างแล้วจึงตกเป็นโมฆะตามมาตรา 138

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนเช็คหลังปฏิเสธการจ่ายเงินทำให้ขาดอำนาจฟ้องคดีเช็ค
ในวันที่ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คนั้น โจทก์ได้สลักหลังโอนเช็คแก่บุคคลอื่นไปแล้ว แม้โจทก์ยังต้องรับผิดชดใช้เงินตามสัญญาขายลดเช็คโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คในขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่มีอำนาจฟ้องตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497
of 187