คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 561 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2433/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ต้องห้าม – จำนวนทุนทรัพย์ไม่เกิน 5 หมื่น – การเป็นทายาทรับสิทธิฟ้อง
โจทก์มิได้ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันบุกรุกที่ดินของโจทก์ในลักษณะที่จำเลยทั้งสามต้องรับผิดต่อโจทก์อย่าง ลูกหนี้ร่วม แม้จะฟ้องรวมกันและเสีย ค่าขึ้นศาลรวมกันมาในคดีเดียวกันแต่คดีสำหรับจำเลยคนใดจะอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้หรือไม่ต้องแยกพิจารณาจำนวน ทุนทรัพย์ตามที่จำเลยแต่ละคนพิพาทกับโจทก์เมื่อทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ตามคดีของจำเลยแต่ละคนไม่เกินห้าหมื่นบาทจึงต้องห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง เมื่อโจทก์ถึงแก่ความตายที่ดินพิพาทซึ่งโจทก์ได้รับการจัดสรรตามพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดินเพื่อการครองชีพพ.ศ.2511ย่อมตกทอดเป็น มรดกไปยัง ทายาทของโจทก์ตามมาตรา12สิทธิในการ ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสามออกจากที่พิพาทหาใช่เป็นเรื่อง เฉพาะตัวของโจทก์ไม่ อ.ซึ่งเป็น บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ย่อมเป็น ทายาทมีสิทธิเข้าเป็น คู่ความแทนที่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2433/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีบุกรุกที่ดิน: อุทธรณ์ต้องห้าม เหตุจำนวนทุนทรัพย์ไม่เกิน 5 หมื่น และสิทธิฟ้องตกทอดสู่ทายาท
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้ออกไปจากที่ดินของโจทก์ตามที่จำเลยแต่ละคนบุกรุกและให้ชำระค่าเสียหายแยกต่างหากจากกันมิได้ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันบุกรุกที่ดินของโจทก์ในลักษณะที่จำเลยทั้งสามรับผิดต่อโจทก์อย่างลูกหนี้ร่วมจำเลยแต่ละคนก็ให้การและฟ้องแย้งสู้คดีต่อโจทก์ตามส่วนของที่ดินที่จำเลยแต่ละคนครอบครองแม้โจทก์จะฟ้องจำเลยทั้งสามรวมกันมาในคดีเดียวกันและเสียค่าขึ้นศาลรวมกันมาคดีสำหรับจำเลยคนใดจะอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้หรือไม่ต้องแยกพิจารณาจำนวนทุนทรัพย์ตามที่จำเลยแต่ละคนพิพาทกับโจทก์เมื่อที่ดินพิพาทมีราคาไร่ละ3,000บาทคดีของจำเลยแต่ละคนจึงมีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาทต้องห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา224วรรคหนึ่ง โจทก์ได้รับการจัดสรรที่ดินตามพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดินเพื่อการครองชีพพ.ศ.2511เมื่อโจทก์ถึงแก่ความตายที่ดินพิพาทย่อมตกทอดเป็นมรดกไปยังทายาทของโจทก์ตามมาตรา12แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวสิทธิในการฟ้องคดีนี้ของโจทก์จึงหาใช่เป็นเรื่องเฉพาะตัวของโจทก์แต่อย่างใดไม่หากเป็นคดีที่ทายาทจะรับมรดกความของโจทก์ซึ่งถึงแก่ความตายได้เมื่อ ว. เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ย่อมเป็นทายาทของโจทก์ผู้มรณะมีสิทธิเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2166/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความแลกเปลี่ยนเช็คทำให้สิทธิฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับเช็คเดิมระงับ
การที่ผู้เสียหายยอมรับเช็คจำนวน25ฉบับเป็นการ แลกเปลี่ยนกับเช็คพิพาทโดยยอมคืนเช็คพิพาทแก่จำเลยที่1แต่ยังไม่อาจคืนให้ในขณะรับเช็ค25ฉบับและผู้เสียหายนำเช็คบางฉบับของจำนวน25ฉบับไปเรียกเก็บเงินแล้วแสดงว่าผู้เสียหายตกลงเข้าถือสิทธิตามเช็คดังกล่าวและสละสิทธิหรือไม่ยึดถือสิทธิใดๆที่มีอยู่ในเช็คพิพาทอีกต่อไปรวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาเอากับจำเลยที่2ซึ่งเป็นผู้ออกเช็คด้วยข้อตกลงแลกเปลี่ยนเช็คดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการยอมความกันทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องสำหรับเช็คพิพาทระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(2) การที่ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินตามเช็คจำนวน25ฉบับตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนเช็คไม่ทำให้สิทธิดำเนินคดีอาญาในเช็คพิพาทซึ่งระงับไปแล้วเปลี่ยนแปลงไปเพราะผู้เสียหายสามารถที่จะดำเนินคดีแก่ผู้ออกเช็คจำนวน25ฉบับเป็นคดีใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2538 เวอร์ชัน 6 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องเรียกขจัดความเดือดร้อนจากการปลูกสร้างกีดขวาง แม้เป็นผู้เช่า
