คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปลอมเอกสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 284 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5969/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารราชการโดยเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน ความรับผิดฐานตัวการ แม้ไม่มีพยานรู้เห็นโดยตรง
หนังสือรับรองราคาที่ดิน ที่เจ้าพนักงานที่ดินออกให้เป็นเอกสาร ซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำขึ้นหรือรับรองในหน้าที่ จึงเป็นเอกสารราชการ
จำเลยที่ 2 เป็นตัวการจัดให้มีการทำปลอมหนังสือรับรองราคาที่ดิน แล้วมอบให้จำเลยที่ 1 เพื่อนำไปใช้เป็นหลักประกันใน การยื่นคำร้อง ขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาต่อศาล จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดฐานปลอมเอกสารราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อแชชซีรถยนต์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวอักษร/ตัวเลข ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร
การที่จำเลยตัดเลขหมายประจำแชชซีรถยนต์คันสีแดงออกแล้วตัดเอาหมายเลขประจำแชชซีของรถยนต์คันสีฟ้ามาเชื่อมต่อไว้แทน เมื่อหมายเลขประจำแชชซีรถยนต์คันสีฟ้าเป็นหมายเลขประจำรถยนต์ที่แท้จริง แม้จะนำมาติดกับรถยนต์คันอื่นแต่ไม่มีการขูดลบแก้ไข เปลี่ยนแปลงตัวอักษร หรือตัวเลขหมายแต่อย่างใด จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารเพราะความผิดฐานปลอมเอกสารนั้นจะต้องมีการปลอมแปลงเอกสารขึ้นทั้งฉบับหรือแต่บางส่วน หรือกระทำให้ข้อความหรือความหมายในเอกสารที่แท้จริงเปลี่ยนแปลงไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อแชชซีรถยนต์โดยไม่แก้ไขตัวเลข ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร
การที่จำเลยตัดเอาแผ่นโลหะที่มีเลขหมายประจำแชชซี ของรถยนต์คันหนึ่งมาต่อเชื่อมแทนที่เลขหมายประจำแชชซี ของรถยนต์อีกคันหนึ่งซึ่งจำเลยตัดออก เป็นการนำหมายเลขแชชซี ประจำรถยนต์ที่แท้จริงไปติดกับรถยนต์คันอื่น โดยไม่มีการขูดลบแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวอักษรตัวเลขหมายประจำแชชซี แต่อย่างใด ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อแชชซีรถยนต์ที่ไม่เข้าข่ายปลอมเอกสาร แม้จะมีการเปลี่ยนแชชซี แต่ไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวอักษรหรือตัวเลข
การที่จำเลยตัดเลขหมายประจำแชชซีรถยนต์คันสีแดงออกแล้วตัดเอาหมายเลขประจำแชชซีของรถยนต์คันสีฟ้ามาเชื่อมต่อไว้แทน เมื่อหมายเลขประจำแชชซีรถยนต์คันสีฟ้าเป็นหมายเลขประจำรถยนต์ที่แท้จริง แม้จะนำมาติดกับรถยนต์คันอื่นแต่ไม่มีการขูดลบแก้ไข เปลี่ยนแปลงตัวอักษร หรือตัวเลขหมายแต่อย่างใดจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารเพราะความผิดฐานปลอมเอกสารนั้นจะต้องมีการปลอมแปลงเอกสารขึ้นทั้งฉบับหรือแต่บางส่วน หรือกระทำให้ข้อความหรือความหมายในเอกสารที่แท้จริงเปลี่ยนแปลงไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3121/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมและใช้เอกสารราชการหลายฉบับเป็นความผิดหลายกระทง แม้ใช้ในคราวเดียวกัน และการทำปลอมรอยตราเจ้าพนักงาน
