พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเป็นจำเลยร่วมในคดีกู้ยืมเงิน: สิทธิของสามีเมื่อภรรยาทำสัญญาโดยไม่ได้รับความยินยอม
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหญิงมีสามีเป็นจำเลยเรียกเงินตามสัญญากู้นั้นเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธความรับผิดคดียังไม่แน่ว่าโจทก์จะชนะหรือไม่ ถึงหากชนะ จะยึดทรัพย์ส่วนตัวของหญิงสามีก็ไม่มีสิทธิโต้แย้งคัดค้านเช่นนี้สามีก็ยังไม่ถูกโต้แย้งสิทธิอย่างไรฉะนั้นการที่สามีร้องขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมกับภรรยาเพื่อยังให้ได้รับความรับรองคุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) ในขณะนี้ศาลจึงไม่จำเป็นต้องอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ส่วนตัวสามี ยึดทรัพย์สินสมรสได้ หากยังไม่ได้แยกสินส่วนตัว
หนี้ที่สามีต้องใช้เป็นส่วนตัวนั้น เมื่อยังมิได้แยกสินบริคณห์ออกจากกัน ต้องถือว่าสามีมีส่วนเป็นเจ้าของด้วย ฉะนั้นเจ้าหนี้จึงยึดเพื่อเอาส่วนของสามีชำระหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบอกล้างนิติกรรมโมฆียะเฉพาะสามีเมื่อภรรยามีส่วนร่วมในสินบริคณห์
กฎหมายไม่ได้ห้ามหญิงมีสามีไม่ให้ทำนิติกรรม, เหตุที่กฎหมายบัญญัติให้นิติกรรมเป็นโมฆียะก็เฉพาะที่จะผูกพันสินบริคณห์ ซึ่งสามีมีส่วนได้เสียร่วมอยู่ด้วย ป.พ.พ.มาตรา 137 วรรค 2 จึงบัญญัติให้สามีมีสิทธิบอกล้างได้ และเป็นสิทธิเฉพาะสามีที่จะบอกล้างคนเดียวเท่านั้น เพราะหญิงมีสามีไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถดังที่บัญญัติไว้ใน ม.137 วรรคต้น ตัวหญิงเองจึงไม่มีสิทธิบอกล้างได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบอกล้างโมฆียะกรรมในนิติกรรมเกี่ยวกับสินบริคณห์: สามีมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว
กฎหมายไม่ได้ห้ามหญิงมีสามีไม่ให้ทำนิติกรรมเหตุที่กฎหมายบัญญัติให้นิติกรรมเป็นโมฆียะก็เฉพาะที่จะผูกพันสินบริคณห์ ซึ่งสามีมีส่วนได้เสียร่วมอยู่ด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137 วรรคสอง จึงบัญญัติให้สามีมีสิทธิบอกล้างได้และเป็นสิทธิเฉพาะสามีที่จะบอกล้างคนเดียวเท่านั้น เพราะหญิงมีสามีไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 137 วรรคต้น ตัวหญิงเองจึงไม่มีสิทธิบอกล้างได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าของผู้ภริยาโดยอาศัยสิทธิสามี แม้สามีไปศึกษาต่างประเทศชั่วคราว เจ้าของบ้านไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่
สามีเช่าบ้านอยู่อาศัย แล้วเดินทางไปศึกษาวิชาที่ต่างประเทศเป็นการชั่วคราวภริยาคงอยู่อาศัยต่อมาในบ้านเช่านั้น เป็นการอยู่โดยอาศัยสิทธิของสามี ผู้ให้เช่าจะฟ้องขับไล่ภริยาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสามารถในการฟ้องคดีของสตรีที่มีสามี การให้การขัดแย้ง และผลต่อการดำเนินคดี
ปรากฏขึ้นในระหว่างพิจารณาว่าผู้ร้องขัดทรัพย์เป็นหญิงมีสามีผู้ร้องก็ยังเถียงว่าตนไม่มีสามีดังนี้ศาลต้องยกคำร้องขัดทรัพย์ เพราะมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องในเรื่องความสามารถ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมขายฝากสินสมรสต้องได้รับความยินยอมจากสามี หากไม่ได้รับความยินยอมและสามีบอกล้างได้ โมฆียะ
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับตามสัญญาขายฝากที่จำเลย(ภริยาผู้ร้องสอด) ทำไว้กับโจทก์ จำเลยและผู้ร้องสอด(สามีจำเลย) ต่อสู้ยืนยันว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ร้องสอดและไม่ได้ให้สัตยาบันจึงบอกล้างโมฆียะกรรมเมื่อโจทก์กล่าวแก้แต่เพียงว่าผู้ร้องสอดมิได้เป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ประเด็นคงมีว่าผู้ร้องสอดกับจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เท่านั้น ไม่มีประเด็นไปถึงเรื่องภริยาร้างในระหว่างภริยาทำนิติกรรมขายฝากให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่
