พบผลลัพธ์ทั้งหมด 176 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการสินสมรส & การพิสูจน์การสมยอมซื้อขาย: สามีมีอำนาจขายได้ หากโจทก์อ้างสมยอมต้องพิสูจน์
สามีเป็นผู้จัดการและมีอำนาจจำหน่ายสินบริคนห์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1468,1473 เมื่อภริยาอ้างว่าการซื้อขายสินบริคนห์ระหว่างสามีกับผู้ซื้อเป็นการสมยอมกันเป็นโมฆะ ภริยาผู้อ้างก็มีหน้าที่จะต้องนำสืบให้ได้ความตามนั้น จึงจะชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรและการกระทำพยานเท็จ แม้ไม่มีการปลอมแปลงเอกสาร
เช่าบ้านเขาอยู่โดยไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเช่ากันไว้ครั้นเจ้าของบ้านขายบ้านนั้นให้ผู้อื่นไปผู้ซื้อคนใหม่ให้ผู้เช่าออกจากบ้านเช่าผู้เช่าก็ไม่ยอมออกผู้ซื้อจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้สมคบกับเจ้าของบ้านคนเดิมทำหนังสือสัญญาเช่าขึ้น 1 ฉบับแล้วผู้เช่าเอามาอ้างเป็นพยานต่อศาลดังนี้ ถือว่ายังไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือแต่เป็นผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 157
(อ้างฎีกาที่ 654/2480)
(อ้างฎีกาที่ 654/2480)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองที่ดิน: การพิสูจน์การยึดถือเพื่อทำต่างดอกเบี้ย และผลกระทบต่อการครอบครอง
ทำกรมธรรม์จำนองที่ดินมือเปล่า มีข้อสัญญาว่าจะไถ่ภายใน 3 ปีผู้รับจำนองยึดถือที่ดินที่จำนองมานาน 6 ปี ผู้จำนองจึงมาฟ้องขอไถ่โดยอ้างว่าที่ดินอยู่ในความครอบครองของผู้รับจำนองเพราะภายหลังการจำนอง ตนไม่สามารถส่งดอกเบี้ยได้ จึงมอบที่ดินที่จำนองให้ทำต่างดอกเบี้ย ฝ่ายผู้รับจำนองต่อสู้ว่า ผู้จำนองได้ตกลงในภายหลังมอบที่ที่จำนองเป็นสิทธิแก่ตนแทนต้นเงินจำนองและดอกเบี้ย กับขอเพิ่มเงินอีกจำนวนหนึ่งและตนได้ครอบครองที่นั้น ตั้งแต่นั้นตลอดมา ดังนี้ เป็นหน้าที่ผู้จำนอง โจทก์ต้องสืบให้ได้ความจริงก่อนว่าผู้รับจำนองยึดถือที่ดินไว้ทำต่างดอกเบี้ยจึงจะหักล้างข้อที่ผู้รับจำนองยึดถือครอบครองที่พิพาทเพื่อตนเองซึ่งกฎหมายรับสันนิษฐานไว้เสียได้ ถ้าโจทก์ไม่นำสืบหักล้างก็ไม่มีทางชนะคดีได้ (อ้างฎีกาที่ 420/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ลักษณะกระสุนปืนเพื่อใช้ในการฟ้องร้อง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยมีกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ขอให้ลงโทษ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า ทางราชการได้จ่ายกระสุนปืนแบบนี้ให้ตำรวจใช้ในการปราบโจรผู้ร้ายเป็นการเอาไปใช้นอกจากการสงคราม ดังนี้ก็ไม่มีทางที่จะชี้ขาดว่าเป็นกระสุนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการฆ่าและการลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้มีชื่อตายโดยเจตนาขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 จำเลยให้การแต่เพียงว่าได้ใช้มีดลอบแทงผู้มีชื่อตายจริง ไม่ได้ให้การว่าจำเลยได้ฆ่าผู้มีชื่อตายด้วยเจตนาดังนี้ เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้มีชื่อนั้นศาลก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 251 ฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์บาดแผลสาหัส: ศาลต้องรับฟังพยานหลักฐานโจทก์ แม้จำเลยและผู้เสียหายให้การต่างกัน
ฟ้องหาว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสประกอบด้วยทุกข์เวทนากล้าเกินกว่า 20 วัน แพทย์ลงความเห็นว่าบาดแผลสาหัสมากน่ากลัวอันตราย รักษาประมาณ 1 เดือนจำเลยรับสารภาพแม้ผู้เสียหายกับจำเลยแถลงต้องกันว่ารักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 14 วันก็หาย โจทก์ไม่คัดค้านแต่จะขอสืบพยานว่าเป็นบาดแผลสาหัสดังนี้ ศาลต้องให้โจทก์นำสืบ จะสั่งงดไม่สืบพยานเสียไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 731/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการพิสูจน์ความตายจากบาดแผล ศาลยกฟ้องเนื่องจากโจทก์มิได้พิสูจน์ความเชื่อมโยงระหว่างบาดแผลกับการเสียชีวิต
การที่ผู้ตายเมาได้เงื้อขวานจะทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้ขวานทำร้ายผู้ตาย 1 ทีถูกที่เหนือขมับซ้ายเป็นบาดแผลยาว 3.9 ซ.ม. ลึกจดกระโหลกศีรษะเล็กน้อย ผู้ตายอยู่ได้ 9 วันตาย โจทก์มิได้นำสืบว่าผู้ตายได้ตายด้วยบาดแผลนี้หรือไม่ ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวไม่เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์และการพิสูจน์ปีที่หย่าขาดจากกัน
ผู้ที่ได้รับยกให้ที่ดินและครอบครองมา ย่อมแสดงว่าได้ครอบครองที่ดินในฐานะเป็นเจ้าของโดยสงบและเปิดเผยเมื่อเกิน 10 ปี ก็ได้กรรมสิทธิ์
เมื่อวินิจฉัยว่า ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่า การยกให้แต่แรกนั้นจะมีหนังสือหรือไม่
เอกสารบันทึกของเจ้าพนักงาน ซึ่งไม่มีกฎหมายบังคับให้ศาลต้องรับฟังเด็ดขาดนั้น เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้โต้เถียงอยู่ว่าเจ้าพนักงานเทียบปีและบันทึกปีผิดไป ดังนี้ ฝ่ายนั้นย่อมมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบได้ว่าความจริงเป็นปีใดแน่
เมื่อวินิจฉัยว่า ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่า การยกให้แต่แรกนั้นจะมีหนังสือหรือไม่
เอกสารบันทึกของเจ้าพนักงาน ซึ่งไม่มีกฎหมายบังคับให้ศาลต้องรับฟังเด็ดขาดนั้น เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้โต้เถียงอยู่ว่าเจ้าพนักงานเทียบปีและบันทึกปีผิดไป ดังนี้ ฝ่ายนั้นย่อมมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบได้ว่าความจริงเป็นปีใดแน่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ทางสาธารณะและการลงโทษจำเลยในคดีอาญา: โจทก์ต้องพิสูจน์การขัดขวางทางสัญจร
คดีอาญาที่โจทก์หาว่าจำเลยตัดฟันต้นไม้ปิดทางหลวง เมื่อจำเลยปฏิเสธและต่อสู้ว่าทางที่ตัดฟันไม้ทับ มิใช่ทางสาธารณะไม่เป็นการขัดขวางทางสัญจร กับจะขอสืบว่าทางที่โจทก์ฟ้องไม่ใช่ทางประจำ เป็นทางที่ใช้กันมานานแล้ว ดังนี้หากโจทก์ไม่สืบพะยาน ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1796-1797/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินด้วยการครอบครองปรปักษ์ ผู้ครอบครองต้องพิสูจน์เจตนาเป็นเจ้าของ
ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนด โดยอ้างว่าฝ่ายจำเลยผู้มีชื่อในโฉนดได้ขายให้โดยไม่ได้ทำหนังสือสัญญากัน แต่ได้มอบโฉนดและที่ดินให้ฝ่ายโจทก์ปกครองมาเกิน 10 ปีแล้ว
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ขาย เป็นแต่กู้เงิน ฝ่ายโจทก์มาแล้วมอบโฉนดให้ยึดถือมอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ย ดังนี้เป็นหน้าที่ฝ่ายโจทก์จะต้องนำสืบก่อน
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ขาย เป็นแต่กู้เงิน ฝ่ายโจทก์มาแล้วมอบโฉนดให้ยึดถือมอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ย ดังนี้เป็นหน้าที่ฝ่ายโจทก์จะต้องนำสืบก่อน