คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การกระทำผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 354 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์จากการใส่กุญแจปิดประตู แม้จะไม่มีการหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง
จำเลยโอนสิทธิการเช่าตึกพิพาทให้ ก. และได้ส่งมอบตึกพิพาทให้ ก. แล้ว ก. ว่าจ้างโจทก์ซ่อมแซมตึกพิพาทและอนุญาตให้โจทก์กับครอบครัวเข้าอยู่อาศัยในตึกดังกล่าว แม้ต่อมา ก. ไม่ชำระค่าโอนสิทธิการเช่าส่วนที่ค้าง ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องไปว่ากล่าวกับ ก. ในทางแพ่ง การที่จำเลยใช้กุญแจใส่ประตูตึกพิพาทเป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถเข้าไปใช้ตึกพิพาทได้อีก จึงเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุข มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 (3) แต่ยังถือไม่ได้ว่าการกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังโจทก์ หรือกระทำด้วยประการใดให้โจทก์ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย จึงไม่มีความผิดตามมาตรา 310 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกดูถูกเหยียดหยาม: การกระทำผิดหลังถูกข่มเหงน้ำใจอย่างร้ายแรง
แม้ผู้ตายจะโกรธแค้นที่เคยถูกจำเลยผู้เป็นสามีตบตี ผู้ตายก็ไม่มีอำนาจอันชอบธรรมที่จะด่าว่าจำเลยในลักษณะดูถูกเหยียดหยามด้วยถ้อยคำหยาบคายพาดพิงถึงวงศ์สกุลของจำเลยในที่ว่าการอำเภอซึ่งมีคนอื่นได้ยินด้วยย่อมทำให้จำเลยรู้สึกอับอายขายหน้าและแค้นเคืองอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นการข่มเหงน้ำใจจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงเป็นการกระทำผิดโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกดูถูกเหยียดหยาม: การกระทำผิดหลังถูกข่มเหงน้ำใจอย่างร้ายแรง
แม้ผู้ตายจะโกรธแค้นที่เคยถูกจำเลยผู้เป็นสามีตบตี ผู้ตายก็ไม่มีอำนาจอันชอบธรรมที่จะด่าว่าจำเลยในลักษณะดูถูกเหยียดหยามด้วยถ้อยคำหยาบคายพาดพิงถึงวงศ์สกุลของจำเลยในที่ว่าการอำเภอซึ่งมีคนอื่นได้ยินด้วยย่อมทำให้จำเลยรู้สึกอับอายขายหน้าและแค้นเคืองอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นการข่มเหงน้ำใจจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการกระทำผิดโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกดูหมิ่น: การกระทำผิดเนื่องจากคำพูดรุนแรงและข่มเหง
แม้ผู้ตายจะโกรธแค้นที่เคยถูกจำเลยผู้เป็นสามีตบตี ผู้ตายก็ไม่มีอำนาจอันชอบธรรมที่จะด่าว่าจำเลยในลักษณะดูถูกเหยียดหยามด้วยถ้อยคำหยาบคายพาดพิงถึงวงศ์สกุลของจำเลยในที่ว่าการอำเภอซึ่งมีคนอื่นได้ยินด้วยย่อมทำให้จำเลยรู้สึกอับอายขายหน้าและแค้นเคืองอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นการข่มเหงน้ำใจจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงเป็นการกระทำผิดโดยบันดาลโทสะ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1644/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ พยานหลักฐานสนับสนุนการกระทำผิด
บันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุระบุว่าพบกองเศษกระจกห่างทางเท้าประมาณ 3 เมตร แม้เป็นเอกสารที่ทำขึ้นฝ่ายเดียว แต่เป็นหลักฐานที่เจ้าพนักงานตำรวจตรวจพบและบันทึกไว้ ดังนี้เป็นเอกสารที่รับฟังได้
การที่จำเลยลงชื่อในแผนที่เกิดเหตุเพราะพนักงานสอบสวนบอกว่าลงชื่อแล้วกลับบ้านได้ ไม่ได้หมายความว่า จำเลยถูกบังคับหรือหลอกลวง แต่เป็นการลงชื่อโดยความสมัครใจของจำเลยเอง
เมื่อศาลเห็นไม่สมควรสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยก็ไม่จำต้องปรับบทตาม พระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 162 อีก.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อถอนอาคารต่อเติมที่ไม่ได้รับอนุญาต: อำนาจฟ้องมีจำกัดตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ณ ขณะกระทำผิด