เมื่อภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีและสามีไม่ได้ให้สัตยาบันสามีจึงบอกล้างนิติกรรมนั้นได้
เมื่อภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีและสามีไม่ได้ให้สัตยาบันสามีจึงบอกล้างนิติกรรมนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆียะกรรมสัญญาขายฝากสินบริคณห์: สามีต้องยินยอมหรือสัตยาบัน หากภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินสมรสโดยลำพัง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับตามสัญญาขายฝากที่จำเลย(ภริยาผู้ร้องสอด)ทำไว้กับโจทก์ จำเลยและผู้ร้องสอด(สามีจำเลย) ต่อสู้ยืนยันว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฏหาย จำเลยทำนิติกรรรมผูกพันสินบริคณหโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ร้องสดและไม่ได้ให้สัตยาบันจึงบอกล้างโมฆียะกรรม เมื่อโจทก์กล่าวแก้แต่เพียงว่าผู้ร้องสอดมิได้เป็นสามีโดยชอบด้วยกฏหมายดังนี้ประเด็นคงมีว่าผู้ร้องสอดกับจำเลย
เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฏหมายหรือไม่เท่านั้น ไม่มีประเด็นไปถึงเรื่องภริยาร้างในระหว่างภริยาทำนิติกรรมขายฝากให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่,
เมื่อภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีและสามีไม่ได้ให้สัดยาบันสามีจึงบอกล้าง
นิติกรรมนั้นได้
เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฏหมายหรือไม่เท่านั้น ไม่มีประเด็นไปถึงเรื่องภริยาร้างในระหว่างภริยาทำนิติกรรมขายฝากให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่,
เมื่อภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีและสามีไม่ได้ให้สัดยาบันสามีจึงบอกล้าง
นิติกรรมนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมภริยาต้องได้รับความยินยอมจากสามี หากสามีไม่ยินยอม นิติกรรมเป็นโมฆียะและอาจตกเป็นโมฆะได้
นิติกรรมที่หญิงมีสามีไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมนั้นย่อมเป็นโมฆียะ เมื่อสามีบอกล้างแล้วก็ตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.มาตรา 138
่การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมจากกันนั้นเมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือแล้ว ผู้ใดจะอ้างว่าการนั้นได้รับความยินยอมแล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออันเป็นการฝืนหลักกฎหมายเช่นนี้ ฟังไม่ได้
่การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมจากกันนั้นเมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือแล้ว ผู้ใดจะอ้างว่าการนั้นได้รับความยินยอมแล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออันเป็นการฝืนหลักกฎหมายเช่นนี้ ฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆียะของนิติกรรมที่ภริยาทำโดยสามีไม่รู้เห็น การบอกล้างทำให้ตกเป็นโมฆะ
นิติกรรมที่หญิงมีสามีไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมนั้นย่อมเป็นโมฆียะเมื่อสามีบอกล้างแล้วก็ตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 138
การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมจากกันนั้นเมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือแล้วผู้ใดจะอ้างว่าการนั้นได้รับความยินยอมแล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออันเป็นการฝืนหลักกฎหมายเช่นนี้ฟังไม่ได้
การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมจากกันนั้นเมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือแล้วผู้ใดจะอ้างว่าการนั้นได้รับความยินยอมแล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออันเป็นการฝืนหลักกฎหมายเช่นนี้ฟังไม่ได้