คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้ขนส่ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 186 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5128/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้ขนส่งทางทะเลสิ้นสุดเมื่อส่งมอบสินค้าที่ท่าเรือปลายทาง แม้สินค้าเสียหายจากเหตุสุดวิสัยในโกดัง
จำเลยรับขนสินค้าพิพาทจากประเทศสหรัฐอเมริกามายังประเทศไทยก่อนเรือเข้าเทียบท่าจำเลยได้ประกาศทาง หนังสือพิมพ์กำหนดวันเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบเพื่อจะได้นำใบตราส่งมาแลกใบปล่อยสินค้าแล้ว ครั้นเรือเข้าเทียบท่า จำเลยทั้งสองได้ขนถ่ายสินค้าดังกล่าวเข้าเก็บในโกดังของการท่าเรือแห่งประเทศไทยแล้ว ถือว่าจำเลยได้ขนส่งสินค้าถึงท่าเรือปลายทางแล้ว หน้าที่การขนส่งสินค้าของจำเลยจึงสิ้นสุดลง การที่ไฟไหม้โกดังสินค้าและสินค้าดังกล่าวเสียหาย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5128/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดภาระหน้าที่ของผู้ขนส่งสินค้าเมื่อส่งมอบสินค้าให้ท่าเรือปลายทาง และข้อยกเว้นความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
จำเลยรับขนสินค้าพิพาทจากประเทศสหรัฐอเมริกามายังประเทศไทย ก่อนเรือเข้าเทียบท่าจำเลยได้ประกาศทางหนังสือพิมพ์กำหนดวันเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบเพื่อจะได้นำใบตราส่งมาแลกใบปล่อยสินค้า ครั้นเรือเข้าเทียบท่า จำเลยทั้งสองได้ขนถ่ายสินค้าดังกล่าวเข้าเก็บในโกดังของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ถือว่าจำเลยได้ขนส่งสินค้าถึงท่าเรือปลายทางแล้ว หน้าที่การขนส่งสินค้าของจำเลยจึงสิ้นสุดลง การที่ไฟไหม้โกดังสินค้าและสินค้าดังกล่าวเสียหาย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 616

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3776/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ขนส่งมีหน้าที่รับผิดชอบความเสียหายของสินค้า เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัย
จำเลยมิได้ให้การโดยชัดแจ้งว่า การกระทำต่าง ๆ ของจำเลยเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของบริษัท ฟ. ซึ่งอยู่ต่างประเทศไม่มีประเด็นที่ศาลชั้นต้นจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำการต่าง ๆในประเทศไทยในฐานะตัวแทนของบริษัทฟ. หรือไม่ จึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะไม่รับวินิจฉัยให้ จำเลยมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการขนส่ง บริษัทฟ.ซึ่งเป็นผู้ขนส่งไม่มีสำนักงานสาขาในประเทศไทย แต่ได้มอบหมายให้จำเลยเป็นผู้ดำเนินการติดต่อกับหน่วยราชการต่าง ๆ ในประเทศไทยเพื่อนำเรือบรรทุกสินค้าของบริษัทฟ. เข้าออกท่าเรือกรุงเทพ ขนสินค้าลงจากเรือและแจ้งการมาถึงของเรือให้เจ้าของสินค้าหรือผู้รับตราส่งทราบ ตลอดจนออกใบปล่อยสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งไปรับสินค้าออกจากท่าเรือ เมื่อปรากฏว่า จำเลยได้แจ้งวันที่เรือสินค้าจะมาถึงท่าเรือกรุงเทพให้ผู้รับตราส่งทราบ เป็นผู้ขออนุมัตินำเรือเข้าเทียบท่าและแจ้งหน่วยราชการต่าง ๆ เกี่ยวกับการขออนุญาตเปิดระวางเรือและขนถ่ายสินค้า ขอเช่าเครื่องมืออุปกรณ์การขนถ่ายสินค้า รับคืนใบตราส่งแลกกับใบปล่อยสินค้า และเพื่อให้ผู้รับตราส่งนำไปขอรับสินค้าจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยมิฉะนั้นจะรับสินค้าไม่ได้ การดำเนินงานของจำเลยในช่วงนี้เป็นขั้นตอนสำคัญของการขนส่งอันจะทำให้สินค้าที่ขนส่งมาถึงผู้รับตราส่ง และจะขาดช่วยนี้เสียมิได้ มิฉะนั้นการขนส่งจะชะงักนอกจากนี้เมื่อผู้ส่งยังไม่ได้ชำระค่าระวางในการขนส่งโดยให้มาเก็บค่าระวางปลายทาง จำเลยก็มีสิทธิเก็บค่าระวางขนส่งเสียก่อนที่จะออกใบปล่อยสินค้าให้ผู้รับตราส่ง ส่วนบุคคลผู้ที่ขนถ่ายสินค้าลงจากเรือไม่ว่าจำเลยจะใช้พนักงานของจำเลยหรือผู้อื่นทำการขนถ่ายก็ต้องอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยซึ่งเป็นเรื่องวิธีดำเนินการค้าระหว่างบริษัทฟ. กับจำเลยโดยจำเลยได้รับบำเหน็จจากทางการค้าตามปกติของตน จึงถือว่าจำเลยเป็นผู้ทำการขนส่ง นอกจากจำเลยจะดำเนินการดังกล่าวแก่สินค้าขาเข้าแล้ว จำเลยยังดำเนินการเกี่ยวกับการขนสินค้าขาออกจากประเทศไทยให้แก่บริษัทฟ. ด้วย พฤติการณ์ที่จำเลยเข้าเกี่ยวข้องดำเนินงานดังกล่าวเป็นลักษณะร่วมประกอบธุรกิจขนส่งด้วยกันอันเป็นการขนส่งหลายทอดตามวิธีการขนส่งทางทะเลโดยจำเลยเป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้าย จำเลยจึงต้องร่วมรับผิดในการสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าที่ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 จำเลยให้การว่า ผู้ส่งทำการบรรจุหีบห่อสินค้าไม่ดี เมื่อสินค้าสูญหายไปในระหว่างขนส่ง ผู้ส่งจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบบริษัทฟ. ผู้ขนส่งหรือจำเลยไม่ต้องรับผิด แต่จำเลยอุทธรณ์ว่าการซื้อขายสินค้าพิพาทเป็นการซื้อขายระบบซีแอนด์เอฟซึ่งสิทธิทั้งหลายจะตกแก่ผู้รับตราส่งเมื่อของหรือสินค้าได้ถึงตำบลที่กำหนดให้ส่งและผู้รับตราส่งได้เรียกให้ส่งมอบของหรือสินค้าแล้ว แต่ปรากฏว่าสินค้าพิพาทสูญหายก่อนส่งมอบให้แก่ผู้รับตราส่งจึงเป็นเรื่องที่ผู้ส่งจะต้องไปว่ากล่าวกับผู้ขนส่งผู้รับตราส่งยังไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ขนส่ง เช่นนี้เห็นได้ชัดว่าข้ออุทธรณ์ของจำเลยไม่ตรงกับที่จำเลยให้การไว้ จึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะไม่รับวินิจฉัยให้ ภาระการพิสูจน์ว่าสินค้าที่ขนส่งสูญหายไปเพราะสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 ตกแก่ผู้ขนส่งแม้จะปรากฏว่าขณะเรือบรรทุกสินค้ารายพิพาทมาได้ถูกมุรสมอย่างรุนแรงระหว่างทางก็ตาม แต่ผู้ขนส่งไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาแสดงให้เห็นว่า หีบที่บรรจุสินค้ารายพิพาทได้แตกและสินค้าได้สูญหายไปเพราะเรือโดนมรสุมดังกล่าว และไม่มีพยานยืนยันแน่ชัดว่าหีบที่บรรจุสินค้าพิพาทแตกชำรุดขณะใด จึงยังถือไม่ได้ว่าสินค้าพิพาทได้สูญหายไปเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ผู้ขนส่งต้องรับผิดเพื่อความสูญหายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3514/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งหลายทอดเมื่อสินค้าสูญหายระหว่างการขนส่ง
