พบผลลัพธ์ทั้งหมด 147 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ค่าสินค้า: ผลของการฟ้องคดีล้มละลายและการขาดอายุความ
โจทก์ผู้จัดหาและประกอบอุตสาหกรรมอาหารไก่ออกจำหน่ายฟ้องเรียกค่าอาหารไก่ซึ่งจำเลยซื้อเชื่อไป มีกำหนดอายุความสองปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)
จำเลยรับสภาพหนี้โดยการผ่อนชำระหนี้ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความใหม่ต่อไป
แม้โจทก์จะได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายมาก่อนภายในกำหนดอายุความ แต่ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว คดีถึงที่สุดการฟ้องคดีซึ่งต้องยกฟ้องย่อมไม่เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง
คดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายแม้ศาลจะฟังว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์จริงแต่ยกฟ้องเพราะจำเลยไม่ต้องด้วยเกณฑ์เป็นบุคคลล้มละลายนั้นกรณีต้องด้วยมาตรา 174 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้งมาตรา 174 ก็มิได้บัญญัติยกเว้นว่าถ้าเป็นกรณีฟ้องเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้องแม้ศาลพิพากษายกฟ้องก็ให้อายุความสะดุดหยุดลง
คดีที่ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัวนั้นไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 176 ซึ่งเป็นเรื่องศาลยกคดีเสีย เพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลและกำหนดอายุความสิ้นไปในระหว่างพิจารณาคดีหรือจะสิ้นลงภายในระหว่างหกเดือนภายหลังที่ได้พิพากษาคดีถึงที่สุดอายุความจึงไม่ขยายออกไป
จำเลยรับสภาพหนี้โดยการผ่อนชำระหนี้ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความใหม่ต่อไป
แม้โจทก์จะได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายมาก่อนภายในกำหนดอายุความ แต่ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว คดีถึงที่สุดการฟ้องคดีซึ่งต้องยกฟ้องย่อมไม่เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง
คดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายแม้ศาลจะฟังว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์จริงแต่ยกฟ้องเพราะจำเลยไม่ต้องด้วยเกณฑ์เป็นบุคคลล้มละลายนั้นกรณีต้องด้วยมาตรา 174 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้งมาตรา 174 ก็มิได้บัญญัติยกเว้นว่าถ้าเป็นกรณีฟ้องเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้องแม้ศาลพิพากษายกฟ้องก็ให้อายุความสะดุดหยุดลง
คดีที่ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัวนั้นไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 176 ซึ่งเป็นเรื่องศาลยกคดีเสีย เพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลและกำหนดอายุความสิ้นไปในระหว่างพิจารณาคดีหรือจะสิ้นลงภายในระหว่างหกเดือนภายหลังที่ได้พิพากษาคดีถึงที่สุดอายุความจึงไม่ขยายออกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องล้มละลาย: รายละเอียดการเบิกเงินเกินบัญชีไม่จำเป็นในฟ้อง, ฟ้องไม่เคลือบคลุม
การเบิกเงินเกินบัญชีจะกระทำไปกี่คราว ๆ ละเท่าใดนั้น เป็นรายละเอียดที่โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง และไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องล้มละลาย: รายละเอียดการเบิกเกินบัญชีไม่จำเป็นต้องระบุในฟ้อง หากพิสูจน์หนี้ได้
การเบิกเงินเกินบัญชีจะกระทำไปกี่คราว คราวละเท่าใดนั้นเป็นรายละเอียดที่โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง และไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลายไม่เป็นฟ้องซ้ำคดีแพ่ง หากประเด็นต่างกัน คือ คดีแพ่งชี้สถานะลูกหนี้ ส่วนคดีล้มละลายชี้สถานะหนี้สินล้นพ้นตัว
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์นำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลย แต่มีผู้ร้องขัดทรัพย์ ทรัพย์ที่เหลือไม่พอชำระหนี้ โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย การฟ้องเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีแพ่งซึ่งถึงที่สุดไปแล้วนั้นเป็นเรื่องชี้ขาดว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ ส่วนคดีนี้มีประเด็นว่า เมื่อจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยเป็นบุคคลมีหนี้สินล้นพ้นตัว ควรตกเป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่ การวินิจฉัยคดีทั้งสองนี้มิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลายซ้ำ: สิทธิเรียกร้องหนี้ที่หมดอายุในคดีล้มละลายก่อนหน้า ไม่อาจฟ้องล้มละลายซ้ำได้
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ 2 จำนวน โจทก์เคยฟ้องจำเลยให้ล้มละลายในหนี้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่โจทก์ไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ทั้ง 2 จำนวนในกำหนด ศาลจึงสั่งยกเลิกการล้มละลายเสีย ดังนี้ โจทก์จะเอาหนี้ 2 จำนวนนั้นมาฟ้องล้มละลายอีกไม่ได้ เพราะถ้ายอมให้ฟ้องได้ก็เท่ากับอนุญาตให้ขยายระยะเวลาขอรับชำระหนี้อันผิดบทบัญญัติในพระราชบัญญัติล้มละลาย
การที่ศาลจะสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือให้ล้มละลายนั้น ย่อมทำให้ลูกหนี้ถูกจำกัดสิทธิและไม่สามารถจัดกิจการทรัพย์สินได้ด้วยตนเอง จึงต้องเป็นไปโดยมีเหตุสมควรจริง ๆ ไม่ใช่ให้ใช้กฎหมายล้มละลายเป็นเครื่องมือบีบคั้นลูกหนี้เท่านั้น
