พบผลลัพธ์ทั้งหมด 228 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1663-1664/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าชดเชยในข้อบังคับบริษัทต่างชาติ: ศาลวินิจฉัยตามคำแปลภาษาไทยที่ยื่นต่อศาล
การที่ข้อบังคับของจำเลยกำหนดว่าเงินบำเหน็จที่จำเลยจ่ายให้โจทก์ได้รวมไว้แล้วซึ่งค่าชดเชยเฉพาะส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่กฎหมายแรงงานกำหนดนั้นต้องถือว่าเงินบำเหน็จดังกล่าวไม่มีค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานรวมอยู่ด้วย เอกสารภาษาต่างประเทศเมื่อจำเลยทำคำแปลเป็นภาษาไทยมาแล้วถือว่าถูกต้องตามเอกสารนั้นจำเลยจะโต้แย้งภายหลังว่าคำแปลไม่ถูกต้องหาได้ไม่ ป.พ.พ.มาตรา14จะใช้บังคับในกรณีมีเอกสารฉบับใดฉบับหนึ่งทำขึ้นเป็นสองภาษาแต่ข้อบังคับการทำงานของจำเลยทำขึ้นเป็นภาษาอังกฤษส่วนภาคภาษาไทยเป็นคำแปลเท่านั้นศาลจึงย่อมวินิจฉัยตามภาษาไทยที่แปลมานั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2456/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามคำพิพากษา: ห้ามยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นบังคับคดี หากศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดแล้ว
คดีถึงที่สุดโดยศาลวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงเรียน ร. ซึ่งตั้งอยู่ในที่พิพาท ให้รื้อถอนอาคารออกไป การที่จำเลยอ้างในชั้นบังคับคดีว่าอาคารโรงเรียน ร. เป็นของผู้อื่นมิใช่ของจำเลย ย่อมเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 เป็นการยกข้อเท็จจริงที่ไม่อาจรับฟังได้มาเป็นข้ออ้าง ไม่มีเหตุที่จะยกเลิกการบังคับคดีตามคำพิพากษาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะลูกจ้างจำเลยเป็นประเด็นสำคัญก่อนพิจารณาคดีพิพาทแรงงาน ศาลต้องวินิจฉัยก่อน
ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นพนักงานขายของบริษัท ซึ่งประกอบกิจการค้าเครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อหนึ่ง และโจทก์อาจไปขายเครื่องถ่ายเอกสารอีกยี่ห้อหนึ่งให้แก่จำเลยได้เป็นครั้งคราวโดยได้รับค่าคอมมิชชั่นจากจำเลยแล้ววินิจฉัยไปเลยว่า ฟังไม่ได้ว่าจำเลย ตกลงให้โจทก์ทำงานครั้งที่โจทก์ฟ้องนี้โดยจะจ่ายค่าคอมมิชชั่น ให้โจทก์ โดยมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยหรือไม่ ซึ่งประเด็นข้อนี้เป็นประเด็นสำคัญแห่งคดี เพราะถ้าโจทก์ไม่เป็นลูกจ้างจำเลย คดีนี้ย่อมไม่เป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ ตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ พ.ศ.2522 มาตรา8(1) อันศาลแรงงานกลางจะมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้ สมควรให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าวให้เป็นยุติก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3162/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการในหนี้ละเมิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้ว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า พ. ลงนามในสัญญารับเหมาสร้างทางในฐานะทำแทนห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 สัญญามีผลผูกพันจำเลยที่ 1 เมื่อ พ. และคนงานสร้างทางตัดฟันต้นไม้และแผ้วถางป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โจทก์ จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดดังกล่าว พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองมิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์แต่อย่างใด จะมารื้อฟื้นยกขึ้นเป็นข้อฎีกาว่า จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งได้ยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วหาได้ไม่ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด จึงต้องรับผิดในฐานะส่วนตัวด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3084/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: ห้ามดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดแล้ว เว้นแต่มีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
กระบวนพิจารณาที่จำเลยขอให้ถอนการยึดทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดมาโดยอ้างว่าทรัพย์สินดังกล่าวไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีนั้น ศาลได้มีคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดแล้ว การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษากับลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้เจรจากันเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ยึดไม่เป็นกรณีที่เข้าข้อยกเว้นตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา144 ข้อ (1) ถึง (5) ต้องห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จที่ไม่เป็นข้อสำคัญในคดีอาญา เพราะศาลไม่ได้ใช้พยานหลักฐานนั้นวินิจฉัย
