คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หนี้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,449 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการบังคับชำระหนี้: ลูกหนี้ชั้นต้นก่อน ผู้ค้ำประกันทีหลัง
สัญญาประนีประนอมยอมความมีข้อความว่าจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้กู้จำเลยที่ 2-3-4 ในฐานะผู้ค้ำประกันยอมใช้เงินให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่งและดอกเบี้ย และศาลได้พิพากษาให้คดีเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น มีผลเท่ากับว่าให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินให้แก่โจทก์ก่อน ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่สามารถจะใช้ได้ ก็ให้จำเลยที่ 2-3-4 ใช้แทนจนครบ ฉะนั้นโจทก์จึงต้องดำเนินการบังคับชำระหนี้เอากับทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ก่อนโจทก์จะเกี่ยงว่าจำเลยที่ 1 มีทรัพย์สินอยู่น้อยแก่การบังคับ จึงจะบังคับเอาแก่จำเลยที่ 2-3-4 นั้น ย่อมฟังไม่ขึ้น เพราะตราบใดที่ลูกหนี้ชั้นต้นยังมีทรัพย์สินที่จะบังคับชำระหนี้ได้อยู่ โจทก์จะต้องบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ชั้นต้นนั้นก่อน เมื่อไม่พอจึงจะบังคับชำระหนี้เอาจากผู้ค้ำประกัน (อ้างฎีกาที่ 827/2483)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782-783/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยวิธีการอื่นแทนเงิน และผลของการไม่คืนสัญญาหลังชำระหนี้แล้ว
หนี้การกู้ยืมเงินนั้น ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระเงิน หนี้นั้นก็เป็นอันระงับไปตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 321
ผู้ให้กู้ยอมรับเอาข้าวจำนวนหนึ่งเป็นการชำระหนี้เงินกู้ แล้วบิดพลิ้วไม่คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันให้ผู้กู้ ดังนี้ ผู้ค้ำประกันมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลบังคับผู้ให้กู้คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันได้ และศาลรับฟังคำพยานบุคคลที่ลูกหนี้นำสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782-783/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับชำระหนี้ด้วยสิ่งอื่นแทนเงิน และสิทธิของผู้ค้ำประกันในการขอคืนสัญญา
หนี้การกู้ยืมเงินนั้น ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระเงิน หนี้นั้นก็เป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321
ผู้ให้กู้ยอมรับเอาข้าวจำนวนหนึ่งเป็นการชำระหนี้เงินกู้แล้วบิดพลิ้วไม่คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันให้ผู้กู้ดังนี้ ผู้ค้ำประกันมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลบังคับผู้ให้กู้คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันได้ และศาลรับฟังคำพยานบุคคลที่ลูกหนี้นำสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผ่อนชำระหนี้และการยอมรับข้อตกลงใหม่ของผู้ให้กู้ ทำให้เกิดผลผูกพันตามสัญญา แม้จะไม่ได้ทำเป็นหนังสือ
ผู้ให้กู้มอบหมายให้ทนายความไปทวงถามผู้กู้ ให้ชำระเงินกู้ ผู้กู้ยังไม่มีเงินชำระทันที ทนายความจึงตกลงผ่อนผันโดยคำบันทึกไว้ในท้ายสัญญากู้ให้ผู้กู้ผ่อนชำระเป็นงวด ๆ แล้วทนายความและผู้กู้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานด้วยกัน ดังนี้เมื่อผู้ให้กู้ยอมรับเอาข้อตกลงตามบันทึกนั้นแล้วโดยแสดงออกโดยตรงหรือปริยายก็ตาม ข้อความในบันทึกนั้นก็ย่อมผูกพันผู้ให้กู้
ทำสัญญากู้กันแล้วตกลงกันให้ผ่อนส่งคืนเป็นงวด ๆ นั้นเป็นเรื่องอยู่ภายในบังคับแห่ง ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 166 อายุความ 5 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในเรือที่ได้มาจากการตีใช้หนี้: สิทธิครอบครองดีกว่าสิทธิของ ก.ท.ส. ที่ยึดทรัพย์ผิด
เจ้าหนี้ได้รับมอบเรือในการตีใช้หนี้ค่าส่งอาหาร แล้วจำเลยยึดเรือนั้นไป เจ้าหนี้จึงฟ้องเรียกเรือคืน แม้ในฟ้องจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดในเรื่องอาหารที่ได้ส่งให้ลูกหนี้ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะข้อนี้เป็นแต่มูลเหตุที่ได้เรือมา ไม่ใช่ข้อประเด็นโดยตรง
