คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีก่อน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 155 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการยึดครองทรัพย์สินที่พิพาทในคดีก่อน แม้เรียกค่าเสียหายภายหลัง ก็ถือเป็นฟ้องซ้ำ
กรณีที่จำเลยเข้าแย่งทำนาภายหลังที่โจทก์ฟ้องคดีก่อนนั้นเป็นการละเมิดที่เกิดขึ้นใหม่ในระหว่างที่เป็นความกันโจทก์ไม่มีทางที่จะทราบและกล่าวเป็นข้อหาขึ้นได้ในขณะฟ้องคดีก่อนนั้น ฉะนั้นการที่โจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยทำละเมิดระหว่างคดีก่อนนั้น จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำแต่ถ้ามีทางที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าเสียหายที่ได้เกิดขึ้นแล้ว และจะเกิดขึ้นต่อไปรวมไปในฟ้องโจทก์ในคดีก่อนได้อยู่แล้วโจทก์มิได้นำพาเรียกร้องเสียการอ้างว่าไม่แน่ว่าจะชนะคดีหรือไม่ หาทำให้เกิดสิทธิฟ้องใหม่แต่อย่างไรไม่ถ้าฟ้องใหม่ในกรณีหลังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์เคยฟ้องขอแบ่งมรดกที่ดินจากผู้มีชื่อ ในระหว่างคดีผู้มีชื่อโอนขายที่ดินนั้นแก่จำเลย โจทก์จึงยื่นคำร้องขอเรียกจำเลยเข้ามาเป็นจำเลยด้วยศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีได้ส่วนแบ่งที่ดิน คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์กลับมาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยอีกในการที่จำเลยได้เข้าทำนาส่วนของโจทก์ซึ่งโจทก์มีทางที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนนี้ รวมไปในฟ้องในคดีก่อนได้อยู่แล้ว ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 เพราะประเด็นเนื่องมาจากมูลฐานเดียวกัน คือจำเลยยึดครองทรัพย์สินของโจทก์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อในคดีอาญา แม้คดีก่อนยังไม่ถึงที่สุด
การนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีที่ศาลตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยในคดีก่อนนั้น คดีใดเกิดก่อนคดีใดเกิดหลัง ก็ดี คดียังไม่ถึงที่สุด ก็ดี ย่อมไม่ขัดข้องในการที่ให้นับโทษต่อ เมื่อขณะศาลพิพากษาคดี ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษอยู่ แล้ว ศาลก็ชอบที่จะให้นับโทษต่อ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อเมื่อจำเลยต้องโทษในคดีอื่นอยู่ก่อนแล้ว แม้คดีนั้นยังไม่ถึงที่สุด
การนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีที่ศาลตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยในคดีก่อนนั้น คดีใดเกิดก่อนคดีใดเกิดหลัง ก็ดี คดียังไม่ถึงที่สุด ก็ดี ย่อมไม่ขัดข้องในการที่ให้นับโทษต่อเมื่อขณะศาลพิพากษาคดี ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษอยู่แล้ว ศาลก็ชอบที่จะให้นับโทษต่อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1144/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: การฟ้องขับไล่ซ้ำเมื่อคดีก่อนมีคำขอขับไล่แล้ว
