คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จำกัด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2328/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย และการไม่อุทธรณ์ประเด็นข้อเท็จจริงในชั้นอุทธรณ์
คดีที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์ก็ไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงให้ตามที่จำเลยอุทธรณ์ จำเลยจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงอีกมิได้ เพราะไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2328/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย คดีทุนทรัพย์น้อยกว่าสองหมื่นบาท
คดีที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์ก็ไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงให้ตามที่จำเลยอุทธรณ์ จำเลยจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงอีกมิได้ เพราะไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องจำกัดตามหนังสือมอบอำนาจ: โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ไม่ได้รับการมอบหมาย
กรมประชาสัมพันธ์โจทก์มอบอำนาจให้ ส. เป็นตัวแทนฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนกรณีรถยนต์โจทก์ถูกชนได้รับความเสียหายจาก อ. ซึ่งเป็นเจ้าของรถและเป็นนายจ้างผู้ขับรถ มิได้มอบอำนาจให้เป็นตัวแทนฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. โดย ส. หุ้นส่วนผู้จัดการ และ ส. ในฐานะส่วนตัว แม้จะปรากฏว่า อ. เป็นหุ้นส่วนจำกัด ความรับผิดของ บ. โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2838/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับค่าเช่าที่ดิน และผลกระทบต่อการบังคับคดี
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ของโจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แม้ข้อเท็จจริงตามสำนวนจะไม่ปรากฏว่าที่ดินที่พิพาทกันในขณะที่ยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้เกินเดือนละ 2,000 บาท หรือไม่ แต่เมื่อพิจารณาถึงที่ตั้ง จำนวนเนื้อที่ ราคา และสภาพทั่วๆ ไปของที่พิพาทแล้วอาจให้เช่าได้ในขณะที่ยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท ก็ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 และ 248 แม้ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้ก็ไม่มีผล คดีได้ยุติไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1715/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่า: ศาลจำกัดเฉพาะค่าเช่าที่แท้จริง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวและที่ดินของโจทก์ และเรียกค่าเสียหายโดยกล่าวในคำฟ้องว่า หากจำเลยออกจากตึกแถวและที่ดินของโจทก์แล้ว โอนขายให้กับ ส. ได้ตามสัญญาที่โจทก์ทำไว้กับ ส. โจทก์จะได้รับชำระราคาที่ดินที่ยังค้างชำระจาก ส. ซึ่งเงินจำนวนนี้โจทก์ย่อมนำไปทำธุรกิจหาผลประโยชน์ต่อไปได้ อย่างน้อยที่สุดนำไปฝากธนาคารก็จะได้ดอกเบี้ย ร้อยละ 8 ต่อปี ดังนี้ ค่าเสียหายดังกล่าวเป็นค่าเสียหายที่ไกลกว่าเหตุ การที่จำเลยไม่ยอมออกจากตึกแถวหรือออกจากตึกแถวล่าช้า ค่าเสียหายควรเป็นจำนวนเงินเท่ากับค่าเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 833/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นข้อพิพาทจำกัดเฉพาะการซื้อขายที่ดิน โจทก์ฎีกาประเด็นใหม่ไม่ได้
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อนำสืบเพียงข้อเดียวว่า โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทจากจำเลยหรือไม่ ซึ่งประเด็นข้อนี้ยุติไปแล้วไม่มีปัญหาประเด็นข้อพิพาทในเรื่องแย่งการครอบครอง ทั้งปัญหาข้อนี้โจทก์มิได้ยกขึ้นอ้างในศาลชั้นต้น โจทก์จึงฎีกาในปัญหาเรื่องแย่งการครอบครองนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2138/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจำกัดเฉพาะผู้ถูกยิงแรก แม้กระสุนถูกผู้อื่น การกระทำผิดเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีเรื่องไม่พอใจ. ถ.จึงใช้ปืนยิงถ.และกระสุนปืนไปถูกส. และ บ. ด้วย แม้จะมีการยิงหลายนัด ก็เป็นการยิงเพื่อเจตนาฆ่า ถ. การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำผิดกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าซื้อรถยนต์และประกันภัย, ข้อจำกัดคำให้การจำเลย
ผู้เช่าซื้อรถยนต์มีสิทธิครอบครองผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อสามีผู้เช่าซื้อมีส่วนได้เสียเอาประกันภัยรถยนต์ได้
คำให้การจำเลยไม่มีในข้อค่าเสียหาย ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 877 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาจำกัดในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดินราคา 5,000 บาทศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย และศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2518 โจทก์ฎีกาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยยื่นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2518อันเป็นวันก่อนพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มีผลบังคับ การพิจารณาว่าคู่ความมีสิทธิฎีกาได้หรือไม่เพียงไรนั้น ต้องพิจารณาตามบทกฎหมายและสิทธิในวันยื่นฎีกาเป็นสำคัญ ฎีกาโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ซึ่งใช้อยู่ในวันยื่นฎีกา (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 542/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2089/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับสัญญาเช่าเดิม และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์ที่ให้จำเลยอาศัย ไม่ปรากฏในคำฟ้องว่า ในขณะยื่นคำฟ้องอาจให้เช่าได้เดือนละเท่าใด แต่ปรากฏตามสำนวนคดีแพ่งคดีอื่นที่จำเลยอ้างต่อสู้คดีว่าที่พิพาทรายนี้เป็นของวัดสุบรรณนิมิตร จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับวัดสุบรรณนิมิตรในสำนวนดังกล่าว โดยวัดสุบรรณนิมิตรให้จำเลยเช่ามีกำหนด 10 ปี อัตราค่าเช่าปีละ 30 บาท เทียบได้เท่ากับค่าเช่าเดือนละ 2.50 บาท ช่วงเวลาที่วัดให้จำเลยเช่าอยู่ระหว่างโจทก์ฟ้องคดีนี้ จึงพอรับฟังว่า เมื่อโจทก์ยื่นคำฟ้องนั้นที่พิพาทที่โจทก์ฟ้องในขณะยื่นคำฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละสองพันบาท จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์หรือยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่าหรืออาศัย จึงต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2499 มาตรา 15 ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงให้ จึงไม่ชอบ ต้องถือว่าปัญหาข้อนี้ยุติตามคำวินิจฉัยในคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ฎีกาของจำเลยในข้อนี้จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในปัญหาว่าฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 หรือไม่ และกรณีไม่ได้เป็นเรื่องจำเลยแย่งการครอบครองจากโจทก์ จึงนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 มาบังคับแก่คดีนี้ไม่ได้
of 21