พบผลลัพธ์ทั้งหมด 280 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี แม้จำเลยปฏิเสธในชั้นศาล หากมีพยานหลักฐานยืนยันความผิด
คดีฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 66 วรรคสอง ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตนั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพศาลยังต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 กรณีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องหาพยานหลักฐานมาแสดงต่อศาลจนเป็นที่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิด เมื่อศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐานต่างๆของโจทก์ประกอบกับคำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยจนเป็นที่แน่ใจว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริง คำรับสารภาพของจำเลยจึงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลซึ่งถือเป็นเหตุบรรเทาโทษตามกฎหมาย และแม้จะเป็นคดีเกี่ยวกับเฮโรอีนซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษร้ายแรง จำเลยก็ยังสมควรได้รับประโยชน์จากเหตุบรรเทาโทษดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4003/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีออกจากสารบบความเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีแล้ว ทำให้ไม่มีประโยชน์ในการวินิจฉัยฎีกา
การที่โจทก์ฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่สั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบทรัพย์มรดกของนางสาวผ.ให้แก่โจทก์ เมื่อปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยปัญหาที่โจทก์ฎีกาต่อไป ศาลฎีกาย่อมมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3825/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาบัญชีเดินสะพัดและการรับชำระหนี้หลังบอกเลิกสัญญา ไม่ถือเป็นการสละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลา
โจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาบัญชีเดินสะพัดและหักทอนบัญชีเดินสะพัดกับจำเลยแล้ว หลังจากนั้นจำเลยนำเงินไปชำระหนี้ให้โจทก์อีกจะด้วยวิธีใดก็ตาม ก็ไม่ทำให้บัญชีเดินสะพัดที่โจทก์บอกเลิกแล้วกลับคงเดินสะพัดต่อไปและการที่โจทก์รับชำระหนี้จากจำเลยหลังจากที่บอกเลิกสัญญาแล้ว ก็หาใช่เป็นการสละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาหรือผ่อนเวลาชำระหนี้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3470-3479/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่เวนคืนยังเป็นสาธารณสมบัติแผ่นดิน แม้ยังมิได้ใช้ประโยชน์ โจทก์มีอำนาจฟ้อง
เมื่อที่พิพาทยังมิได้มีพระราชบัญญัติเพิกถอนการเวนคืนจึงยังคงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเลยไม่อาจยกอายุความขึ้นต่อสู้กับแผ่นดินได้แม้ทางราชการยังมิได้นำที่พิพาทไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ ในการเวนคืน จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะครอบครองปรปักษ์
แม้พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุจะบัญญัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท แต่เมื่อมีพระราชบัญญัติเวนคืนฯ ให้เวนคืนที่พิพาทแก่กรมทางหลวง กรมทางหลวงจึงเป็นผู้ครอบครองดูแลที่พิพาทโดยตรง และมีอำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับที่พิพาทได้
แม้พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุจะบัญญัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท แต่เมื่อมีพระราชบัญญัติเวนคืนฯ ให้เวนคืนที่พิพาทแก่กรมทางหลวง กรมทางหลวงจึงเป็นผู้ครอบครองดูแลที่พิพาทโดยตรง และมีอำนาจฟ้องคดีเกี่ยวกับที่พิพาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอทุเลาการบังคับคดี vs. การขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา และเหตุผลที่ไม่มีประโยชน์ในการคุ้มครองลูกหนี้
ในชั้นบังคับคดีศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้ตามคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ จำเลยฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี ดังนี้การที่จำเลยร้องขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลอุทธรณ์หรือฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับ หาใช่เป็นเรื่องขอทุเลาการบังคับคดีไม่ แต่เป็นการร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 จำเลยจึงไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 228(2),247 จำเลยเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้อง แม้ในที่สุดศาลอุทธรณ์จะพิพากษาไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์จำเลยก็จะไม่ได้ประโยชน์แต่ประการใด เพราะโจทก์ก็จะเป็นผู้ได้รับเงินซึ่งได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ไปแต่ผู้เดียวจึงไม่มีประโยชน์ที่จะกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยไว้ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1558/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีและเหตุอันควรปราณี ลดโทษอาญาได้
คดีไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะเกิดเหตุฆ่าผู้ตาย แต่จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพและนำชี้ที่เกิดเหตุ จึงทำให้พนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน เช่น อาวุธปืนที่ใช้ยิงผู้ตายและรถจักรยานยนต์ที่จำเลยใช้เป็นพาหนะในการกระทำผิดได้คำรับสารภาพของจำเลยทั้งสามจึงถือได้ว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอย่างมาก นับว่าเป็นเหตุอันควรปราณีแก่จำเลยทั้งสามได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจากความผิดอาญาฐานฆ่าผู้อื่น เนื่องจากจำเลยมอบตัวและให้การเป็นประโยชน์
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายต่อหน้าสาธารณชนในร้านอาหารประจักษ์พยานของโจทก์หลายคนต่างก็รู้จักจำเลยเป็นอย่างดีข้อเท็จจริงจากการนำสืบของโจทก์ฟังได้ว่า จำเลยกระทำผิดจริงเมื่อถูกฟ้องจำเลยจึงให้การรับสารภาพแสดงให้เห็นว่าจำเลยให้การรับสารภาพเพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน อย่างไรก็ดีหลังจากเกิดเหตุแล้ว จำเลยได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ให้การรับสารภาพและนำชี้ที่เกิดเหตุให้พนักงานสอบสวนทำแผนที่เกิดเหตุและถ่ายภาพไว้ ถือได้ว่าเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78ลดโทษให้หนึ่งในสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3087/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประโยชน์จาก พรบ.ล้างมลทิน ส่งผลต่อการเพิ่มโทษจำเลยในคดีชิงทรัพย์ แม้เคยต้องโทษมาก่อน
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองฐานชิงทรัพย์ จำคุกคนละ10 ปี เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 หนึ่งในสามเป็นจำคุก 13 ปี 4 เดือน เพิ่มโทษจำเลยที่ 2 ตามมาตรา 93 กึ่งหนึ่งเป็นจำคุก 15 ปีจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 7 ปี 6 เดือนจำเลยที่ 1 อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกาปรากฏว่าจำเลยทั้งสองพ้นโทษในคดีก่อนที่เป็นเหตุเพิ่มโทษก่อนวันที่ 6 เมษายน 2525 ไปแล้ว จึงได้รับประโยชน์จากพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ.2526 ถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่เคยถูกลงโทษในความผิดนั้นมาก่อน และเหตุดังกล่าวเป็นเหตุในลักษณะคดีมีผลไปถึงจำเลยที่ 2 ที่ไม่มีฝ่ายใดฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 จึงเพิ่มโทษจำเลยทั้งสองไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3087/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประโยชน์จาก พรบ.ล้างมลทิน ทำให้จำเลยไม่ต้องรับโทษเพิ่มจากประวัติอาชญากรรมเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองฐานชิงทรัพย์ จำคุกคนละ10 ปี เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 หนึ่งในสามเป็นจำคุก 13 ปี 4 เดือน เพิ่มโทษจำเลยที่ 2 ตามมาตรา 93กึ่งหนึ่งเป็นจำคุก 15 ปีจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2มีกำหนด 7 ปี 6 เดือนจำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกาปรากฏว่าจำเลยทั้งสองพ้นโทษในคดีก่อนที่เป็นเหตุเพิ่มโทษก่อนวันที่ 6 เมษายน 2525ไปแล้วจึงได้รับประโยชน์จากพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์200ปีพ.ศ.2526 ถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่เคยถูกลงโทษในความผิดนั้นมาก่อนและเหตุดังกล่าวเป็นเหตุในลักษณะคดีมีผลไปถึงจำเลยที่ 2 ที่ไม่มีฝ่ายใดฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 จึงเพิ่มโทษจำเลยทั้งสองไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2749/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตในการลักทรัพย์ - การกระทำเพื่อประโยชน์ของผู้เสียหาย
จำเลยกับผู้เสียหายได้เสียเป็นสามีภริยากันผู้เสียหายไปนอนที่บ้านจำเลยบ้างนอนที่บ้านบิดาบ้างถ้าจำเลยให้ไปนอนผู้เสียหายก็ไปแต่บางครั้งผู้เสียหายก็หลบไม่ไปนอนวันเกิดเหตุจำเลยให้ผู้เสียหายไปหาจำเลยแต่ผู้เสียหายไม่ไปและจำเลยมาพบรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายจอดทิ้งไว้จึงนำรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายไปเก็บไว้ที่บ้านจำเลยเพื่อให้ผู้เสียหายไปพบจำเลยดังนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยเอารถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายไปโดยเจตนาทุจริตการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์.