การที่จำเลยที่ 1 รับจ้างขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังเมืองซานโจ่อันประเทศปัวโตริโก้ โดยจำเลยที่ 1 จัดหารถบรรทุกไปขนสินค้าจากโรงงานของผู้ว่าจ้างไปยังสนามบินกรุงเทพ แล้วว่าจ้างจำเลยที่ 2 ขนส่งสินค้านั้นทางอากาศต่อไปอีกทอดหนึ่งเพื่อส่งมอบแก่บริษัทกวนแอนด์นาเกล จำกัด เมืองนิวยอร์ก และบริษัทควนแอนด์นาเกล จำกัด รับสินค้าและดำเนินการให้บริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ จำกัด ขนส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ดังนี้ ถือเป็นการขนส่งหลายคนหลายทอด เมื่อสินค้าสูญหายไปในการขนส่งช่วงสุดท้าย จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618
( ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2531 )

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3514/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งหลายทอด: ผู้ขนส่งร่วมรับผิดชอบความเสียหายจากการสูญหายของสินค้า
การที่จำเลยที่ 1 รับจ้างขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังเมืองซานโจอันประเทศปัวโตริโก้ โดยจำเลยที่ 1 จัดหารถบรรทุกไปขนสินค้าจากโรงงานของผู้ว่าจ้างไปยังสนามบินกรุงเทพ แล้วว่าจ้างจำเลยที่ 2 ขนส่งสินค้านั้นทางอากาศต่อไปอีกทอดหนึ่งเพื่อส่งมอบแก่บริษัทควนแอนด์นาเกล จำกัด เมืองนิวยอร์ก และบริษัทควนแอนด์นาเกล จำกัด รับสินค้าและดำเนินการให้บริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ จำกัด ขนส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ดังนี้ถือเป็นการขนส่งหลายคนหลายทอด เมื่อสินค้าสูญหายไปในการขนส่งช่วงสุดท้าย จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3077/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ขนส่ง กรณีส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักรโดยมิได้เสียภาษี ถือเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
โจทก์ส่งของออกนอกราชอาณาจักรโดยมิได้เสียภาษีอันเป็นการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 มาตรา 27 เป็นเหตุให้จำเลยผู้ขนส่งไม่อาจออกใบตราส่งให้โจทก์ได้การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเนื่องจาก จำเลยไม่ออกใบตราส่งให้จึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2157/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้แทนเรือในฐานะผู้ขนส่งสินค้าช่วงสุดท้าย
โจทก์สั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศบรรทุกมาทางเรือ จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของเรือมีหน้าที่ต้องติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เรือได้เข้าเทียบท่า และติดต่อกับโจทก์ผู้เป็นเจ้าของสินค้าในเรือให้ไปรับใบปล่อยสินค้าจากจำเลยและจำเลยต้องขนสินค้าจากเรือเข้าคลังสินค้าโดยจำเลยได้รับบำเหน็จจากตัวการ ดังนี้พฤติการณ์ของจำเลยมีลักษณะร่วมกันขนสินค้ารายนี้อันเป็นการขนส่งหลายคนหลายทอดโดยมีจำเลยรับขนในช่วงสุดท้าย จำเลยจึงเป็นผู้ขนส่ง.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1768/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาใบจองระวางเรือ: ความผูกพันจนกว่าจะออกใบตราส่ง และความรับผิดของผู้ขนส่ง
โจทก์ทำสัญญาใบจองระวางเรือกับจำเลยเพื่อขนข้าวสารของโจทก์ ไปต่างประเทศ โจทก์ขนข้าวสารบางส่วนขึ้นเรือแล้วต่อมาจำเลย สั่งระงับและสั่งให้ขนลงจากเรือทั้งหมด ในสัญญาใบจองระวางเรือ มีข้อความว่าใบตราส่งซึ่งเป็นแบบพิมพ์ที่ใช้อยู่ตามปกติของผู้ขนส่ง จะถูกนำมาใช้ ข้อกำหนดเงื่อนไขและข้อยกเว้นทั้งปวงของใบตราส่ง จะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ ซึ่งถือว่าเป็นผลประโยชน์เฉพาะในระหว่างช่วงเวลานี้จนกว่าจะออกใบตราส่ง แสดงว่าสัญญาใบจอง ระวางเรือผูกพันโจทก์จำเลยจนกว่าจะมีการออกใบตราส่ง ดังนั้นเมื่อยังไม่มีการออกใบตราส่งให้โจทก์ผู้ส่งจึงอยู่ในระยะเวลาที่สัญญาใบจองระวางเรือใช้บังคับ จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2588/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งทางทะเลเมื่อไม่มีกฎหมายเฉพาะ ใช้ ป.พ.พ. มาตรา 616, 625 บังคับ
โดยที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วยการรับขนของทางทะเลบัญญัติไว้โดยเฉพาะ ดังนั้นในกรณีที่ไม่ปรากฏว่ามีการตกลงเกี่ยวกับความรับผิดในเรื่องสูญหายของสินค้าระหว่างการรับขนว่าให้นำกฎหมายหรือกฎข้อบังคับว่าด้วยการขนส่งของทางทะเลของประเทศใด มาใช้บังคับ ความรับผิดในเรื่องนี้จึงต้องนำ ป.พ.พ.มาตรา 616 และ 625 ซึ่งเป็นกฎหมายใกล้เคียงมาใช้บังคับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2365/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดความรับผิดไปรษณีย์, วงเงินประกันภัย, ผู้ขนส่งหลายทอด: ความรับผิดชอบค่าเสียหายสิ่งของสูญหาย
การสื่อสารแห่งประเทศไทยจำเลยที่ 1 รับฝากสินค้าทับทิมเจียระไนราคาหกแสน บาทเศษจากโจทก์แล้วให้บริษัทการบิน จำเลยที่ 2 เป็นผู้ส่งถุง ไปรษณีย์บรรจุสินค้านั้นจนถึงเมืองปลายทางในต่างประเทศโดยโจทก์ประกันภัยการขนส่งสินค้าดังกล่าวไว้กับผู้ร้องสอด ปรากฏว่าสินค้าสูญหาย เมื่อการฝากส่งสินค้าของโจทก์เป็นลักษณะไปรษณียภัณฑ์ลงทะเบียนประเภทจดหมายรับประกัน โจทก์ขอให้รับประกันไว้เป็นจำนวนเงิน 3,950 บาท หรือ 500 แฟรงก์ ทองซึ่งเป็นอัตราสูงสุดที่จำเลยที่ 1 จะรับประกันได้ จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดตามจำนวนที่รับประกันไว้แม้จะมีการแจ้งราคาไว้ในแบบพิมพ์ที่ปิดไว้ที่ไปรษณียภัณฑ์เพื่อประโยชน์ของโจทก์ทางศุลกากร ก็มิใช่การระบุแจ้งราคาต่อจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.ไปรษณีย์ พ.ศ. 2477 มาตรา 30 การขนไปรษณียภัณฑ์ในหน้าที่ของการสื่อสารแห่งประเทศไทยจำเลยที่ 1 มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นพิเศษ จะนำบทบัญญัติเรื่องรับขนตามป.พ.พ. ลักษณะ 8 หมวด 1 มาใช้บังคับแก่จำเลยที่ 1 ไม่ได้ ดังนั้นจำเลยที่ 2 ซึ่งมีนิติสัมพันธ์เฉพาะ กับจำเลยที่ 1 จึงมิใช่ผู้ขนส่งหลายคนหรือหลายทอด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 618 และโจทก์ซึ่งไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 2รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน.
of 19