พบผลลัพธ์ทั้งหมด 307 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2058-2076/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น – ไม่เป็นส่วนราชการ, ผลกำไรเป็นของโรงพิมพ์, คณะกรรมการดำเนินงานปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ
ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2495 มาตรา7 การแบ่งส่วนราชการของกรมจะต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา.ไม่ปรากฏว่าได้เคยมีการตราพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการของกรมการปกครองโจทก์ให้โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นเป็นส่วนราชการของกรมโจทก์มาก่อน. คงมีแต่คำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนมอบอาคารโรงพิมพ์ เครื่องพิมพ์และอุปกรณ์การพิมพ์ทั้งสิ้นแก่โจทก์. และสั่งให้จัดแบ่งส่วนราชการให้โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นเป็นส่วนราชการสังกัดกรมโจทก์เท่านั้น. การดำเนินกิจการโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น เงินที่ใช้ในการหมุนเวียนได้มาจากการกู้และการลงหุ้นของหน่วยบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และสุขาภิบาล โดยมิได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน. โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นไม่เคยเสนอประมาณการรายรับและรายจ่ายต่อสำนักงบประมาณ. ทั้งไม่เคยมีการตั้งงบประมาณแผ่นดินไว้ดำเนินกิจการของโรงพิมพ์ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502.โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นจึงไม่เป็นส่วนราชการของกรมโจทก์.ดังนั้นเงินรายได้และผลกำไรของโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นย่อมมิใช่รายได้อันจะต้องนำส่งคลังเป็นรายได้ของแผ่นดินในนามของกรมโจทก์. ผลกำไรดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นกำไรสุทธิประจำแต่ละปีหรือกำไรที่สะสมไว้ล้วนเป็นผลอันได้มาจากการประกอบกิจการของโรงพิมพ์ซึ่งอาจเป็นเงินสดหรือทรัพย์สินอื่น.มิใช่ดอกผลธรรมดาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากแม่ทรัพย์เพราะเหตุที่ได้ใช้แม่ทรัพย์นั้น. ทั้งมิใช่ดอกผลนิตินัยเพราะหาใช่ทรัพย์ที่ได้เป็นครั้งคราวจากผู้อื่นเพื่อตอบแทนการที่ได้ใช้แม่ทรัพย์นั้นไม่. ผลกำไรดังกล่าวจึงมิใช่ดอกผลตกได้แก่กรมโจทก์ แต่ย่อมจะตกแก่โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นเจ้าของกิจการนั้น. ในการดำเนินกิจการโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินกิจการโรงพิมพ์ขึ้น 2 คณะ คือ. คณะกรรมการบริหารมีอำนาจควบคุมดูแลรับผิดชอบทั่วไปในกิจการของโรงพิมพ์. กำหนดนโยบายออกกฎข้อบังคับ ระเบียบการ และคำสั่งในการดำเนินงาน.กับคณะกรรมการดำเนินงาน มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามนโยบาย กฎข้อบังคับ ระเบียบการ และคำสั่งที่คณะกรรมการบริหารได้กำหนดและวางไว้. มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร และอธิบดีกรมโจทก์เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินงาน. คณะกรรมการทั้งสองคณะส่วนใหญ่เป็นกรรมการที่แต่งตั้งตามตำแหน่งหน้าที่ราชการ. จำเลยทั้งสิบเก้าสำนวนเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดกรมโจทก์ โดยได้รับเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดิน และช่วยปฏิบัติงานในโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น. โรงพิมพ์ดังกล่าวดำเนินการค้าหากำไรเงินรายได้และผลกำไรของโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นที่ได้มาจากการดำเนินกิจการไม่เคยมีการนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน.คณะกรรมการดำเนินงานโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นได้มีมติให้จัดสรรเงินผลกำไรสุทธิของโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นส่วนหนึ่งเป็นเงินรางวัลแก่ข้าราชการที่ช่วยปฏิบัติงาน. ซึ่งจำเลยทั้งสิบเก้าสำนวนได้รับเงินดังกล่าวไปตามระเบียบของโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นและการจ่ายเงินแก่จำเลยก็ได้จ่ายตามระเบียบที่วางไว้เช่นกัน.ดังนี้การที่คณะกรรมการดำเนินงานซึ่งได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อันเป็นการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนมีอำนาจจัดการโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นแทนเจ้าของกิจการซึ่งเป็นตัวการ. ได้ลงมติให้จัดสรรเงินผลกำไรสุทธิของโรงพิมพ์ดังกล่าวซึ่งเป็นการกระทำตามระเบียบที่กรมโจทก์ยินยอมให้ถือปฏิบัติ. ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนที่ได้รับมอบหมายโดยชอบ. การกระทำของคณะกรรมการดำเนินงานโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์. การที่จำเลยทั้งสิบเก้าสำนวนได้รับเงินไปจากโรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่นเพื่อเป็นรางวัลตอบแทนการปฏิบัติงานย่อมมิใช่รับไปโดยไม่มีสิทธิและไม่ชอบด้วยกฎหมาย. โจทก์จึงจะฟ้องให้จำเลยคืนเงินแก่โจทก์หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกจ้างถูกยิงถึงแก่ความตายขณะปฏิบัติหน้าที่ยาม ถือเป็นการประสบอันตรายจากการทำงาน