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลูกเพิงชายตลิ่งหน้าบ้านโจทก์กีดขวางบังหน้าบ้านโจทก์ ปิดบังทางลม แสงสว่าง ปิดบังทิวทัศน์ ขอให้จำเลยรื้อเพิงออกไปเป็นการขอให้ขจัดความเดือดร้อนตาม ป.พ.พ.มาตรา 1337 แต่ในขณะเดียวกันก็มีลักษณะให้จำเลยยุติการกระทำที่เป็นละเมิดด้วย แม้โจทก์จะเป็นเพียงผู้เช่าที่ดินหากได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำของจำเลย และได้รับความเดือดร้อนเป็นพิเศษ โจทก์อยู่ในฐานะที่จะฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนเป็นพิเศษนั้นได้ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าบ้านฟ้องขจัดความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำของจำเลย แม้ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน
แม้โจทก์เป็นเพียง ผู้เช่าที่ดินปลูกบ้านอาศัยเมื่อโจทก์ซึ่งเป็น เจ้าของบ้านอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นพิเศษจากการกระทำของจำเลยย่อมมี อำนาจฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าบ้านในการฟ้องขจัดความเดือดร้อนรำคาญจากการปลูกสร้างกีดขวาง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกเพิงชายตลิ่งหน้าบ้านโจทก์กีดขวางบังหน้าบ้านโจทก์ปิดบังทางลมแสงสว่างปิดบังทิวทัศน์ขอให้จำเลยรื้อเพิงออกไปเป็นการขอให้ขจัดความเดือดร้อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1337แต่ในขณะเดียวกันก็มีลักษณะให้จำเลยยุติการกระทำที่เป็นละเมิดด้วยแม้โจทก์จะเป็นเพียงผู้เช่าที่ดินหากได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำของจำเลยและได้รับความเดือดร้อนเป็นพิเศษโจทก์อยู่ในฐานะที่จะฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนเป็นพิเศษนั้นได้โจทก์จึงมีสิทธิฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รวมและมรดก: สิทธิฟ้องขับไล่จำกัดเฉพาะผู้มีกรรมสิทธิ์โดยตรง การแบ่งมรดกเป็นอำนาจผู้จัดการมรดก
ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์รวมของจำเลยกับ จ.บิดาโจทก์ โจทก์อยู่ในฐานะถือกรรมสิทธิ์แทน จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาท
การแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทโดยธรรมของ จ.เจ้ามรดกตลอดจนวิธีการแบ่งเป็นปัญหาในการจัดการมรดกซึ่งเป็นอำนาจของผู้จัดการมรดกที่จะดำเนินการตามกฎหมาย แต่ผู้จัดการมรดก หรือทายาทอื่น ๆ มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ สำหรับคำขอตามฟ้องแย้งของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวในส่วนที่ให้แบ่งทรัพย์สินพิพาทแก่จำเลยในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมและในฐานะทายาทโดยธรรมนั้นขัดต่อ ป.ที่ดินมาตรา 86 ผลต่อไปต้องเป็นไปตาม ป.ที่ดินมาตรา 96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รวม-มรดก: สิทธิฟ้องขับไล่จำกัด, การแบ่งทรัพย์สินต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ดิน
ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์รวมของจำเลยกับจ.บิดาโจทก์โจทก์อยู่ในฐานะถือกรรมสิทธิ์แทนจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาท การแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทโดยธรรมของจ.เจ้ามรดกตลอดจนวิธีการแบ่งเป็นปัญหาในการจัดการมรดกซึ่งเป็นอำนาจของผู้จัดการมรดกที่จะดำเนินการตามกฎหมายแต่ผู้จัดการมรดกหรือทายาทอื่นๆมิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้สำหรับคำขอตามฟ้องแย้งของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวในส่วนที่ให้แบ่งทรัพย์สินพิพาทแก่จำเลยในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมและในฐานะทายาทโดยธรรมนั้นขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา86ผลต่อไปต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: เงื่อนเวลาไม่ใช่เงื่อนไขบังคับก่อน, สิทธิฟ้องบังคับตามสัญญา
ข้อสัญญาว่าจำเลยจะทำการหักโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่โจทก์เมื่อออกโฉนดแล้วภายใน180วันมิใช่ข้อตกลงอันบังคับไว้ให้นิติกรรมมีผลจึงมิใช่เงื่อนไขบังคับก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา145(เดิม)เป็นแต่เพียงข้อตกลงที่กำหนดหน้าที่ของจำเลยจะต้องดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินที่จะขายให้สำเร็จก่อนที่จะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์แก่โจทก์เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของรวมฟ้องแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ - ไม่ต้องได้รับความยินยอม
โจทก์เป็นเจ้าของรวมคนหนึ่งในที่ดินพิพาท ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้แบ่งแยกกรรมสิทธิ์ได้โดยลำพัง ไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของรวมคนอื่นก่อนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1363
of 57