จำเลยปลอมบัตรประจำตัวประชาชน ใบสำคัญทะเบียนทหารและสำเนาทะเบียนคนเกิดซึ่งเป็นเอกสารราชการ แม้จำเลยนำเอกสารปลอมทั้ง3 ฉบับไปใช้ในคราวเดียวกันก็เป็นการใช้เอกสารคนละประเภทกันจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้เอกสารปลอมรวม 3 กระทงและลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้ใช้แต่ละกระทงที่ปลอมตาม ป.อ. มาตรา 268 วรรคสองแต่การที่จำเลยปลอมและใช้ใบสำคัญทะเบียนทหารปลอมนั้น จำเลยได้ทำปลอมรอยตรา ของเจ้าพนักงานและประทับรอยตรา ปลอมนั้นลงในเอกสารดังกล่าว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานทำและใช้รอยตรา ปลอมตามมาตรา 251,252 ด้วย จึงลงโทษจำเลยตามมาตรา 251 ได้เพียงกระทงเดียวตามมาตรา 263 การที่จำเลยปลอมและใช้สำเนาทะเบียนคนเกิดปลอมนั้น จำเลยได้ประทับรอยตรา ปลอมด้วยจึงเป็นความผิดตามมาตรา 252ด้วย อันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามมาตรา 252อันเป็นบทหนักที่สุดตามมาตรา 90.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3960/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสาร: การลงโทษบทที่ถูกต้องเมื่อจำเลยมีฐานะทั้งผู้ก่อและตัวการร่วม
คดีที่ฎีกาได้แต่เฉพาะข้อกฎหมาย ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนั้น ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222
บัตรประจำตัวประชาชนของกลางเป็นเอกสารปลอมเกิดขึ้น เพราะจำเลยเป็นผู้ดำเนินเรื่องโดยจำเลยเป็นต้นตอและให้ความร่วมมือ จำเลยจึงอยู่ในฐานะทั้งผู้ก่อและร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารดังกล่าว ดังนี้จำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นปลอมเอกสารและเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารนั้นด้วย ความผิดฐานก่อให้ผู้อื่นปลอมเอกสารจึงเกลื่อนกลืนเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นปลอมเอกสาร ศาลฎีกาลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นปลอมเอกสารแต่เพียงบทเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3960/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยฐานปลอมเอกสาร ศาลฎีกาแก้ไขบทลงโทษให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย
คดีที่ฎีกาได้แต่เฉพาะข้อกฎหมาย ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนั้น ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจาก พยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222
บัตรประจำตัวประชาชนของกลางเป็นเอกสารปลอมเกิดขึ้นเพราะจำเลย เป็นผู้ดำเนินเรื่องโดยจำเลยเป็นต้นตอและให้ความร่วมมือ จำเลย จึงอยู่ในฐานะทั้งผู้ก่อและร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารดังกล่าว ดังนี้จำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นปลอมเอกสารและเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารนั้นด้วย ความผิดฐานก่อให้ผู้อื่นปลอมเอกสารจึงเกลื่อนกลืนเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวกับความผิด ฐานเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นปลอมเอกสารศาลฎีกาลงโทษจำเลยฐานเป็น ตัวการร่วมกับผู้อื่นปลอมเอกสารแต่เพียงบทเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3960/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานปลอมเอกสาร: ศาลฎีกาแก้ไขบทลงโทษให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย
คดีที่ฎีกาได้แต่เฉพาะข้อกฎหมายในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนั้นศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา222 บัตรประจำตัวประชาชนของกลางเป็นเอกสารปลอมเกิดขึ้นเพราะจำเลยเป็นผู้ดำเนินเรื่องโดยจำเลยเป็นต้นตอและให้ความร่วมมือจำเลยจึงอยู่ในฐานะทั้งผู้ก่อและร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารดังกล่าวดังนี้จำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นปลอมเอกสารและเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารนั้นด้วยความผิดฐานก่อให้ผู้อื่นปลอมเอกสารจึงเกลื่อนกลืนเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นปลอมเอกสารศาลฎีกาลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นปลอมเอกสารแต่เพียงบทเดียว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3942/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมและใช้เอกสารปลอม: การพิจารณาความผิดกรรมเดียว vs. หลายกรรม และการลดโทษตามกฎหมาย
