พบผลลัพธ์ทั้งหมด 207 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1779/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยินยอมให้เช่าต่อและการยินยอมออกจากที่เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
ผู้เช่าได้เช่าตึกมาตั้งแต่ยังเป็นของเจ้าของคนเดิม เมื่อเจ้าของคนเดิมจะขายตึกที่เช่า ผู้เช่าก็ได้ตกลงกับเจ้าของคนเดิม ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าและกับผู้ที่จะเป็นเจ้าของใหม่ว่า ตนยินยอมออกจากตึกที่เช่า เมื่อผู้ให้เช่าเดิมขายตึกนั้น และครั้นเมื่อเจ้าของใหม่ซื้อตึกนั้นแล้ว ผู้เช่านั้นก็ยังได้ขอผัดต่อมาอีกจนที่สุดทำสัญญาเช่าอยู่ต่อมา เพื่อขอเวลาออกจากตึกที่เช่าไปภายในกำหนด ดังนี้ เป็นที่เห็นได้ว่า ผู้เช่ายินยอมออกจากตึกตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน มาตรา16(5) แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่อประกอบธุรกิจคานเรือ ไม่เข้าข่ายคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า จำเลยเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อทำคานเรือ จำเลยให้การรับในข้อนี้แล้ว ให้การต่อไปอีกว่า ที่ซึ่งจำเลยเช่านี้ใช้ทำเป็นคานเรือและปลูกสร้างโรงเรือนใช้เป็นที่อยู่อาศัยและประกอบธุรกิจการค้ามาก่อนโจทก์ซื้อ ถือว่าคำให้การดังกล่าวไม่แสดงว่าจำเลยเช่าเป็นที่อยู่อาศัยอันจะอยู่ในข่ายคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ คดีจึงไม่มีประเด็นที่จำเลยจะพึงอ้างว่าได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
จำเลยรับว่าอยู่ในที่ดินของโจทก์ จำเลยอ้างความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ซึ่งฟังไม่ได้ โจทก์ไม่จำต้องสืบถึงการละเมิดและค่าเสียหายที่ฟ้อง ถือว่าจำเลยไม่ต่อสู้ว่า ตนมีสิทธิจะอยู่ได้อย่างไรและไม่ได้ยกข้อคำนวณค่าเสียหายขึ้นต่อสู้
จำเลยรับว่าอยู่ในที่ดินของโจทก์ จำเลยอ้างความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ซึ่งฟังไม่ได้ โจทก์ไม่จำต้องสืบถึงการละเมิดและค่าเสียหายที่ฟ้อง ถือว่าจำเลยไม่ต่อสู้ว่า ตนมีสิทธิจะอยู่ได้อย่างไรและไม่ได้ยกข้อคำนวณค่าเสียหายขึ้นต่อสู้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผ่อนผันการชำระค่าเช่าและการถือว่าผิดนัดชำระค่าเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
พฤติการณ์ที่ถือว่าผู้เช่าไม่ผิดนัด ไม่ชำระค่าเช่า 2 คราวติด ๆ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่จากห้องเช่า: ศาลมีอำนาจพิจารณาตามคำแก้ และยกกฎหมายควบคุมค่าเช่าขึ้นวินิจฉัยได้
ฟ้องให้ขับไล่จากห้องเช่าโดยอ้างว่าผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า และอ้างเหตุว่าโจทก์ต้องการขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า และได้บอกกล่าวจำเลยเป็นคำรพ 2 อีกครั้งหนึ่งจำเลยก็ไม่ออก ดังนี้ แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความว่าผู้ให้เช่าไม่ยอมรับค่าเช่าเอง แต่เมื่อปรากฎว่าได้บอกเลิกการเช่าล่วงหน้าตามกำหนดแล้ว ศาลก็ยกเหตุหลังขึ้นพิพากษาขับไล่ผู้เช่าได้ ไม่ถือว่าพิพากษานอกฟ้องนอกประเด็น