การที่ศาลจะสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือให้ล้มละลายนั้น ย่อมทำให้ลูกหนี้ถูกจำกัดสิทธิและไม่สามารถจัดกิจการทรัพย์สินได้ด้วยตนเอง จึงต้องเป็นไปโดยมีเหตุสมควรจริง ๆ ไม่ใช่ให้ใช้กฎหมายล้มละลายเป็นเครื่องมือบีบคั้นลูกหนี้เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลาย, การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้น, และการนำสืบพยานนอกประเด็น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ไม่ได้บังคับให้ศาลต้องวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายก่อนดำเนินการพิจารณา (ตามที่คู่ความขอ) ทุกเรื่อง ถ้าศาลเห็นว่า การวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวไม่เป็นคุณแก่ผู้อ้างเลย คือจำเป็นจะต้องดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป แล้ว จะสั่งให้รอไว้วินิจฉัยในคำพิพากษาก็ได้
เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ ต้องประกอบด้วยเหตุใน พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 9 ส่วนมาตรา 8 เป็นเพียงข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้มพ้นตัว เพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ที่ไม่สามารถนำสืบให้ศาลเห็นได้ว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายมาในฟ้องว่าจำเลยได้กระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามมาตรา 8
เมื่อบรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์แล้วไม่ชำระ และจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้มพ้นตัว ไม่มีทรัพย์สินที่จะชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว โจทก์นำสืบว่าจำเลยเป็นหนี้คนอื่นอยู่อีก และยังไม่ชำระหนี้ ดังนี้ เป็นการสืบในประเด็นว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่ใช่สืบนอกประเด็น
เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ ต้องประกอบด้วยเหตุใน พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 9 ส่วนมาตรา 8 เป็นเพียงข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้มพ้นตัว เพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ที่ไม่สามารถนำสืบให้ศาลเห็นได้ว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายมาในฟ้องว่าจำเลยได้กระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามมาตรา 8
เมื่อบรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์แล้วไม่ชำระ และจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้มพ้นตัว ไม่มีทรัพย์สินที่จะชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว โจทก์นำสืบว่าจำเลยเป็นหนี้คนอื่นอยู่อีก และยังไม่ชำระหนี้ ดังนี้ เป็นการสืบในประเด็นว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่ใช่สืบนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่เป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินเพียงพอต่อการฟ้องล้มละลาย
โจทก์จะนำเช็คมาเป็นมูลฟ้องในเรื่องกู้ยืมเงินเพื่อขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตหนังสือมอบอำนาจ: การฟ้องล้มละลายต้องมีอำนาจเฉพาะเจาะจง
เจ้าหนี้ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องความ มีข้อความว่า "เป็นผู้มีอำนาจเป็นโจทก์และดำเนินกระบวนพิจารณาฟ้องร้องบริษัทมหาสุวรรณจำเลย เพื่อเรียกเงินค่าวางประกันการใช้ไฟฟ้า ค่าหม้อวัดกระแสไฟฟ้าและค่าเสียหายอื่นใดอันเกี่ยวกับคดีนี้ต่อศาลแทนข้าพเจ้าทุกประการ" ดังนี้ เป็นการมอบอำนาจ ให้ฟ้องเรียกเงินค่าวางประกันการใช้ไฟฟ้า ฯลฯ เป็นการมอบให้ฟ้องคดีแพ่งสามัญโดยตรง โจทก์จึงไม่มีสิทธิอาศัยหนังสือมอบอำนาจนี้มาฟ้องบริษัทมหาสุวรณเป็นจำเลยในคดีล้มละลายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลายต้องมีองค์ประกอบครบถ้วน การมีหนี้สินเพียงอย่างเดียวไม่พอ
หลักกฎหมายในการที่จะฟ้องขอให้ลูกหนี้ล้มละลายได้ จะต้องประกอบพร้อมทั้ง 3 ประการตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ล้มละลาย ม.9 มิใช่เพียงข้อใดข้อหนึ่งเพียงข้อเดียวเท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามข้อสันนิษฐานในม.8 โดยโจทก์ได้ทวงถามหลายครั้ง จำเลยก็ไม่ชำระหนี้แต่จำเลยนำสืบได้ว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้ใครและจำเลยมีทรัพย์สมบัติมาก เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว จะฟ้องให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามข้อสันนิษฐานในม.8 โดยโจทก์ได้ทวงถามหลายครั้ง จำเลยก็ไม่ชำระหนี้แต่จำเลยนำสืบได้ว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้ใครและจำเลยมีทรัพย์สมบัติมาก เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว จะฟ้องให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบวชเป็นชีทำให้ขาดจากความเป็นสามีภรรยา และมีผลต่อการกำหนดภูมิลำเนาเพื่อการฟ้องคดีล้มละลาย
สามีอนุญาตให้ภรรยาไปบวชเป็นชีตามกฎหมายลักษณผัวเมียถือว่าขาดจากสามีภรรยากัน
จำเลยไปบวชเป็นชีอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต้องถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนั้น จะฟ้องจำเลยขอให้เป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้
จำเลยไปบวชเป็นชีอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต้องถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนั้น จะฟ้องจำเลยขอให้เป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้