จำเลยเบิกความต่อศาลในคดีอาญาซึ่งโจทก์ถูกฟ้องว่า จำเลยไม่เคยทำหนังสือเอกสารหมาย จ.1 ถึงโจทก์ แต่ศาลมิได้หยิบยกเอาคำเบิกความของจำเลยและข้อความในเอกสารหมาย จ.1 ขึ้นวินิจฉัย หากแต่ได้วินิจฉัยถึงพยานหลักฐานอื่น ๆ แล้วพิพากษาลงโทษโจทก์ ส่วนคำเบิกความของจำเลยและเอกสารหมาย จ.1 ไม่มีน้ำหนักในการวินิจฉัยของศาล หรือจะมีผลให้แพ้ชนะคดีกัน ดังนี้ คำเบิกความของจำเลยที่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเอกสารหมาย จ.1 ส่งให้แก่โจทก์จึงไม่เป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งแยกที่ดินมรดกและการครอบครองปรปักษ์ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยสัดส่วนการถือครองและอายุความครอบครอง
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357 บัญญัติว่า'ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากัน' นั้น ย่อมนำสืบหักล้างได้ว่าความจริงมีอยู่อย่างไร และศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่า ฝ่ายใดมีส่วนเป็นเจ้าของในส่วนใดเท่าใด หาเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายไม่
ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยครอบครองที่ดินส่วนของจำเลยมา 10 ปีแล้วย่อมได้กรรมสิทธิ์นั้น เมื่อจำเลยให้การว่าจำเลยได้รับโอนที่ดินพิพาทจากบิดาเมื่อวันที่25 มกราคม 2482 แล้วครอบครองตลอดมา ตามคำให้การนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ยกประเด็นขึ้นอ้างแล้วว่าจำเลยครอบครองที่ดินมาเกิน 10 ปี ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยนอกประเด็น
ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยครอบครองที่ดินส่วนของจำเลยมา 10 ปีแล้วย่อมได้กรรมสิทธิ์นั้น เมื่อจำเลยให้การว่าจำเลยได้รับโอนที่ดินพิพาทจากบิดาเมื่อวันที่25 มกราคม 2482 แล้วครอบครองตลอดมา ตามคำให้การนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ยกประเด็นขึ้นอ้างแล้วว่าจำเลยครอบครองที่ดินมาเกิน 10 ปี ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2675/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดหมิ่นประมาท ศาลต้องพิจารณาข้อความที่อ้างถึงในคำฟ้องและเอกสารประกอบเพื่อวินิจฉัยว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่
คดีหมิ่นประมาท โจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความบางตอนที่อ้างว่าเป็นหมิ่นประมาทโจทก์ และได้บรรยายด้วยว่ารายละเอียดข้อความดังกล่าวปรากฏตามภาพถ่ายเอกสารท้ายฟ้อง ดังนี้ศาลหยิบยกเอาข้อความในเอกสารท้ายฟ้องซึ่งเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฟ้องมาพิจารณาว่าโจทก์บรรยายฟ้องครบองค์ความผิดหรือไม่ได้
โจทก์แถลงขอสืบพยานว่า ข้อความที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ ทำให้โจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชังเมื่อบุคคลอื่นได้อ่านหนังสือพิมพ์แล้วก่อให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ดังนี้ จึงไม่อาจพิจารณาแต่เพียงข้อความในเอกสารท้ายฟ้องเท่านั้น ศาลชอบที่จะทำการพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป
โจทก์แถลงขอสืบพยานว่า ข้อความที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ ทำให้โจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชังเมื่อบุคคลอื่นได้อ่านหนังสือพิมพ์แล้วก่อให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ดังนี้ จึงไม่อาจพิจารณาแต่เพียงข้อความในเอกสารท้ายฟ้องเท่านั้น ศาลชอบที่จะทำการพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2363/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรื้อฟ้องคดีซ้ำในประเด็นที่ศาลเคยวินิจฉัยแล้ว ถือเป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย
คดีก่อน โจทก์ฟ้องอ้างเหตุว่าจำเลยไม่ทำบัญชีทรัพย์เกี่ยวกับการจัดการมรดกให้ทายาทและศาลทราบ ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยมิได้ละเลยหน้าที่ของผู้จัดการมรดกและได้ทำบัญชีทรัพย์มรดกยื่นต่อศาลแล้วฉะนั้นการที่โจทก์อ้างในคดีนี้อีกว่าจำเลยมิได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายใน เวลาที่กฎหมายกำหนด เป็นการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ผู้จัดการมรดก จึงเป็น การรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้ วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยไม่ยกขึ้น ศาลก็วินิจฉัยได้
อำนาจฟ้องแม้จำเลยไม่ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ก็เป็นปัญหากฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยเองได้