พบผลลัพธ์ทั้งหมด 152 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจยื่นคำขอรับชำระหนี้หลังเลิกบริษัท: การให้สัตยาบันโดยผู้ชำระบัญชีทำให้คำขอรับชำระหนี้ไม่เสียไป
บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงมีมติให้เลิกบริษัทและตั้งผู้ชำระบัญชีเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2495 ส่วนสาขาในประเทศไทยได้จดทะเบียนเลิกกิจการเมื่อ พ.ศ.2496 ในระหว่างระยะเวลาดังกล่าวต้องถือว่า สาขาในประเทศไทยยังคงดำเนินกิจการในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ฮ่องกงนั้นอยู่ ถ้าเป็นเวลาก่อนที่สาขาในประเทศไทยได้ไปจดทะเบียนเลิกกิจการ นายจูกงซี ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากบริษัทที่ฮ่องกงให้เป็นผู้จัดการสาขาในประเทศไทยก่อนบริษัทเลิกและให้ชำระบัญชี ย่อมมีอำนาจโดยสมบูรณ์ที่จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ในฐานะยังเป็นตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ฮ่องกงนั้นอยู่
แต่ถึงแม้ว่าในขณะที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ภายหลังที่สาขาในประเทศไทยได้เลิกกิจการไปแล้ว อันเป็นผลให้การยื่นคำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจเพราะเหตุที่บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงได้เลิกกิจการและตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นแล้วด้วยก็ดี แต่ผู้ชำระบัญชีก็ได้มีหนังสือแต่งตั้งให้นายจูกงซีมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทซ้ำมาอีก เป็นการให้สัตยาบันแก่การที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลแพ่งจะได้มีคำสั่งในเรื่องนี้ คำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีย่อมไม่เสียไป
แต่ถึงแม้ว่าในขณะที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ภายหลังที่สาขาในประเทศไทยได้เลิกกิจการไปแล้ว อันเป็นผลให้การยื่นคำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจเพราะเหตุที่บริษัทจำกัดที่ฮ่องกงได้เลิกกิจการและตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นแล้วด้วยก็ดี แต่ผู้ชำระบัญชีก็ได้มีหนังสือแต่งตั้งให้นายจูกงซีมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทซ้ำมาอีก เป็นการให้สัตยาบันแก่การที่นายจูกงซียื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลแพ่งจะได้มีคำสั่งในเรื่องนี้ คำขอรับชำระหนี้ของนายจูกงซีย่อมไม่เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญ: สิทธิของผู้เป็นหุ้นส่วนเมื่อผู้ชำระบัญชีลาออก
เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนตกลงกันตั้งบุคคลภายนอกเป็นผู้ชำระบัญชีไปแล้ว แต่ต่อมาบุคคลภายนอกนั้นลาออกแล้ว ทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนนั้นจึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่จะต้องตกมาอยู่ในความจัดทำของผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดผู้เป็นเจ้าของตราบใดที่ผู้เป็นหุ้นส่วนยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดโดยคะแนนเสียงข้างมากให้ผู้อื่นใดจัดทำ การชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนนั้นก็เป็นหน้าที่ของผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญหลังผู้ชำระบัญชีลาออก: หุ้นส่วนมีสิทธิจัดการเองได้หากยังไม่ได้ตั้งผู้ใหม่
เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนตกลงกันตั้งบุคคลภายนอกเป็นผู้ชำระบัญชีไปแล้ว แต่ต่อมาบุคคลภายนอกนั้นลาออกแล้ว ทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนนั้นจึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่จะต้องตกมาอยู่ในความจัดทำของผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดผู้เป็นเจ้าของตราบใดที่ผู้เป็นหุ้นส่วนยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดโดยคะแนนเสียงข้างมากให้ผู้อื่นใดจัดทำการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนนั้นก็เป็นหน้าที่ของผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน: สิทธิเรียกร้องหนี้สินต้องกระทำโดยผู้ชำระบัญชีที่ได้รับการแต่งตั้งโดยถูกต้อง
เมื่อห้างหุ้นส่วนได้เลิกกันแล้ว ผู้เคยเป็นหุ้นส่วนแต่เพียงคนเดียวจะมาฟ้องเรียกร้องหนี้สินของห้างหุ้นส่วนในฐานะส่วนตัวไม่ได้
ผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ถ้าอยากจะจัดทำการชำระบัญชีจะต้องจัดทำโดยผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดด้วยกัน โจทก์ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ผู้เดียวจะฟ้องเรียกร้องหนี้สินของห้างหุ้นส่วนในฐานะผู้ชำระบัญชีไม่ได้
โจทก์มิได้รับมอบฉันทะจากผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมด ย่อมยังไม่มีสิทธิฟ้องร้องเรียกหนี้สินของห้างหุ้นส่วนได้
เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดไม่มีความสามัคคีที่จะร่วมกันจัดทำการชำระบัญชี ก็เป็นหน้าที่ของผู้เป็นหุ้นส่วนที่จะตั้งแต่งบุคคลอื่นขึ้นเป็นผู้จัดทำการชำระบัญชีแล้วจึงทำการเรียกร้องหนี้สินของห้างหุ้นส่วนตามที่กฎหมายบังคับไว้.
ผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ถ้าอยากจะจัดทำการชำระบัญชีจะต้องจัดทำโดยผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดด้วยกัน โจทก์ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ผู้เดียวจะฟ้องเรียกร้องหนี้สินของห้างหุ้นส่วนในฐานะผู้ชำระบัญชีไม่ได้
โจทก์มิได้รับมอบฉันทะจากผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมด ย่อมยังไม่มีสิทธิฟ้องร้องเรียกหนี้สินของห้างหุ้นส่วนได้
เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดไม่มีความสามัคคีที่จะร่วมกันจัดทำการชำระบัญชี ก็เป็นหน้าที่ของผู้เป็นหุ้นส่วนที่จะตั้งแต่งบุคคลอื่นขึ้นเป็นผู้จัดทำการชำระบัญชีแล้วจึงทำการเรียกร้องหนี้สินของห้างหุ้นส่วนตามที่กฎหมายบังคับไว้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนเลิก: สิทธิฟ้องเรียกหนี้ต้องเป็นของผู้ชำระบัญชีที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้อง
เมื่อห้างหุ้นส่วนได้เลิกกันแล้ว ผู้เคยเป็นหุ้นส่วนแต่เพียงคนเดียวจะมาฟ้องเรียกร้องหนี้สินของห้างหุ้นส่วนในฐานะส่วนตัวไม่ได้
ผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ถ้าอยากจะจัดทำการชำระบัญชีจะต้องจัดทำโดยผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดด้วยกัน โจทก์ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ผู้เดียวจะฟ้องเรียกร้องหนี้สินของห้างหุ้นส่วนในฐานะผู้ชำระบัญชีไม่ได้
โจทก์มิได้รับมอบฉันทะจากผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมด ย่อมยังไม่มีสิทธิฟ้องร้องเรียกหนี้สินของห้างหุ้นส่วนได้
เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดไม่มีความสามัคคีที่จะร่วมกันจัดทำการชำระบัญชี ก็เป็นหน้าที่ของผู้เป็นหุ้นส่วนที่จะตั้งแต่งบุคคลอื่นขึ้นเป็นผู้จัดทำการชำระบัญชี แล้วจึงทำการเรียกร้องหนี้สินของห้างหุ้นส่วนตามที่กฎหมายบังคับไว้
ผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ถ้าอยากจะจัดทำการชำระบัญชีจะต้องจัดทำโดยผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดด้วยกัน โจทก์ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ผู้เดียวจะฟ้องเรียกร้องหนี้สินของห้างหุ้นส่วนในฐานะผู้ชำระบัญชีไม่ได้
โจทก์มิได้รับมอบฉันทะจากผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมด ย่อมยังไม่มีสิทธิฟ้องร้องเรียกหนี้สินของห้างหุ้นส่วนได้
เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดไม่มีความสามัคคีที่จะร่วมกันจัดทำการชำระบัญชี ก็เป็นหน้าที่ของผู้เป็นหุ้นส่วนที่จะตั้งแต่งบุคคลอื่นขึ้นเป็นผู้จัดทำการชำระบัญชี แล้วจึงทำการเรียกร้องหนี้สินของห้างหุ้นส่วนตามที่กฎหมายบังคับไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญ - การบอกปัด/ถอดถอนผู้ชำระบัญชี
ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนมีความประสงค์จะเลิกกิจการจึงได้ตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้น ถ้าผู้ชำระบัญชีได้ลงมติในเรื่องทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนไปประการใด และหุ้นส่วนไม่เห็นด้วยก็ชอบที่จะบอกปัดหรือถอดถอนผู้ชำระบัญชีเสียกรณีเพียงเท่านี้ยังไม่พอถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิถึงขนาดจะต้องเสนอคดีต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเลิกห้างหุ้นส่วน: การบอกปัด/ถอดถอนผู้ชำระบัญชีเป็นทางเลือกก่อนฟ้อง
ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนมีความประสงค์จะเลิกกิจการจึงได้ตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้น ถ้าผู้ชำระบัญชีได้ลงมติในเรื่องทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนไปประการใด และหุ้นส่วนไม่เห็นด้วยก็ชอบที่จะบอกปัดหรือถอดถอนผู้ชำระบัญชีเสียกรณีเพียงเท่านี้ยังไม่พอถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิถึงขนาดจะต้องเสนอคดีต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้ชำระบัญชีในการบังคับชำระหนี้หรือส่งมอบทรัพย์สิน: ผู้ชำระบัญชีต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่ ไม่สามารถบังคับได้ในคดีเดิม
ในกรณีที่ฟ้องร้องขอเลิกห้างหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญขีนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้เลิกและตั้งผู้ชำระบัญชีแล้ว เมื่อปรากฎแก่ผู้ชำระบัญชี ผู้ใดเป็นลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินเกี่ยวข้องแก่ห้างหุ้นส่วนที่ชำระบัญชี และผู้นั้นไม่ยอมชำระหรือนำส่งแล้ว ก็ย่อมต้องฟ้องร้องต่อศาลเป็นเรื่อง ๆ ไป จะขอให้ศาลบังคับให้เขาส่งหรือชำระในคดีเดิมที่ขอเลิกหุ้นส่วนนั้นไม่ได้ เพราะมิได้มีกฎหมายให้อำนาจไว้ดังในเรื่องล้มละลาย
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้ชำระบัญชีและการบังคับชำระหนี้: ผู้ชำระบัญชีต้องฟ้องร้องเป็นเรื่องๆ ไป ไม่สามารถบังคับได้โดยตรง
ในกรณีที่ฟ้องร้องขอเลิกห้างหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชีนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้เลิกและตั้งผู้ชำระบัญชีแล้วเมื่อปรากฏแก่ผู้ชำระบัญชีว่า ผู้ใดเป็นลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินเกี่ยวข้องแก่ห้างหุ้นส่วนที่ชำระบัญชี และผู้นั้นไม่ยอมชำระหรือนำส่งแล้ว ก็ย่อมต้องฟ้องร้องต่อศาลเป็นเรื่องๆ ไปจะขอให้ศาลบังคับให้เขาส่งหรือชำระในคดีเดิมที่ขอเลิกหุ้นส่วนนั้นไม่ได้เพราะมิได้มีกฎหมายให้อำนาจไว้ดังในเรื่องล้มละลาย
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิโต้แย้งคำชี้ขาดและบัญชีงบดุลของผู้ชำระบัญชี: ต้องรอถูกฟ้องเรียกหนี้ก่อน จึงมีสิทธิร้อง
ในเรื่องผู้ชำระบัญชี ซึ่งศาลตั้งในกรณีเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญมิได้จดทะเบียน ได้ทำคำชี้ขาดและทำบัญชีงบดุลย์ของหุ้นส่วนนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ใดอื่นจะมาร้องขอให้ศาลเปลี่ยนแปลงแก้ไขมิได้ เพราะยังไม่มีสิทธิโต้แย้งอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 55 กล่าวคือ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดยังมิได้ถูกฟ้องเรียกหนี้ตามคำชี้ขาดหรือตามบัญชีแต่อย่างใด จึงไม่มีสิทธิที่จะมาร้องต่อศาล