คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: ผู้เสียหายโดยนิตินัยและการร้องเรียนเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องอ้างว่า ช. ผู้สมัครรับเลือกตั้งกระทำผิด พระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 26 และ บ. ซึ่งเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดกระทำผิด พระราชบัญญัติเลือกตั้งฯ มาตรา 26 และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,165 โจทก์ได้ร้องเรียนไปยังจำเลยทั้งห้า ให้มีการสอบสวนดำเนินคดีกับช. และ บ.และจำเลยทั้งห้ามิได้ดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสองขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง ห้าตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,165,200 เช่นนี้ เมื่อโจทก์มิใช่บุคคล ที่อาจร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้ ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯ มาตรา 78 จึงมิใช่ ผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้เสียหายเนื่องจากการกระทำผิดพระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯ มาตรา 26 ดังนั้นการที่โจทก์ ร้องเรียน ต่อจำเลยทั้งห้าให้ดำเนินคดีกับ ช. และ บ. และจำเลยทั้งห้ามิได้ดำเนินคดี กับบุคคลทั้งสองเมื่อ โจทก์มิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยในกรณีที่ ช. และ บ. กระทำผิดดังกล่าวโจทก์ย่อมมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย สำหรับความผิดที่โจทก์ ฟ้องจำเลยทั้งห้าด้วยโจทก์จึงไม่ มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งห้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2168/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษายกฟ้องในคดีอาญา: จำเป็นพอสมควรแก่เหตุและการเปลี่ยนแปลงคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำผิดด้วยความจำเป็นพอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67 ซึ่งไม่ต้องรับโทษ. ชอบที่ศาลชั้นต้นจะพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185. แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษและให้คุมประพฤติจำเลย. ก็มีผลเท่ากับพิพากษายกฟ้อง. และเป็นการยกฟ้องในข้อเท็จจริง. เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมิได้กระทำผิดพิพากษายกฟ้อง. กรณีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2166/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อคดีอื่น: ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษคดีต่างๆ ติดต่อกัน ถือเป็นการแจ้งชัดแล้ว แม้มีการระบุหมายเลขคดีผิดพลาด
โจทก์ฟ้องจำเลยและขอให้นับโทษต่อจากคดีดำคดีอื่น ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้และในคดีดำคดีอื่นในวันเดียวกัน ถือได้ว่าความปรากฏต่อศาลและคู่ความชัดแจ้งแล้วว่าคดีดำคดีอื่นนั้นศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วโดยไม่จำต้องให้โจทก์แถลงต่อศาลซ้ำอีก ศาลย่อมพิพากษาให้นับโทษต่อกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2165/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อในคดีอาญา: ศาลฎีกาอนุญาตเมื่อมีการพิพากษาลงโทษจำคุกในคดีอื่นแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำขอให้นับโทษต่อ เพราะคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้น ศาลยังไม่ได้พิพากษา ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา และปรากฏว่าคดีดังกล่าวศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้วจริง ดังนี้ ศาลฎีกาพิพากษาให้นับโทษต่อได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาอุทธรณ์คำสั่งปรับนายประกันในคดีอาญา: นายประกันต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง
การอุทธรณ์คำสั่งศาลในกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาลต้องอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่นายประกันทราบคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากโจทก์ไม่มาตามนัด และสิทธิในการขอให้พิจารณาคดีใหม่