ในขณะที่จำเลยที่ 2 แก้ไขต่อเติมอาคารโดยมิได้รับอนุญาต และจำเลยที่ 1 รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและอาคารดังกล่าวมาจากจำเลยที่ 2 นั้น เป็นระยะเวลาที่พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พุทธศักราช 2479 ยังใช้บังคับซึ่งตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติให้อำนาจโจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารซึ่งรับโอนกรรมสิทธิ์จากผู้ทำการก่อสร้างรื้อถอนอาคาร แม้ขณะที่โจทก์ฟ้องคดีจะเป็นระยะเวลาที่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งมีบทบัญญัติให้อำนาจโจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครองครองนั้นรื้อถอนได้ก็ตามแต่บทบัญญัติดังกล่าวนี้ไม่มีผลย้อนหลังโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ให้รื้อถอนอาคาร และปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะไม่มีปัญหานี้ขึ้นสู่ศาลฎีกา เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2307/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แม้ไม่สำเร็จผล การกระทำเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้มีดถางไร่ฟันถูกที่ศีรษะผู้เสียหายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย แม้จะฟันเพียงทีเดียว แต่ปรากฏว่ากะโหลกศีรษะแตก แสดงว่าจำเลยพันโดยแรง ซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าการที่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเพราะได้รับการรักษาจากแพทย์ทันท่วงที การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยานพาหนะที่ใช้ในการลักทรัพย์ ไม่ถือเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยทั้งห้าใช้เรือไม้และเครื่องยนต์เป็นยานพาหนะไปลักรังนกอีแอ่นบนเกาะเมื่อลักรังนกอีแอ่นได้แล้ว ขณะกลับมาลงเรือของกลางก็ถูกจับ ดังนี้ เรือไม้และเครื่องยนต์ของกลางดังกล่าวเป็นเพียงยานพาหนะที่จำเลยทั้งห้าใช้เดินทางไปมายังเกาะที่เกิดเหตุเพื่อลักทรัพย์เท่านั้น จึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้ในการกระทำผิดอันจะพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา33(1).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรถยนต์ให้เช่าซื้อ ย่อมไม่มีสิทธิขอรถคืน หากรู้เห็นการใช้รถในการกระทำผิด และยินยอมรับค่าเช่าซื้อต่อ
ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลาง ได้ให้ ส. เช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวไป ต่อมาจำเลยขอยืมรถยนต์จากส.ไปใช้ในการกระทำผิด ผู้ร้องทราบจาก ส. และจำเลยว่าจำเลยนำรถยนต์ไปใช้ในการกระทำผิดแต่กลับตกลงให้จำเลย และ ส. ชำระค่าเช่าซื้อต่อมาโดยมิได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ แสดงว่าผู้ร้องมีเจตนาเพียงที่จะได้รับค่าเช่าซื้อตามสัญญาเท่านั้น เมื่อผู้ร้องมาร้องขอรถยนต์ของกลางคืนจึงเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์แก่ผู้เช่าซื้อและจำเลยที่จะได้รับรถยนต์ของกลางกลับไปในภายหลัง ตามพฤติการณ์ถือว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย จึงไม่มีสิทธิขอของกลางคืน(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1295/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลจากการถูกแทงไม่ถึงอันตรายสาหัส แม้ผู้เสียหายเป็นนักกีฬา
ผู้เสียหายถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมที่ต้นแขนซ้ายเป็นบาดแผลขนาด 2.5 เซนติเมตรทะลุไปอีกด้านหนึ่ง หลังเกิดเหตุประมาณ 7วันผู้เสียหายไปหาแพทย์เพื่อตัดไหม แพทย์บอกว่าบาดแผลเป็นปกติ และผู้เสียหายก็ไปเรียนหนังสือกับทำกิจการงานต่าง ๆได้ แม้ปรากฏว่าผู้เสียหายเป็นนักศึกษาสาขาวิชาพลศึกษา ต้องเรียนภาคปฏิบัติคือการเล่นกีฬาที่ต้องใช้แขนและหลังเกิดเหตุแล้ว 1 เดือน ผู้เสียหายไม่อาจเล่นกีฬาได้มากเท่าบุคคลปกติเพราะยังรู้สึกเสียวที่แขน ก็เป็นเพียงแต่ทำให้ผู้เสียหายขาดความสะดวกในการใช้แขนลดน้อยลงเท่านั้น หาทำให้ผู้เสียหายประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เสียเลยทีเดียวไม่จึงถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8).
of 36