พบผลลัพธ์ทั้งหมด 439 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนไม่เพียงพอที่จะลงโทษจำเลย จำเป็นต้องมีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน
โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ลักทรัพย์คงมีหลักฐานเพียงว่าในคืนเกิดเหตุมีคนร้ายลักยางพาราแผ่นของผู้เสียหายไปข้อนำสืบเบื้องต้นที่ว่าจำเลยเป็นคนร้ายมาจากคำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนและต่อบุคคลที่รู้เห็นในขณะนั้นเป็นพยานบอกเล่าที่จำเลยได้บอกแก่พนักงานสอบสวนจริงแต่จะรับฟังว่าจำเลยได้กระทำการลักทรัพย์ไปจริงตามที่ได้บอกเล่าไว้หรือไม่นั้นต้องมีพยานอื่นมาสนับสนุนให้รับฟังได้ว่าเป็นจริงตามที่จำเลยได้บอกเล่าแก่พนักงานสอบสวนลำพังแต่คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเพียงรับฟังได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไว้เช่นนั้นจะรับฟังลงโทษจำเลยได้นั้นจะต้องมีพยานอื่นสนับสนุนด้วยเมื่อโจทก์มีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนจึงยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนไม่เพียงพอที่จะลงโทษจำเลย ต้องมีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน
โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ลักทรัพย์คงมีหลักฐานเพียงว่าในคืนเกิดเหตุมีคนร้ายลักยางพาราแผ่นของผู้เสียหายไปข้อนำสืบเบื้องต้นที่ว่าจำเลยเป็นคนร้ายมาจากคำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนและต่อบุคคลที่รู้เห็นในขณะนั้นเป็นพยานบอกเล่าที่จำเลยได้บอกแก่พนักงานสอบสวนจริงแต่จะรับฟังว่าจำเลยได้กระทำการลักทรัพย์ไปจริงตามที่ได้บอกเล่าไว้หรือไม่นั้นต้องมีพยานอื่นมาสนับสนุนให้รับฟังได้ว่าเป็นจริงตามที่จำเลยได้บอกเล่าแก่พนักงานสอบสวนลำพังแต่คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเพียงรับฟังได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไว้เช่นนั้นจะรับฟังลงโทษจำเลยได้นั้นจะต้องมีพยานอื่นสนับสนุนด้วยเมื่อโจทก์มีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนจึงยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ได้มาจากการสอบสวนฝ่ายเดียวมีน้ำหนักน้อย ต้องมีพยานหลักฐานอื่นประกอบจึงจะลงโทษจำเลยได้
คำให้การรับสารภาพของจำเลยใน ชั้นสอบสวนเป็น พยานบอกเล่าพนักงานสอบสวนดำเนินการไปฝ่ายเดียวโดยฝ่ายจำเลยไม่มีโอกาสโต้แย้งคัดค้านแม้ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้รับฟังแต่ก็ มีน้ำหนักน้อยโจทก์จะต้องมีพยานอื่นมาสืบประกอบจึงจะมีน้ำหนักเพียงพอลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7562/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนต้องมีพยานหลักฐานประกอบอื่นที่ไม่ใช่คำของพนักงานสอบสวนจึงจะใช้ลงโทษจำเลยได้
พยานหลักฐานประกอบตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 176 จะต้องไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของคำรับสารภาพ การรับฟังคำรับชั้นสอบสวนซึ่งจำเลยปฏิเสธในชั้นพิจารณามาใช้ลงโทษจำเลยโจทก์ต้องมีพยานประกอบว่าจำเลยกระทำผิดจริงโดยพยานประกอบนั้นต้องมิใช่คำของเจ้าพนักงานตำรวจผู้สอบสวนคำรับนั้น ส่วนบันทึกการจับกุม คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลย บันทึกการนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและภาพถ่ายประกอบการนำชี้ที่เกิดเหตุแม้จะมีภาพจำเลยและมีข้อความระบุว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนไม่ใช่พยานหลักฐานที่จะนำมารับฟังประกอบคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเพื่อให้เห็นว่าจำเลยกระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7073/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ไม่น่าเชื่อถือและการปรับบทลงโทษ
คำเบิกความของพนักงานสอบสวนที่ว่าในชั้นจับกุมจำเลยที่ 1ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 กระทำผิด เป็นคำบอกเล่าจากจำเลยที่ 1เมื่อประจักษ์พยานเบิกความว่าไม่เห็นจำเลยที่ 2 ในคืนเกิดเหตุ คำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 2 ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจึงยังไม่พอฟังลงโทษจำเลยที่ 2 ได้