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยและทนายมาศาล ฝ่ายโจทก์ไม่มา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบตามฟ้อง งดสืบพยานจำเลยพิพากษายกฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องว่า เหตุที่มาล่าช้าเพราะบ้านอยู่ไกลรถติดโจทก์เตรียมพยานมาสืบพร้อมแล้ว ไม่ได้จงใจขาดนัดพิจารณา ขอให้ไต่สวนคำร้องของโจทก์ และยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ดังนี้ เป็นการยกฟ้องเพราะโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคแรก และมาตรา 181 เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะไต่สวนและมีคำสั่งว่ามีเหตุสมควรหรือไม่เพียงใด ที่มาไม่ได้ตามกำหนดนัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในคดีแพ่งเพื่อครอบครองปรปักษ์ เป็นความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา
ที่ดินโฉนดเลขที่ 77 เป็นกรรมสิทธิ์รวมของ ส. ห. และ ม.ต่อมาบุคคลทั้งสามขายที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ที่ 1 และ จ. จำเลยที่ 1 ไม่ได้ซื้อที่ดินดังกล่าวจาก ส. และไม่ได้ครอบครองที่ดินด้วยเจตนาเป็นเจ้าของในฐานะผู้ซื้อ การที่จำเลยที่ 1 เบิกความต่อศาลแพ่งในคดีแพ่งว่า ส. ได้ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 77 ให้แก่จำเลยที่ 1 ในราคา 70,000 บาทชำระเงินเรียบร้อยแล้ว และได้เข้าครอบครองมา 20 ปีเศษเพื่อให้ศาลแพ่งมีคำสั่งว่าที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 โดยการครอบครองปรปักษ์คำเบิกความของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดี
ฟ้องของโจทก์บรรยายว่า คำเบิกความของจำเลยในคดีแพ่งเป็นข้อสำคัญในคดีและคำเบิกความของจำเลยดังกล่าวเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อ จึงมีคำสั่งให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 77 ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1เป็นการบรรยายให้เห็นว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร พอที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต่อศาลในคดีแพ่งเพื่อหวังผลทางทรัพย์สิน ถือเป็นความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา
ที่ดินโฉนดเลขที่ 77 เป็นกรรมสิทธิ์รวมของ ส.ห. และม.ต่อมาบุคคลทั้งสามขายที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ที่ 1และ จ. จำเลยที่ 1 ไม่ได้ซื้อที่ดินดังกล่าวจาก ส. และไม่ได้ครอบครองที่ดินด้วยเจตนาเป็นเจ้าของในฐานะผู้ซื้อการที่จำเลยที่ 1 เบิกความต่อศาลแพ่งในคดีแพ่งว่า ส. ได้ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 77 ให้แก่จำเลยที่ 1ในราคา 70,000 บาทชำระเงินเรียบร้อยแล้วและได้เข้าครอบครองมา 20 ปีเศษเพื่อให้ศาลแพ่งมีคำสั่งว่าที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 โดยการครอบครองปรปักษ์คำเบิกความของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดี ฟ้องของโจทก์บรรยายว่า คำเบิกความของจำเลยในคดีแพ่งเป็นข้อสำคัญในคดีและคำเบิกความของจำเลยดังกล่าวเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อจึงมีคำสั่งให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 77 ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1เป็นการบรรยายให้เห็นว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไรพอที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตเลื่อนไต่สวนมูลฟ้องและการยกฟ้องคดีอาญา เมื่อโจทก์ไม่มีพยาน การขอให้ไต่สวนมูลฟ้องใหม่จึงไม่ชอบ
โจทก์และพยานโจทก์ไม่มาศาล แต่ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องมายื่นต่อศาลขอเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาเพื่อไต่สวนให้เห็นว่าคดีโจทก์มีมูลและพิพากษายกฟ้อง ดังนี้ โจทก์จะมาร้องขอให้ยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 มิได้ เพราะมิใช่เป็นกรณีที่ศาลยกฟ้องเพราะเหตุโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากไม่มีพยาน และผลของการไม่โต้แย้งคำพิพากษา
โจทก์และพยานโจทก์ไม่มาศาลแต่ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องมายื่นต่อศาลขอเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาเพื่อไต่สวนให้เห็นว่าคดีโจทก์มีมูลและพิพากษายกฟ้องดังนี้ โจทก์จะมาร้องขอให้ยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 มิได้เพราะมิใช่เป็นกรณีที่ศาลยกฟ้องเพราะเหตุโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัด
of 312