โจทก์เคยฟ้องจำเลยว่าเช่าที่ของโจทก์อยู่อาศัย และค้าขาย แต่ไม่ได้ทำเป็นหนังสือ จำเลยรับรองว่าเมื่อโจทก์ต้องการที่ จำเลยจะออก ต่อมาโจทก์ให้จำเลยทำหนังสือสัญญาเช่า จำเลยไม่ทำ โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยทำสัญญาเช่า ถ้าจำเลยไม่ยอมทำก็ขอให้ขับไล่จำเลยศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์มาฟ้องจำเลยใหม่อ้างว่า จำเลยเช่าที่เพื่ออาศัยและประกอบธุรกิจการค้าเป็นการชั่วคราว บัดนี้โจทก์มีความจำเป็นต้องใช้ที่ตรงนั้น จึงบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลย แต่จำเลยไม่ยอมออก โจทก์จึงขอให้ศาลขับไล่ ดังนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 808/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้อง: แม้ไม่ได้ระบุที่ตั้งชัดเจน แต่หากข้อมูลปรากฏในคดีก่อนและจำเลยทราบ ฟ้องไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยมิได้กล่าวว่าที่พิพาทอยู่ที่ตำบลใด ครั้นจำเลยให้การต่อสู้คดี ได้ให้การตัดฟ้องด้วยว่า ฟ้องโจทก์มิได้กล่าวให้แจ้งชัดว่า ที่พิพาทอยู่ตำบลอำเภอใด เป็นฟ้องเคลือบคลุม โจทก์จึงยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องระบุว่าที่พิพาทอยู่ตำบลอำเภอและจังหวัดใดดังนี้ เมื่อปรากฏว่าฟ้องของโจทก์ได้กล่าวไว้แล้วว่าที่พิพาท โจทก์ได้มาตามสัญญายอมความ ในคดีแดงคดีหนึ่งของศาลนั้น ซึ่งในคดีนั้นก็ปรากฏชัดว่าที่พิพาทแปลงนี้อยู่ที่ตำบลอำเภอจังหวัดใด และจำเลยซึ่งเป็นบุตรจำเลยในคดีก่อน ก็รู้ดีว่าที่ซึ่งโจทก์ฟ้อง อยู่ที่ตำบลใด ดังปรากฏตามคำให้การแล้ว ดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้ขอเพิ่มเติมฟ้อง ฟ้องของโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1859/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษคดีหลังเมื่อมีโทษคดีก่อนรอการลงอาญา: มาตรา 72 และ 42 แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา(ฉบับที่ 14)2494ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า "ให้....บวกโทษที่รอการลงอาญาไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลัง" นั้น ความตอนนี้ย่อมมีความมุ่งหมายเช่นเดียวกับมาตรา 42 ของเดิมนั้นเอง คือให้ลงโทษที่รอการลงอาญาไว้ในคดีก่อนเป็นโสดหนึ่งต่างหากจากโทษที่จำเลยจะต้องรับสำหรับความผิดครั้งหลัง
แต่ในเรื่องเพิ่มโทษตามมาตรา 72 นั้น ในกรณีรอการลงอาญา มาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ หาได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เพิ่มโทษได้ดุจมาตรา 42 ของเดิมไม่ฉะนั้นเมื่อโทษในคดีเดิมถูกรอการลงอาญาไว้ จำเลยจึงหาได้ถูกจำคุกและพ้นโทษจำคุกในคดีก่อนแล้วมากระทำผิดในคดีใหม่นี้อีกไม่ จึงจะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: การเรียกร้องค่าเสียหายจากเหตุเดิมที่เคยกล่าวอ้างในคดีก่อน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและกล่าวไว้ด้วยว่า จำเลยเผาไฟทำให้ต้นยางโจทก์เสียหาย แต่โจทก์ยังไม่ประสงค์จะเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากจำเลยก่อน เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วโจทก์จึงมาฟ้องจำเลยขอเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยเผาไฟทำให้ไหม้ต้นยางของโจทก์เสียหายอีก ดังนี้ เป็นการฟ้องซ้ำ ต้องห้ามมิให้ฟ้องตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 148
ข้อกฎหมายเรื่องฟ้องซ้ำเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นว่ากล่าว ศาลก็ย่อมยกขึ้นมาใช้เองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อ จำเลยไม่ให้การรับสารภาพในคดีก่อน ศาลไม่อาจนับโทษต่อได้
คดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีดำนั้น หากการพิจารณาในศาลชั้นต้นจำเลยไม่ได้ให้การรับให้ได้ความปรากฏว่าจำเลยในคดีหลังเป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีที่ขอให้นับโทษต่อดังนี้ ศาลนับโทษต่อให้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดในการนำข้อเท็จจริงจากคดีก่อนมาผูกพันคดีใหม่ แม้คู่ความบางส่วนจะซ้ำกัน ศาลต้องพิจารณาประเด็นและสภาพคดีที่เปลี่ยนแปลง
ผู้มีชื่อในโฉนดร่วมกับผู้อื่นฟ้องขอแบ่งที่ดินเฉพาะส่วนของคนจากผู้ที่ยึดถือครอบครองที่ดินผู้ครอบครองที่ดินต่อสู้ ว่าผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่นเอาที่ดินนี้ตีใช้หนี้ตน ทางพิจารณาศาลฟังว่าไม่มีการตีใช้หนี้ แต่เห็นว่าการที่จะฟ้องขอแบ่งเฉพาะส่วนของโจทก์นั้นย่อมแบ่งให้ไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้อง ภายหลังผู้ครอบครองที่ดินเป็นโจกท์ฟ้องทายาทผู้มีชื่อในโฉนดคนหนึ่งขอให้ศาลแสดงว่า ที่พิพาทนี้เป็นกรรมสิทธิของผู้ครอบครองที่ดินทายาทผู้เป็นจำเลยต่อสู้ว่าผู้ครอบครองที่ดินไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้อง อีกเพราะเคยฟ้องกันมาแล้วและในคดีหลังนี้ผู้มีชื่อในโฉนดที่เคยเป็นโจทก์ฟ้องผู้ครอบครองก็ได้ร้องเข้ามาเป็นจำเลยร่วมจนศาลอนุญาตแล้วก็ตาม ศาลฎีกาก็เห็นว่าจะเอาข้อเท็จจริงในในคดีก่อนมารับฟังเป็นข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ได้ เพราะโจทก์จำเลยในคดีนี้เป็นคู่กรณีคนใหม่และในคดีก่อนศาลยกฟ้อง เพราะเห็นว่าการฟ้องขอแบ่งเฉพาะส่วนของตนย่อมแบ่งให้ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญ การที่ผู้ครอบครองที่ดินมาฟ้องอ้างสิทธิในที่ดินนี้ทั้งแปลงประเด็นก็ไม่เหมือนกับคดีก่อนซึ่งพิพาทกันเฉพาะที่ดิน ส่วนของผู้มีชื่อในโฉนดผู้เป็นโจทก์ฟ้องเท่านั้น จึงจะยกเอาสำนวนก่อนมาผูกพันบังคับคู่ความคดีนี้ใหม่หาได้ไม่ ชอบที่ศาลจะสืบพยานฟังข้อเท็จจริงในสำนวนหลังนี้ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน: คดีก่อนผูกพันคดีหลังไม่ได้ หากคู่ความและประเด็นข้อพิพาทเปลี่ยนแปลง
ผู้มีชื่อในโฉนดร่วมกับผู้อื่นฟ้องขอแบ่งที่ดินเฉพาะส่วนของตนจากผู้ที่ยึดถือครอบครองที่ดิน ผู้ครอบครองที่ดินต่อสู้ว่า ผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่นเอาที่ดินนี้ตีใช้หนี้ตน ทางพิจารณาศาลฟังว่าไม่มีการตีใช้หนี้ แต่เห็นว่า การที่จะฟ้องขอแบ่งเฉพาะส่วนของโจทก์นั้นย่อมแบ่งให้ไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้อง ภายหลังผู้ครอบครองที่ดินเป็นโจทก์ฟ้องทายาทผู้มีชื่อในโฉนดคนหนึ่งขอให้ศาลแสดงว่า ที่พิพาทนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครองที่ดิน ทายาทผู้เป็นจำเลยต่อสู้ว่า ผู้ครอบครองที่ดินไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้องอีกเพราะเคยฟ้องกันมาแล้วและในคดีหลังนี้ ผู้มีชื่อในโฉนดที่เคยเป็นโจทก์ฟ้องผู้ครอบครองก็ได้ร้องเข้ามาเป็นจำเลยร่วม จนศาลอนุญาตแล้วก็ตาม ศาลฎีกาก็เห็นว่าจะเอาข้อเท็จจริงในคดีก่อนมารับฟังเป็นข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ได้ เพราะโจทก์จำเลยในคดีนี้เป็นคู่กรณีคนใหม่ และในคดีก่อนศาลยกฟ้องเพราะเห็นว่า การฟ้องขอแบ่งเฉพาะส่วนของตน ย่อมแบ่งให้ไม่ได้ เป็นประเด็นสำคัญ การที่ผู้ครอบครองที่ดินมาฟ้องอ้างสิทธิในที่ดินนี้ทั้งแปลงประเด็นก็ไม่เหมือนกับคดีก่อนซึ่งพิพาทกันเฉพาะที่ดินส่วนของผู้มีชื่อในโฉนดผู้เป็นโจทก์ฟ้องเท่านั้น จึงจะยกเอาสำนวนก่อนมาผูกพันบังคับคู่ความคดีนี้ใหม่หาได้ไม่ชอบที่ศาลจะสืบพยานฟังข้อเท็จจริงในสำนวนหลังนี้ต่อไป(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2493)
of 16