ประเด็นแห่งคดีอยู่ที่ข้อหาคำให้การ คำฟ้องอุทธรณ์และแก้อุทธรณ์ คำฟ้องฎีกาและแก้ฎีกาไม่ใช่อยู่ที่ข้อหาหรือคำฟ้องอย่างเดียว ศาลมีอำนาจพิพากษาตามข้อหาหรือคำแก้ได้ทั้ 2 สถาน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าโดยอ้างว่าจำเลยค้างชำระค่าเช่า จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ยอมรับค่าเช่าเองจนจำเลยต้องยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ ทราบไว้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย ดังนี้แม้จำเลยจะไม่ต่อสู้โดยตรงว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าฯ แต่ก็ถือได้ว่าจำเลยได้ให้การเกี่ยวถึง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ในภาวะคับขันอยู่แล้ว กล่าวคือจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ และว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องอย่างไรก็ดี พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลจึงมีอำนาจยก พ.ร.บ.ขึ้นปรับคดีได้
ประเด็นแห่งคดีอยู่ที่ข้อหาคำให้การ คำฟ้องอุทธรณ์และแก้อุทธรณ์ คำฟ้องฎีกาและแก้ฎีกาไม่ใช่อยู่ที่ข้อหาหรือคำฟ้องอย่างเดียว ศาลมีอำนาจพิพากษาตามข้อหาหรือคำแก้ได้ทั้ 2 สถาน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าโดยอ้างว่าจำเลยค้างชำระค่าเช่า จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ยอมรับค่าเช่าเองจนจำเลยต้องยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ ทราบไว้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย ดังนี้แม้จำเลยจะไม่ต่อสู้โดยตรงว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าฯ แต่ก็ถือได้ว่าจำเลยได้ให้การเกี่ยวถึง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ในภาวะคับขันอยู่แล้ว กล่าวคือจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ และว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องอย่างไรก็ดี พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลจึงมีอำนาจยก พ.ร.บ.ขึ้นปรับคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในการควบคุมค่าเช่า และการเรียกค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการ
ผู้ให้เช่าเดิมตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯมาตรา 16(6)นั้นหมายความถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิ์มาจากผู้ให้เช่าเดิมด้วย (อ้างฎีกาที่ 845/2490)
ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องแถวที่ให้เช่า ย่อมมีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อขอเข้าอยู่ในเคหะที่ให้เช่าได้
ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะผู้เช่าไม่ยอมออกจากเคหะที่เช่านั้น ผู้ให้เช่ามีสิทธิให้ชดใช้ได้ตั้งแต่วันครบกำหนดที่มติกรรมการให้ออกจนกว่าผู้เช่าจะออกไปโดยพิเคราะห์ถึงทำเลการค้าและผลกำไรของร้านใกล้เคียง แต่ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายก่อนได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการฯ นอกจากค่าเช่าที่ค้างเท่านั้น แต่ถ้าผู้ให้เช่าไม่ฟ้องเรียกค่าเช่า ศาลจะบังคับให้ใช้ค่าเสียหายแทนค่าเช่าไม่ได้
ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องแถวที่ให้เช่า ย่อมมีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อขอเข้าอยู่ในเคหะที่ให้เช่าได้
ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะผู้เช่าไม่ยอมออกจากเคหะที่เช่านั้น ผู้ให้เช่ามีสิทธิให้ชดใช้ได้ตั้งแต่วันครบกำหนดที่มติกรรมการให้ออกจนกว่าผู้เช่าจะออกไปโดยพิเคราะห์ถึงทำเลการค้าและผลกำไรของร้านใกล้เคียง แต่ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายก่อนได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการฯ นอกจากค่าเช่าที่ค้างเท่านั้น แต่ถ้าผู้ให้เช่าไม่ฟ้องเรียกค่าเช่า ศาลจะบังคับให้ใช้ค่าเสียหายแทนค่าเช่าไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้จำเลยมิได้อ้างตั้งแต่แรก ศาลหยิบยกได้หากปรากฏตามข้อกล่าวอ้างและข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าพิพาท