ลูกจ้างถูกยิงถึงแก่ความตายขณะปฏิบัติหน้าที่ยามในเวลากลางคืน ณ สถานที่กองเก็บทรัพย์สินของนายจ้าง พฤติการณ์ส่อไปในทางถูกยิงเพราะปฏิบัติหน้าที่นั่นเอง เมื่อไม่ได้ความว่าการที่ถูกยิงมาจากเหตุส่วนตัวหรือเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน จึงถือได้ว่าลูกจ้างประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกจ้างประสบอันตรายจากการทำงาน แม้ถูกยิงขณะพัก แต่ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่
ลูกจ้างถูกยิงถึงแก่ความตายขณะปฏิบัติหน้าที่ยามในเวลากลางคืนณ สถานที่กองเก็บทรัพย์สินของนายจ้างพฤติการณ์ส่อไปในทางถูกยิงเพราะปฏิบัติหน้าที่นั่นเองเมื่อไม่ได้ความว่าการที่ถูกยิงมาจากเหตุส่วนตัวหรือเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการทำงานจึงถือได้ว่าลูกจ้างประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3090/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าเจ้าพนักงานต้องกระทำขณะปฏิบัติหน้าที่ หากเจ้าพนักงานไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ขณะถูกทำร้าย ไม่ถือเป็นความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงาน
กรณีจะเป็นความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(2) นั้น ต้องเป็นกรณีฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกำลังกระทำการตามหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้ตายมีหน้าที่เป็นสิบเวร และกำลังดูโทรทัศน์อยู่ในเต็นท์พักผ่อนขณะจำเลยกับพวกเข้ามาทำร้ายและฆ่า ผู้ตายมิได้กำลังกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดตามหน้าที่ ไม่เป็นการฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2780/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: เล็งเห็นผลถึงความตายได้
จำเลยจ้องปืนมาทางจ่าสิบตำรวจ น. กับพวกแล้วก็มี เสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากทางด้านจำเลย ซึ่งจำเลยจะ ต้องเป็นผู้ยิงเพราะพวกของจำเลยไม่มีปืน แม้กระสุนปืนที่จำเลยยิงจะไม่ถูกใคร แต่การที่จำเลยยิงปืนมาทางจ่าสิบตำรวจ น. กับพวก จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นได้ว่าอาจเป็นเหตุให้จ่าสิบตำรวจ น.กับพวกคนใดคนหนึ่งหรือ หลายคนถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2480/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหน้าที่เวนคืนทำตามหน้าที่ภายใต้กฎหมาย ไม่ถือเป็นการปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ
จำเลยเป็นผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ การที่จำเลยนำเรื่องการจ่ายเงินค่าทดแทนการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์กับคณะกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เสนอปรึกษาหารือคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย แล้วรอการจ่ายเงินค่าทดแทนบางส่วนของโจทก์ไว้ตามมติของคณะกรรมการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ย่อมเป็นการกระทำตามหน้าที่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลทุ่งสุขลา ฯ พ.ศ. 2521 และพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มิได้เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์และไม่เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต จึงไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2480/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์: การเสนอเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาไม่ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