คดีจะต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาตามฐานความผิดเป็นกระทง ๆ ไป เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยแต่ละกระทงจำคุกไม่เกิน 5 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีจึงต้องฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
จำเลยปลอมหนังสือเดินทางซึ่งเป็นเอกสารราชการของกระทรวงต่างประเทศ และจำเลยได้ทำปลอมขึ้นซึ่งรอยตราของสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำกรุงเบรุตประเทศเลบานอน แล้วประทับรอยตราปลอมดังกล่าวลงในหนังสือเดินทางที่จำเลยปลอมขึ้น อันเป็นการปลอมหนังสือเดินทางทั้งฉบับให้สำเร็จบริบูรณ์ดังเจตนาของจำเลย การกระทำของจำเลยในส่วนนี้จึงเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท คือมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 กับมาตรา 251 กระทงหนึ่ง ต่อมาเมื่อจำเลยนำหนังสือเดินทางที่จำเลยทำปลอมขึ้นและมีรอยตราปลอมประทับดังกล่าวไปใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อตรวจประทับตราเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรและเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร รวม 3 ครั้ง แม้จะเป็นการใช้ในลักษณะเดียวกัน แต่ก็เป็นการใช้คนละเวลาคนละครั้งต่างกรรมกัน การกระทำของจำเลยในส่วนนี้จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคแรกประกอบด้วยมาตรา 265 และมาตรา 251 ประกอบด้วยมาตรา 252 แต่เนื่องจากมาตรา 263 บัญญัติว่าถ้าผู้กระทำผิดตามมาตรา 251 ได้กระทำผิดตามมาตรา 252 ด้วยให้ลงตามมาตรา 251 กระทงเดียว ดังนั้นเมื่อจำเลยเป็นผู้ทำรอยตราปลอมอันเป็นความผิดตามมาตรา 251 และได้ใช้รอยตราปลอมนั้นอันเป็นความผิดตามมาตรา 252 รวม 3 ครั้ง ในการใช้ครั้งแรกจำเลยทำรอยตราปลอมและใช้รอยตราปลอมด้วย จึงมีความผิดตามมาตรา 251 ประกอบด้วยมาตรา 263 กระทงหนึ่ง แต่ในการใช้ครั้งที่สองและครั้งที่สามจำเลยมิได้ปลอมรอยตราขึ้นอีก คงใช้รอยตราปลอมอันเก่านั้นเอง จึงมีความผิดฐานใช้รอยตราปลอมอย่างเดียวตามมาตรา 252 อีก 2 กระทง รวมทั้งสิ้น 3 กระทง ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ขึ้นมา ศาลฎีกาก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ (หมายเหตุ วรรค 2 วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2529)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3835/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารทางการและใช้เอกสารปลอมเพื่อการเดินทางเข้า-ออกประเทศ
จำเลยปลอมหนังสือเดินทางของประเทศสิงคโปร์และปลอมเอกสารราชการของเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยประทับรอยตราและบันทึกข้อความอนุญาตให้จำเลยเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรลงในหนังสือเดินทางที่จำเลยทำปลอมขึ้นเพื่อให้มีรายการครบถ้วนจะได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและอยู่ในราชอาณาจักรได้อันเป็นการกระทำครั้งเดียวการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทต้องลงโทษฐานปลอมเอกสารราชการของเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา90แต่จำเลยได้นำหนังสือเดินทางและเอกสารราชการของเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่จำเลยปลอมขึ้นดังกล่าวไปใช้ด้วยจึงต้องลงโทษฐานใช้เอกสารราชการของเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองปลอมแต่กระทงเดียวตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา268วรรค2.
of 29