เมื่อปรากฏข้อความในฟ้อง ทำให้เข้าใจได้ว่าจำเลยอยู่ในห้องเช่าพิพาทนี้และตามคำให้การของจำเลย ก็บอกไว้ว่าจำเลยตั้งบ้านเรือนอยู่ในตำบลเขตเทศบาล ดังนี้ ก็พอฟังได้ว่าห้องพิพาทกันนี้อยู่ในเขตเทศบาล และจำเลยยังกล่าวในคำให้การว่า โจทก์ขึ้นค่าเช่ามีเจตนาฝ่าฝืน พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ จำเลยจึงปฏิเสธ ดังนี้พอฟังได้ว่าจำเลยกล่าวอ้างขอความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: ไม่มีผลย้อนหลัง แม้มีการแก้ไขเพิ่มเติม
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ 2490 มุ่งหมายแก้ไขวิเคราะห์ศัพท์คำว่า "เคหะ" ใน พ.ร.บ.ปี พ.ศ. 2489 เท่านั้น แม้ในมาตรา 4 จะมีความว่าให้ใช้บังคับแก่บรรดาคดีแพ่งที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลก็ดี ก็ต้องหมายความว่า ใช้บังคับแก่คดีซึ่งตกอยู่ในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ปี พ.ศ. 2489 อันค้างพิจารณาอยู่ในศาลเท่านั้นเอง ถ้าคดีที่โจทก์ฟ้องและค้างพิจารณาอยู่ ไม่ตกอยู่ในบังคับของ พ.ร.บ.ปี พ.ศ. 2489 ก็จะนำเอา พ.ร.บ. ปี พ.ศ. 2490 ย้อนหลังไปบังคับไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการใช้บังคับของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: ไม่มีผลย้อนหลัง แม้มีการแก้ไขคำนิยาม 'เคหะ'
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2490 มุ่งหมายแก้ไขวิเคราะห์ศัพท์คำว่า 'เคหะ' ในพระราชบัญญัติปี พ.ศ.2489 เท่านั้น แม้ในมาตรา 4 จะมีความว่าให้ใช้บังคับแก่บรรดาคดีแพ่งที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลก็ดี ก็ต้องหมายความว่าใช้บังคับแก่คดีซึ่งตกอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติปีพ.ศ.2489 อันค้างพิจารณาอยู่ในศาลเท่านั้นเอง ถ้าคดีที่โจทก์ฟ้องและค้างพิจารณาอยู่ ไม่ตกอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติปี พ.ศ.2489 ก็จะนำเอาพระราชบัญญัติปี พ.ศ.2490 ย้อนหลังไปบังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเพื่อค้าขายไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผู้เช่าช่วงไม่มีสิทธิอ้างคุ้มครองกับเจ้าของที่ดิน
จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินจากโจทก์ไปเพื่อปลูกเป็นอาคารให้ผู้อื่นเช่าทำการค้าขาย เมื่อโจทก์บอกเลิกแล้ว ก็เป็นอันยุติจำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แต่อย่างใดเลย
เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิที่จะคงเช่าอยู่ต่อไปแล้วผู้ที่เช่าจากจำเลยก็ไม่มีทางที่จะอ้าง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯมาคุ้มครองหรือใช้ยันแก่โจทก์ได้ เพราะบุคคลเหล่านี้มิใช่เป็นผู้เช่าจากโจทก์ (อ้างฎีกาที่1216/2491)
เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิที่จะคงเช่าอยู่ต่อไปแล้วผู้ที่เช่าจากจำเลยก็ไม่มีทางที่จะอ้าง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯมาคุ้มครองหรือใช้ยันแก่โจทก์ได้ เพราะบุคคลเหล่านี้มิใช่เป็นผู้เช่าจากโจทก์ (อ้างฎีกาที่1216/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าตึกเพื่อประกอบการค้า ไม่เข้าข่ายเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
จำเลยเช่าตึกพิพาทเพื่อประกอบการค้าตั้งโรงแรมและให้เช่าช่วง และจำเลยเข้าอยู่เพื่อประโยชน์แห่งการค้าของจำเลย ดังนี้ ตึกพิพาทไม่ใช่ เคหะ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ. 2489, 2490.
(อ้างฎีกา 1099/2491, 1147/2491)
(อ้างฎีกา 1099/2491, 1147/2491)