พบผลลัพธ์ทั้งหมด 246 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแรงงานในการคุ้มครองประโยชน์คู่ความมีขอบเขตจำกัดเฉพาะระหว่างการพิจารณาคดีก่อนมีคำพิพากษา
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 58 ให้อำนาจศาลแรงงานที่จะทำคำสั่งเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาก่อนศาลแรงงานมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีแต่กรณีของโจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ภายหลังจากศาลแรงงานมีคำพิพากษาแล้ว จึงจะนำมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับไม่ได้คำสั่งศาลแรงงานกลางที่ไม่รับคำร้องดังกล่าว จึงเป็นคำสั่งที่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2023/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลแรงงานที่ขัดต่อกฎหมายองค์คณะ: การพิจารณาคดีต้องมีผู้พิพากษาสมทบ
แม้ศาลแรงงานกลางเพียงแต่ตรวจคำฟ้องและเอกสารประกอบคำฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ยกฟ้อง โดยมิได้กระทำในรูปคำพิพากษาก็ตาม แต่เมื่อคำสั่งนั้นอาศัยเหตุที่ว่า ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามที่ปรากฏในคำฟ้องพอให้เห็นได้แล้วว่า โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะนำคดีมาสู่ศาล เป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 131 (2) มีผลเป็นการพิพากษาคดีแล้ว และการพิพากษาคดีนั้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 17, 18 ผู้พิพากษาศาลแรงงานจะกระทำไปโดยไม่มีผู้พิพากษาสมทบฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายลูกจ้างรวมเป็นองค์คณะด้วยหาได้ไม่ เมื่อปรากฏว่าคำสั่งดังกล่าวมีแต่ผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางลงลายมือชื่อจึงไม่เป็นคำสั่งคำพิพากษาอันชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำสั่งศาลแรงงานกลางให้ศาลนั้นพิพากษาใหม่ให้ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1328/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ถิ่นที่อยู่ปกติของเด็กและเยาวชนเพื่อการพิจารณาคดี: การพิจารณาจากที่อยู่อาศัยและการประกอบอาชีพ
จำเลยเป็นเยาวชนย้ายจากเขตจังหวัดธนบุรีมาอยู่ที่จังหวัดนนทบุรีตั้งแต่ยังเล็ก แต่ไม่ได้แจ้งย้ายทะเบียนบ้าน ต่อมาจำเลยทำงานรับจ้างเป็นเด็กกระเป๋ารถยนต์สองแถวและกินอยู่หลับนอนกับนายจ้างที่จังหวัดนนทบุรี ดังนี้ถิ่นที่อยู่ปกติของจำเลยจึงอยู่ในเขตจังหวัดนนทบุรี แม้มารดาของจำเลยกับจำเลยแจ้งย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ถิ่นที่อยู่ปกติของจำเลยหาใช่เป็นแห่งเดียวกับภูมิลำเนาจำเลยไม่ โจทก์ฟ้องจำเลย ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี จึงชอบแล้ว กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 28 แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ2494.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ยื่นบัญชีระบุพยานและการขาดการอ้างอิงข้อกฎหมายในฎีกา
โจทก์ฎีกาว่าเพื่อความยุติธรรม โจทก์มีทางชนะคดี ขอศาลฎีกาได้โปรดรับบัญชีระบุพยานโจทก์ ให้โจทก์มีโอกาสสืบพยานหรือให้ศาลฎีกาสั่งให้ดำเนินคดีใหม่ พิพากษาไปตามรูปคดี มิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่โจทก์ประสงค์จะฎีกาขึ้นอ้างอิงในฎีกาแต่อย่างใดเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีบุกรุกที่ดินต้องตรงประเด็นที่คู่ความและศาลชั้นต้นวินิจฉัย หากไม่ตรง ศาลฎีกาแก้ไขได้
ชั้นแรกโจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่ดินภายในเส้นสีแดงตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง เนื้อที่ประมาณ 70 ตารางวา ราคา6,000 บาท ต่อมาโจทก์ขอแก้ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่ดินเพิ่มขึ้นรวมเป็นเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ราคา 22,000 บาท ศาลอนุญาตให้แก้ฟ้องได้แล้ว ในการทำแผนที่พิพาท คู่ความนำชี้ว่าที่พิพาทคือที่ดินภายในเส้นสีแดงตามแผนที่พิพาทซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ในการสืบพยานของคู่ความและวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ก็กล่าวว่าที่พิพาทคือที่ดินที่ปรากฏภายในเส้นสีแดงในแผนที่กลาง แต่ศาลชั้นต้นกลับพิพากษาให้ที่พิพาทภายในเส้นสีแดงตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องเป็นของโจทก์ ดังนี้ เป็นการพิพากษาไม่ตรงประเด็นที่คู่ความพิพาทและศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่งแต่ศาลฎีกาเห็นสมควรพิพากษาแก้ไขเสียให้ถูกต้องไปทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1994/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณาคดี และการงดการบังคับคดีในคดีอื่น