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ที่ศาลล่างลงโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายโดยใช้ยานพาหนะจึงไม่ชอบ และเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยแม้คู่ความมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยปรับบทลงโทษจำเลยที่ 1 ให้ถูกต้องได้
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ที่ศาลล่างลงโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายโดยใช้ยานพาหนะจึงไม่ชอบ และเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยแม้คู่ความมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยปรับบทลงโทษจำเลยที่ 1 ให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6357/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพลำพังไม่พอพิสูจน์ความผิด ต้องมีพยานหลักฐานอื่นประกอบ
พยานหลักฐานของโจทก์ว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คงมีแต่คำให้การการรับสารภาพของจำเลยตามบันทึกการตรวจค้นและจับกุมเอกสารหมาย จ.2 โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสนับสนุนว่าจำเลยมีเฮโรอีนดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คำให้การรับสารภาพของจำเลยชั้นจับกุมดังกล่าวเป็นเพียงพยานบอกเล่า ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้โดยลำพังเมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสืบสนันสนุนว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พยานหลักฐานของโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักพอให้ฟังได้ว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6357/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาจำหน่ายยาเสพติด ต้องมีพยานหลักฐานสนับสนุนคำรับสารภาพของผู้ต้องหา
พยานหลักฐานของโจทก์ว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คงมีแต่คำให้การการรับสารภาพของจำเลยตามบันทึกการตรวจค้นและจับกุมเอกสารหมาย จ.2 โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสนับสนุนว่า จำเลยมีเฮโรอีนดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายคำให้การรับสารภาพของจำเลยชั้นจับกุมดังกล่าวเป็นเพียงพยานบอกเล่าไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้โดยลำพัง เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสืบสนับสนุนว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายพยานหลักฐานของโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักพอให้ฟังได้ว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5493/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพและการพิสูจน์ความผิดฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แม้ไม่มีพยานยืนยัน
แม้โจทก์จะไม่ได้นำประจักษ์พยานมาเบิกความยืนยันว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีน คงมีแต่คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม และขณะศาลสอบคำให้การ ซึ่งจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณา แต่โจทก์ก็มีพยานหลักฐานอื่นนอกจากคำเบิกความของเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมมาประกอบให้เห็นว่า คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและขณะศาลสอบคำให้การของจำเลยทั้งสองเป็นความจริงและโดยสมัครใจ พยานหลักฐานอื่นของโจทก์ดังกล่าวประกอบกันฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 ตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาต จำเป็นต้องมีพยานหลักฐานและพยานบุคคล ไม่ใช่เพียงคำรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านโดยมิได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว จำเลยให้การปฏิเสธโจทก์ไม่ได้อาวุธปืนของกลางมาเป็นพยานหลักฐานและไม่ได้นำพยานมาสืบว่าจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ให้มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองตามกฎหมายและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว คงมีเพียงพนักงานสอบสวนเบิกความว่าจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเท่านั้น พยานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3312/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ไม่สมัครใจ: ผลของการจูงใจจากเจ้าพนักงาน
คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยมีลักษณะเป็นคำรับซึ่งเกิดจากการจูงใจของเจ้าพนักงานตำรวจ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจ