คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องคดีอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 241 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต้องระบุองค์ประกอบความผิดให้ชัดเจน หากศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยมีใบอนุญาตถูกต้อง โจทก์ไม่อาจฎีกาเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงได้
ความผิดฐานขนสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต กับความผิดฐานไม่นำใบอนุญาตกำกับไปกับสุราที่ขน องค์ความผิดต่างกันเป็นความผิดคนละฐานกัน โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยขนสุราของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่าจำเลยมีใบอนุญาตขนถูกต้องแล้ว จะลงโทษจำเลยฐานไม่นำใบอนุญาตกำกับการขนสุราของกลางอันเป็นความผิดอีกฐานหนึ่งซึ่งโจทก์มิได้กล่าวบรรยายมาในคำฟ้องขอให้ลงโทษด้วยนั้น ย่อมไม่ได้
เมื่อศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยชี้ขาดว่าจำเลยมีใบอนุญาตขนสุราของกลางโดยชอบด้วยกฎหมาย และโจทก์มิได้อุทธรณ์โต้เถียงว่าจำเลยไม่มีใบอนุญาตขนสุรา หรือว่าใบอนุญาตขนสุราที่จำเลยอ้างนั้นไม่ใช่ใบอนุญาตขนสุราของกลาง ความผิดฐานขนสุราของกลางโดยไม่มีใบอนุญาตจึงยุติ โจทก์จะมาฎีกาโต้เถียงว่าใบอนุญาตขนสุราที่จำเลยอ้างไม่ใช่ใบอนุญาตขนสุราของกลางหาได้ไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงลายมือชื่อในฟ้องคดีอาญา โจทก์ต้องลงชื่อเอง ทนายลงแทนไม่ได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 เป็นที่เห็นได้ชัดว่าโจทก์ต้องลงลายมือชื่อในฟ้องด้วยตนเอง ทนายความของโจทก์จะเป็นผู้ลงชื่อแทนไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 618/2490, 300/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลายมือชื่อโจทก์ในฟ้องคดีอาญา: ความสมบูรณ์ของฟ้องและอำนาจทนาย
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 เป็นที่เห็นได้ชัดว่าโจทก์ต้องลงลายมือชื่อในฟ้องด้วยตนเองทนายความของโจทก์จะเป็นผู้ลงชื่อแทนไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 618/2490,300/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับเอกสารปลอม จำเป็นต้องแสดงข้อเท็จจริงการสมคบหรือร่วมมือกระทำความผิด
ฟ้องที่ไม่มีข้อความอันแสดงว่าจำเลยได้สมคบหรือร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 264, 265, 268, 83 ที่โจทก์อ้าง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับไม้ต้องระบุรายละเอียดการเคลื่อนย้ายให้ชัดเจนตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ มิฉะนั้นฟ้องไม่ชอบ
ฟ้องไม่ได้บรรยายข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 38 ข้อ 1 หรือข้อ 2 ที่ว่า นำไม้หรือของป่าที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาตแล้วหรือ ....ฯลฯ ซึ่งขาดองค์ความผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ลงโทษฐานนำของป่าเคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางตามมาตรา 39,71 ไม่ได้(อ้างนัยฎีกาที่ 341/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาซ้ำซ้อน ความผิดคนละกระทงต่างวาระกัน และขอบเขตการฟ้องคดีอาญา