จำเลยเป็นผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทยและเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ การที่จำเลยนำเรื่องการจ่ายเงินทดแทนการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์กับคณะกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เสนอปรึกษาหารือคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย แล้วรอการจ่ายเงินทดแทนบางส่วนของโจทก์ไว้ตามมติของคณะกรรมการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ย่อมเป็นการกระทำตามหน้าที่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลทุ่งสุขลาฯพ.ศ.2521 และพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494มิได้เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์และไม่เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต จึงไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2390/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่แม้ไม่ได้แสดงตัวชัดเจน การให้เงินเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมเป็นความผิด
จ่าสิบตำรวจป.รับราชการเป็นตำรวจซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย ย่อมเป็นเจ้าพนักงานแม้ขณะเกิดเหตุจะถูกส่งตัวไปช่วยราชการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน มีตำแหน่งหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดคุ้มครองตำบลปากหมัน มีหน้าที่คุ้มครองหมู่บ้านและตำบลป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์และก่อการร้ายก็เป็นเพียงหน้าที่เฉพาะตามคำสั่งแต่งตั้งของทางราชการ แต่โดยทั่วไปจ่าสิบตำรวจป.ยังมีอำนาจสืบสวนคดีอาญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 17 การที่ จ่าสิบตำรวจป.มายังที่เกิดเหตุเพื่อจะจับกุมผู้กระทำความผิดฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครอง จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายเมื่อจำเลยได้ให้เงินจำนวนหนึ่งแก่จ่าสิบตำรวจป.เพื่อจูงใจมิให้จับกุมจำเลยกับพวกในข้อหามีกัญชาไว้ในความครอบครองการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144. แม้จ่าสิบตำรวจป.ยังมิได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน หรือแสดงความประสงค์ที่จะเข้าทำการตรวจค้นหรือจับกุมจำเลยกับพวก หรือมิได้แต่งเครื่องแบบก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2390/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่แม้ไม่ได้แสดงตัวชัดเจน การให้สินบนเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมเป็นความผิด
จ่าสิบตำรวจป.รับราชการเป็นตำรวจซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย ย่อมเป็นเจ้าพนักงานแม้ขณะเกิดเหตุจะถูกส่งตัวไปช่วยราชการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน มีตำแหน่งหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดคุ้มครองตำบลปากหมันมีหน้าที่คุ้มครองหมู่บ้านและตำบลป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์และก่อการร้าย ก็เป็นเพียงหน้าที่เฉพาะตามคำสั่งแต่งตั้งของทางราชการ แต่โดยทั่วไปจ่าสิบตำรวจป.ยังมีอำนาจสืบสวนคดีอาญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 17 การที่ จ่าสิบตำรวจป.มายังที่เกิดเหตุเพื่อจะจับกุมผู้กระทำความผิดฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครอง จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมาย เมื่อจำเลยได้ให้เงินจำนวนหนึ่งแก่จ่าสิบตำรวจป.เพื่อจูงใจมิให้จับกุมจำเลยกับพวกในข้อหามีกัญชาไว้ในความครอบครองการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144. แม้จ่าสิบตำรวจป.ยังมิได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน หรือแสดงความประสงค์ที่จะเข้าทำการตรวจค้นหรือจับกุมจำเลยกับพวก หรือมิได้แต่งเครื่องแบบก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวหาเท็จใส่ร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย
ผู้เสียหายจับกุมผู้ขับรถยนต์บรรทุกสินค้าควบคุมออกนอกเขตควบคุมโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยมาดูของกลางแล้วพูดว่าของเหล่านี้ตำรวจคุมมาเองแล้วยังจับกุมผู้เสียหายถามว่าตำรวจที่คุมเป็นใคร จำเลยชี้หน้าผู้เสียหายและพูดว่ามึงนั่นแหละเป็นคนนั่งคุมที่หน้ารถไปแล้วมาจับกุม ดังนี้ เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่าผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังรถยนต์ที่บรรทุกของไป หาได้นั่งคุมที่หน้ารถยนต์ไม่ และผู้เสียหายก็ได้จับกุมผู้กระทำผิดตามหน้าที่ ข้อความที่จำเลยกล่าวจึงไม่เป็นความจริง ถือได้ว่าจำเลยกล่าวโดยเจตนาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ไม่ต้องพิจารณาว่าจำเลยกล่าวข้อความดังกล่าวโดยสุจริตหรือไม่