กองทัพญี่ปุ่นลูกหนี้มอบเรือซึ่งยังไม่เคยมีทะเบียนตีใช้หนี้ให้เจ้าหนี้ แม้จะไม่ได้จดทะเบียนการโอน อย่างน้อยเจ้าหนี้ก็มีสิทธิครอบครองดีกว่าคนอื่นรวมทั้ง ก.ท.ส. ที่เข้ายึดเรืออันนับว่าเป็นผู้ใช้สิทธิ์ของกองทัพญี่ปุ่นซึ่งไม่มีสิทธิจะเอาเรือนั้นกลับคืนจากโจทก์
โจทก์เป็นจีนฮกเกี้ยนไม่ใช่บุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ โจทก์ได้รับเรือตีใช้หนี้จากกองทัพญี่ปุ่นก่อนญี่ปุ่นแพ้สงคราม เรือนั้นย่อมพ้นสภาพเรือที่ใช้ในการสงคราม
ก.ท.ส.มีอำนาจแต่เฉพาะในทรัพย์สินของศัตรูต่อสหประชาชาติ เมื่อก.ท.ส.ทำตามอำนาจและหน้าที่ แต่ทำผิดไปโดยไปยึดทรัพย์ของโจทก์ที่ไม่ใช่ศัตรูต่อสหประชาชาติโดยไม่มีอำนาจ ก.ท.ส.ก็ต้องคืนเรือนั้นเมื่อคืนไม่ได้โดยไม่มีข้อแก้ตัวก็ต้องใช้ราคา
ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาเรือจำเลยจะอ้างว่าจำเลยมีสิทธิใช้เงินแต่เฉพาะที่หักจากเงินของศัตรูต่อสหประชาชาติ จำเลยไม่มีเงินของตนเองดังนี้ การที่จำเลยจะมีสินทรัพย์ใช้ให้ได้หรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาเรือได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1870/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินแทนเงิน: สัญญาให้ยึดที่ดินเป็นประกันเมื่อผิดนัด
จำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ 250 บาท โดยมอบที่ดินบ้านให้โจทก์ยึดถือเป็นประกันและมีเงื่อนไขว่า จะชำระเงินกู้ภายในกำหนด 15 วันถ้าพ้นกำหนด 15 วัน ที่ดินรายนี้คิดเป็นราคาที่ดิน 250 บาทต้องได้กับโจทก์ ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ก็ต้องให้ที่ดินรายนี้แก่โจทก์ เพราะได้กำหนดที่ดินโดยกำหนดราคาลงแน่นอนเป็นการชำระหนี้แทนตัวเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสอง โจทก์ย่อมฟ้องจำเลยให้โอนที่ดินนั้นแก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดนาเป็นประกันหนี้: สิทธิเรียกร้องคืนเมื่อสละสิทธิ
โจทก์ฟ้องขอชำระหนี้เงินกู้และขอนาที่ให้เจ้าหนี้ยึดถือทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้คืน จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ขึ้นเงินกู้แล้ว ทำสัญญายกนาพิพาทให้เป็นกรรมสิทธิของจำเลยแล้วไม่ขอไถ่ ดังนี้ประเด็นคงมีว่าโจทก์ให้จำเลยยึดถือนาพิพาทไว้แทนเป็นประกันเงินกู้ดังฟ้อง หรือว่าโจทก์ได้สละสิทธินาพิพาทให้จำเลยแล้วตามจำเลยต่อสู้เท่านั้นเมื่อคดีได้ความตามที่จำเลยต่อสู้ ศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง โดยถือว่าโจทก์นำสืบไม่ได้ตามประเด็นข้ออ้างที่ถือว่าเป็นสิทธิเรียกนาพิพาทคืนจากจำเลย ส่วนนาพิพาทจะเป็นของบิดาโจทก์หรือของใคร ไม่เป็นประเด็นสำคัญในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้จากการนำเงินส่วนแบ่งมรดกไปใช้ และหลักฐานการกู้ยืมเงิน
จำเลยได้ลงชื่อไว้ในรายงานแบ่งทรัพย์ของเจ้าพนักงานแบ่งทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาล รับรองว่าจำเลยได้เอาเงินส่วนได้ของโจทก์ไปใช้ค่าที่ดินที่จำเลยประมูลได้ หากจะว่าเป็นการกู้ยืมเงินก็เป็นหลักฐานเพียงพอตามความประสงค์ของ ป.ม.แพ่งฯมาตรา 653 แล้วโจทก์ใช้หลักฐานนี้ ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้จากการใช้เงินส่วนแบ่งทรัพย์มรดก รายงานการแบ่งทรัพย์ใช้เป็นหลักฐานได้
จำเลยได้ลงชื่อไว้ในรายงานการแบ่งทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาล รับรองว่าจำเลยได้เอาเงินส่วนได้ของโจทก์ไปใช้ค่าที่ดินที่จำเลยประมูลได้ หากจะว่าเป็นการกู้ยืมเงินก็เป็นหลักฐานเพียงพอตามความประสงค์ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 แล้ว โจทก์ใช้หลักฐานนี้ ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดใช้หนี้หากพิสูจน์ได้ว่าตนเองเป็นเพียงผู้ค้ำประกัน ไม่ใช่ผู้กู้ร่วม
เดิมเจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้จากโจทก์จำเลย ซึ่งปรากฏตามหนังสือสัญญากู้ว่าเป็นผู้กู้ร่วมกับศาลพิพากษาให้โจทก์จำเลยร่วมกันรับผิดใช้เงินกู้รายนี้โจทก์ใช้เงินไปผู้เดียวทั้งหมด แล้วมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยครึ่งหนึ่ง ดังนี้ จำเลยย่อมต่อสู้ได้ว่า ความจริงจำเลยเป็นแต่ผู้ค้ำประกันมิใช่เป็นผู้กู้ร่วมกับโจทก์ ๆ หามีสิทธิเรียกให้จำเลยใช้เงินจำนวนนี้ไม่
of 145