แม้ที่ดินและบ้านที่พิพาทกันในคดีก่อนจะเป็นทรัพย์ที่พิพาทกันในคดีนี้------ ซึ่งโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝากและขอให้ศาลพิพากษาว่าคำพิพากษาตามยอมในคดีก่อนเป็นโมฆะ ไม่มีผลบังคับแก่โจทก์ก็ตาม การที่จำเลยขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแก่โจทก์ในคดีก่อน ย่อมเป็นการบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมในคดีนั้น โจทก์จะมายื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งงดการบังคับคดีในคดีนี้หาได้ไม่ และคำขอของโจทก์ในกรณีเช่นนี้มิใช่เป็นเรื่องการขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1994/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณาคดี และการงดการบังคับคดีในคดีอื่น
แม้ที่ดินและบ้านที่พิพาทกันในคดีก่อนจะเป็นทรัพย์ที่พิพาทกันในคดีนี้ซึ่งโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝากและขอให้ศาลพิพากษาว่าคำพิพากษาตามยอมในคดีก่อนเป็นโมฆะไม่มีผลบังคับแก่โจทก์ก็ตาม การที่จำเลยขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแก่โจทก์ในคดีก่อน ย่อมเป็นการบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมในคดีนั้น โจทก์จะมายื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งงดการบังคับคดีในคดีนี้หาได้ไม่ และคำขอของโจทก์ในกรณีเช่นนี้มิใช่เป็นเรื่องการขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนีประนอมยอมความที่ไม่สมบูรณ์และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ระหว่างส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่นโจทก์และจำเลยร่วมกันยื่นคำร้องว่าโจทก์และจำเลยตกลงกันได้แล้ว โดยจำเลยยอมชำระเงินให้โจทก์ 30,000 บาท ภายใน 3 ปี ขอให้ศาลเรียกสำนวนคืนมาทำสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ในนัดต่อ ๆ มาปรากฏว่าโจทก์จำเลยตกลงประนีประนอมยอมความกันไม่ได้ศาลได้ดำเนินการพิจารณาต่อมา ดังนี้ คำร้องดังกล่าวหาเป็นการผูกพันโจทก์ไม่ศาลจะถือว่าได้สละประเด็นอื่น ๆ ทั้งสิ้นแล้วจึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ 30,000 บาท ในกำหนด 3 ปี หาได้ไม่ 2 หมายเหตุ มาจากสหกรณ์ขาดข้อมูลหลักกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ก่อนพิพากษาและการยกเลิกเมื่อมีคำพิพากษาตามยอม คดีไม่มีประโยชน์พิจารณาต่อ
ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษา โจทก์จำเลยยอมความให้ทรัพย์ที่ถูกยึดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ศาลพิพากษาตามยอมการยึดทรัพย์จึงยกเลิกไป ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาคดีที่ผู้ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ศาลยกคำร้องขัดทรัพย์ ผู้ร้องอุทธรณ์ฎีกา เป็นการขอให้พิจารณาสืบพยานต่อไป เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ เสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ 2 ก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดการพิจารณาคดีและการพิพากษาเมื่อจำเลยไม่มาศาลตามนัด
วันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลสืบตัวโจทก์จวนจะหมดปากแล้ว หมายจำเลยจึงเพิ่งมาศาลยื่นคำร้องขอเลื่อน ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนและสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณานัดต่อมาซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยทราบนัดแล้วไม่มาศาล ศาลจึงสั่งงดสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษาคดีไปในวันนั้น ดังนี้ ถือได้ว่า การพิจาราณาดคดีดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุดลงเมื่อศาลสั่งงดสืบพยานจำเลย ศาลจึงมีอำนาจพิพากษาคดีไปในวันที่มีคำสั่งนั้นได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้จำเลยทราบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 133