พบผลลัพธ์ทั้งหมด 177 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายระหว่างกลุ่มคู่ขัดแย้ง ศาลลดโทษฐานฆ่าคนตายไม่เจตนา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฆ่าคนตายโดยเจตนาแต่ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ตายทั้งสองคนเป็นปรปักษ์คู่ต่อสู้กัน จำเลยเป็นพรรคพวกผู้ตายฝ่ายหนึ่ง ได้เข้าต่อสู้กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งกับพรรคพวกโดยใจสมัครเพราะมีการท้าทายกันก่อน รูปคดีไม่แน่ว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่ากัน จำเลยบางคนต่างวิ่งมาช่วยในที่เกิดเหตุ จำเลยกระทำหนักมือบ้าง เบามือบ้าง ควรวางโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายไม่เจตนา
จำเลยคนหนึ่งมีไม้ตะบองส่วนจำเลยคนอื่นมีขวานและมีดซุย แต่บาดแผลของผู้ตายล้วนแต่บาดแผลเรียบ แพทย์ลงความเห็นว่า ถูกของแข็งมีคมไม่มีรอยถูกแผลตี ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยนั้นได้ใช้ไม้ตะบองตีผู้ตายด้วย
บิดาจำเลยสมัครใจต่อสู้ และทำร้ายกับผู้ตาย จำเลยเข้าช่วยบิดาทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จำเลยจะแก้ตัวว่าทำโดยป้องกันบิดาไม่ได้ เพราะบิดาจำเลยเป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน
จำเลยคนหนึ่งมีไม้ตะบองส่วนจำเลยคนอื่นมีขวานและมีดซุย แต่บาดแผลของผู้ตายล้วนแต่บาดแผลเรียบ แพทย์ลงความเห็นว่า ถูกของแข็งมีคมไม่มีรอยถูกแผลตี ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยนั้นได้ใช้ไม้ตะบองตีผู้ตายด้วย
บิดาจำเลยสมัครใจต่อสู้ และทำร้ายกับผู้ตาย จำเลยเข้าช่วยบิดาทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จำเลยจะแก้ตัวว่าทำโดยป้องกันบิดาไม่ได้ เพราะบิดาจำเลยเป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีฆ่าคนตายโดยไม่มีศพ การชันสูตรพลิกศพ และการรับฟังพยานหลักฐาน
เมื่อไม่ได้มีการชันสูตรพลิกศพผู้ตาย เพราะบิดาผู้ตาย ได้จัดการเผาศพไปก่อนแล้ว โจทก์ก็ย่อมฟ้องจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีฆ่าคนตายโดยไม่มีศพชันสูตร: การใช้ข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาเดิม
เมื่อไม่ได้มีการชันสูตรพลิกศพผู้ตาย เพราะบิดาผู้ตายได้จัดการเผาศพไปก่อนแล้ว โจทก์ก็ย่อมฟ้องจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดเดิม: แม้ความผิดเปลี่ยนเป็นฆ่าคนตายหลังพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ก็ฟ้องซ้ำไม่ได้
โจทก์ฟ้องจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว ภายหลังผู้ถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย โจทก์จะฟ้องจำเลยใหม่ฐานฆ่าคนตายอีกไม่ได้ ไม่ว่าคดีเดิมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วจะถึงที่สุดเด็ดขาดแล้วหรือไม่ก็ดี เพราะการกระทำอันเดียวกันนั้นโจทก์ได้ฟ้อง และศาลได้พิพากษาแล้ว
คดีดังกล่าวหากศาลชั้นต้นยังมิได้พิพากษา โจทก์ได้แต่จะขอแก้ฟ้องตามมาตรา 163 ป.ม.วิ.อาญา หากศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์ก็ขอแก้ฟ้องไม่ได้.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 27/2492
คดีดังกล่าวหากศาลชั้นต้นยังมิได้พิพากษา โจทก์ได้แต่จะขอแก้ฟ้องตามมาตรา 163 ป.ม.วิ.อาญา หากศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์ก็ขอแก้ฟ้องไม่ได้.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 27/2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: การพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และลักษณะฉกรรจ์
ความผิดฐานฆ่าคนตาย โดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ตอน 2 นั้น จะต้องได้ความว่า มีลักษณะฉกรรจ์ อย่างหนึ่งอย่างใด ดังที่กล่าวในมาตรา 250.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: การพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและลักษณะฉกรรจ์
ความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ตอน 2 นั้นจะต้องได้ความว่า มีลักษณะฉกรรจ์ อย่างหนึ่งอย่างใด ดังที่กล่าวในมาตรา 250
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเกินสมควรแก่เหตุในการป้องกันตัว ทำให้มีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยถูกผู้ตายเอามือค้ำคอโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะอยู่ในที่มืดเมื่อจำเลยใช้ขวานฟันผู้ตายครั้งที่หนึ่งแล้ว ไม่ปรากฎว่าผู้ตายได้กระทำอะไรแก่จำเลยอีกเลย การที่จำเลยฟันครั้งที่สองอีกจนผู้ตายถึงตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ ต้องมีผิดตามมาตรา 251,53 ก.ม.ลักษณะอาญา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาต้องอาศัยข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อหาทำร้ายร่างกาย หากศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาต้องถือตาม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานบุกรุกทำร้ายร่างกาย และฆ่าคน โดยเจตนา ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่สมบูรณ์ส่วนข้อหาฐานอื่นไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังศาลชั้นต้น พิพากษายืน โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ดังนี้ การจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายนี้ ก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับข้อหาฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลล่างวินิจฉัยไปแล้วนั่นเอง เพราะเกิดจากการกระทำคราวเดียวกัน เมื่อศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาก็ต้องถือตาม จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์จะสมบูรณ์ในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาต้องอาศัยข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อหาอื่น หากศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาต้องถือตาม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานบุกรุกทำร้ายร่างกาย และฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่สมบูรณ์ส่วนข้อหาฐานอื่นไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังศาลชั้นต้น พิพากษายืน โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ดังนี้การจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายนี้ ก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับข้อหาฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลล่างวินิจฉัยไปแล้วนั่นเอง เพราะเกิดจากการกระทำคราวเดียวกัน เมื่อศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาก็ต้องถือตาม จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์จะสมบูรณ์ในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ตัวการฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยกับพรรคพวกได้สมคบกันมาทำร้าย ฉ. โดยแบ่งหน้าที่กัน คือจำเลยกับพวกขึ้นไปฟัน ฉ. ที่บนเรือนส่วนพวกอีกคนหนึ่งมีอาวุธปืนรับหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน และคอยช่วยเหลืออยู่ข้างล่าง คนที่อยู่ข้างล่างยิง ฉ. ขณะที่หนีลงเรือน กระสุนปืนพลาดไปถูกภรรยา ฉ. ตายดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานเป็นตัวการฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วย