มีคนร้ายลักอาวุธปืนของผู้เสียหายไปตั้งแต่วันที่12 ต่อมาวันที่ 16 เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมอาวุธปืน พนักงานอัยการโจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานมีปืนไว้ในความครอบครองไม่รับอนุญาตเป็นคดีหนึ่ง แล้วฟ้องฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรอีกคดีหนึ่ง ดังนี้เห็นได้ว่าการกระทำผิดฐานมีอาวุธปืนนั้น จำเลยย่อมจะได้กระทำผิดนับแต่วาระแรกที่ได้ปืนนั้นมาไว้ในครอบครอง และเป็นความผิดอยู่เรื่อยไปจนกระทั่งจำเลยถูกจับได้พร้อมอาวุธปืน ส่วนความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรนั้น เป็นความผิดในขณะใดขณะหนึ่งตามที่โจทก์กล่าวหา ฉะนั้น การกระทำผิดของจำเลยที่โจทก์กล่าวหาทั้งสองคดีจึงอาจเป็นความผิดคนละกระทงต่างกรรมต่างวาระกันได้ ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 19/2507

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิบัติในการฟ้องคดีอาญา: จำนวนเงินของกลางต่างจากที่ฟ้อง ไม่ถึงเหตุยกฟ้อง
ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง โดยโจทก์ฟ้องว่า จำเลยเล่นการพนันไพ่ผสมสิบ ไม่ได้รับอนุญาตจับได้เงินของกลาง 21 บาท แต่บันทึกการจับกุมของพยานโจทก์ปรากฏว่าจับได้เงินเพียง 20 บาท เห็นว่า เป็นแต่เพียงปรากฏว่าจำนวนเงินของกลางตามฟ้องกับตามบันทึกการจับกุมต่างกันไม่ใช่เป็นเรื่องที่ได้ความว่าจำนวนเงินตามคำฟ้องไม่ใช่ความจริง ถึงหากความจริงเป็นดังบันทึกการจับกุม ก็เป็นข้อเท็จจริงที่ผิดเพี้ยนกับคำฟ้องเล็กน้อย ไม่ใช่เป็นเหตุสำคัญที่จะยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานที่เกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ศาลลงโทษได้หากไม่ใช่สาระสำคัญและจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้
การที่โจทก์ฟ้องว่า เหตุเกิดในท้องที่อำเภอหนึ่ง แม้ศาลจะฟังข้อเท็จจริงดังที่จำเลยนำสืบว่าเหตุเกิดในท้องที่อีกอำเภอหนึ่งก็ตาม แต่เขตของสองอำเภอนั้นอยู่ใกล้ชิดติดต่อกัน และจำเลยก็รู้ดีอยู่แล้วว่าสถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่ที่ใด เช่นนี้ ถือได้ว่าในข้อสถานที่เกิดเหตุนั้น ทางพิจารณาไม่แตกต่างกับฟ้องในข้อสาระสำคัญและจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้อย่างใด ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงลายมือชื่อในฟ้องคดีอาญา: ทนายไม่สามารถลงแทนโจทก์ได้ แม้มีมอบอำนาจ
ทนายความซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นทนายโจทก์และให้มีอำนาจ "ดำเนินกระบวนพิจารณา ประนีประนอมยอมความ ถอนฟ้อง สละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา" ได้ลงลายมือชื่อในฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาแทนโจทก์ เช่นนี้ คำฟ้องคดีส่วนอาญาจึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(7) โจทก์ชอบที่จะขอแก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา 163,164 จะถือว่าการที่โจทก์ได้สาบานตัวเบิกความต่อศาลยืนยันว่าโจทก์เป็นผู้ฟ้องจำเลยและในชั้นอุทธรณ์โจทก์ลงชื่อในท้ายอุทธรณ์นั้น เป็นการให้สัตยาบันว่า โจทก์มอบอำนาจให้ทนายความฟ้องคดีส่วนอาญาแล้วไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต้องมีลายมือชื่อโจทก์เอง แม้มีมอบอำนาจทนายก็ไม่สมบูรณ์
ทนายความซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นทนายโจทก์ และให้มีอำนาจ 'ดำเนินกระบวนพิจารณา ประนีประนอมยอมความ ถอนฟ้องสละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา' ได้ลงลายมือชื่อในฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวกับคดีอาญาแทนโจทก์ เช่นนี้คำฟ้องคดีส่วนอาญาจึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) โจทก์ชอบที่จะขอแก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา 163,164 จะถือว่าการที่โจทก์ได้สาบานตัวเบิกความต่อศาลยืนยันว่าโจทก์เป็นผู้ฟ้องจำเลยและในชั้นอุทธรณ์โจทก์ลงชื่อในท้ายอุทธรณ์นั้น เป็นการให้สัตยาบันว่า โจทก์มอบอำนาจให้ทนายความฟ้องคดีส่วนอาญาแล้วไม่ได้
of 25