พบผลลัพธ์ทั้งหมด 138 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการสินบริคนห์ของผู้อนุบาล: การขายทรัพย์สินโดยสมยอมและสิทธิของโจทก์
ภริยาซึ่งเป็นผู้อนุบาลสามีผู้วิกลจริตซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถมีอำนาจจัดการสินบริคนห์ส่วนของสามีได้โดยลำพัง
ทำสัญญาขายที่ดินแก่คน 1 แล้วไปโอนขายให้แก่อีกคน 1 โดยสมยอมกัน ผู้ซื้อคนแรกข้อให้เพิกถอนโอนรายหลังได้
ทำสัญญาขายที่ดินแก่คน 1 แล้วไปโอนขายให้แก่อีกคน 1 โดยสมยอมกัน ผู้ซื้อคนแรกข้อให้เพิกถอนโอนรายหลังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 37/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยหลังการให้การ - สิทธิโจทก์ & อำนาจศาล
โจทก์ยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องขอเพิ่มโทษจำเลยในเวลาได ๆ ก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้
โจทก์ขอเพิ่มโทษแต่จำเลยไม่ได้ให้การ เมื่อพิจารณาเสร็จแล้ว ศาลก็มีอำนาจสอบถามคำให้การเรื่องเคยต้องโทษได้.
โจทก์ขอเพิ่มโทษแต่จำเลยไม่ได้ให้การ เมื่อพิจารณาเสร็จแล้ว ศาลก็มีอำนาจสอบถามคำให้การเรื่องเคยต้องโทษได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายัติทรัพย์ก่อนคำพิพากษา: สินบริคณฑ์เปลี่ยนเป็นสินส่วนตัว, เหตุอันควร, และการคุ้มครองสิทธิโจทก์
ในเรื่องขออายัติทรัพย์ก่อนคำพิพากสา ได้ความว่าทรัพย์นั้น เดิมเปนสินบริคนห์ พายหลังจำเลยทำสัญญาแยกสินบริคนห์ให้เปนสินส่วนตัวของสามีนั้น สาลยังไม่จำต้องวินิจฉัยเรื่องสัญญา ถือว่าเปนทรัพย์ที่ขออายัติได้
ในเวลายื่นคำร้องขออายัติทรัพย์เปนของจำเลย แม้ต่อมาจะถูกโอนไปก็อยู่ในข่ายขออายัติได้ และการที่จำเลยกะทำการให้มีการโอนไปนั้นถือว่าเปนเหตุอันควนให้อายัติได้
ในเวลายื่นคำร้องขออายัติทรัพย์เปนของจำเลย แม้ต่อมาจะถูกโอนไปก็อยู่ในข่ายขออายัติได้ และการที่จำเลยกะทำการให้มีการโอนไปนั้นถือว่าเปนเหตุอันควนให้อายัติได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาซ้ำซ้อนหลังศาลลงโทษละเมิดอำนาจศาล: สิทธิของโจทก์ในการฟ้องคดีทำร้ายร่างกายยังคงมีอยู่
จำเลยทำร้ายร่างกายเจ้าทุกข์ในบริเวณศาลและศาลได้ลงโทษจำเลยฐานละเมิดอำนาจศาลไปแล้วโจทก์ก็ยังมีสิทธิที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฎีกาในคดีอาญา: สิทธิโจทก์และผลกระทบต่อการดำเนินคดี
ในคดีซึ่งมิใช่ความผิดต่อ+วนตัว เมื่อโจทก์ซึ่งเป็น+เสียหายขอถอนฎีกา+ศาลฎีกาอนุญาตให้ถอน+กาไปได้ โดยไม่ได้แจ้งให้อัยยการทราบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานบอกเล่าเบิกความเท็จไม่เป็นสาระสำคัญในคดี หากไม่กระทบสิทธิโจทก์โดยตรง
ลักษณพะยาน คำพะยานบอกเล่า เบิกความเป็นพะยานในข้อที่เป็นคำพะยานบอกเล่านั้นจะเป็นความเท็จหรือไม่ก็ไม่เป็นข้อสำคัญในคดีพอที่จะเป็นผิดฐานเบิกความเท็จ คำเบิกความของพะยานในข้อที่เป็นคำพะยานบอกเล่านั้นใช้ยันคู่ความไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเข้าร่วมเป็นโจทก์ของผู้เสียหาย ต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำผิด
แม้ข้อความที่จำเลยแจ้งจะเป็นความเท็จเพราะความจริงโฉนดที่ดินอยู่ที่ ภ. และจำเลยนำรายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐานที่เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จไปใช้อ้างเพื่อขอให้ออกใบแทนโฉนดที่ดินก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำต่อพันตำรวจโท บ.เจ้าพนักงาน ธ. และ พ. เจ้าพนักงานที่ดิน มิได้กล่าวพาดพิงไปถึง ภ. หรือนำรายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐานที่เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จไปใช้อ้างต่อ ภ. อันจะถือว่า ภ. ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำของจำเลย อีกทั้งจำเลยมอบให้มารดานำโฉนดที่ดินทั้งสองฉบับไปเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินกับ ภ. เท่านั้น ซึ่ง ภ. ไม่มีสิทธิที่จะบังคับเอากับโฉนดที่ดินดังกล่าวได้ตามกฎหมาย ภ. จึงมิใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ และใช้หรืออ้างเอกสารราชการซึ่งแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าว ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2 (4) และไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 30 การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ ภ. เข้าร่วมเป็นโจทก์จึงเป็นการไม่ชอบ เมื่อ ภ. มิใช่คู่ความในคดีจึงไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ขอให้ไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยได้ ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยอุทธรณ์ของ ภ. จึงเป็นการไม่ชอบเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8426/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเข้าร่วมเป็นโจทก์ของผู้ถือหุ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ถือหุ้นที่เป็นเท็จและการกระทำความผิดต่อบริษัท
แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความว่าในการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นของผู้เสียหายที่ 1 ไม่กระทบต่อจำนวนหุ้นของโจทก์ร่วมที่ยังคงมีอยู่ 1 หุ้น เช่นเดิม แต่การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นดังกล่าวหากกระทำไปโดยไม่ชอบ เป็นความเท็จ และมีการนำสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นอันเป็นเท็จนั้นไปแสดงต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทเพื่อให้รับจดทะเบียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงลงไว้ในสารบบรายการจดทะเบียนของบริษัทย่อมมีผลกระทบต่อการบริหารจัดการของผู้เสียหายที่ 1 ไม่มากก็น้อย เมื่อโจทก์ร่วมเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในบริษัทผู้เสียหายที่ 1 ย่อมได้รับผลกระทบด้วย โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายในการกระทำดังกล่าว และมีสิทธิที่จะขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในความผิดนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7695/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งอายัดที่ดินหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุด ยังมีผลบังคับใช้เพื่อการบังคับตามคำพิพากษา แม้โจทก์มิได้ร้องขอให้บังคับคดี
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ห้ามจำเลยที่ 2 ทำนิติกรรมใด ๆ อันเป็นการจำหน่าย จ่าย โอนก่อให้เกิดภาระติดพันซึ่งที่ดินพิพาทและให้เจ้าพนักงานที่ดินระงับการจดทะเบียนเกี่ยวกับที่ดินพิพาทไว้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นนั้น เป็นคำสั่งอันเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวที่ศาลชั้นต้นได้สั่งไว้ในระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 254 (2) (3) ซึ่งเมื่อศาลชั้นต้นตัดสินให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี และคำพิพากษาที่ชี้ขาดตัดสินคดีนั้นมิได้กล่าวถึงวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาที่ศาลได้สั่งไว้ ป.วิ.พ. มาตรา 260 (2) บัญญัติให้คำสั่งของศาลเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปเท่าที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลคดีนี้คำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดให้เพิกถอนการจดทะเบียนที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 และให้จำเลยทั้งสามจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทแก่โจทก์ หากไม่สามารถจดทะเบียนโอนได้ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแทน สิทธิของโจทก์ในอันที่จะบังคับตามคำพิพากษาแก่จำเลยทั้งสามย่อมเป็นสิทธิของบุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1300 และสิทธิเช่นว่านี้มีลักษณะเป็นทรัพยสิทธิที่ไม่สูญสิ้นไปเพราะเหตุแห่งการไม่ใช้สิทธินั้น แม้โจทก์มิได้ร้องขอให้บังคับคดีจนล่วงพ้นกำหนดเวลาสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271 ก็ตาม คำสั่งวิธีการชั่วคราวของศาลก็หาได้หมดความจำเป็นแก่โจทก์เพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลแต่อย่างใดไม่ จึงยังคงมีผลใช้บังคับอยู่ต่อไปเพื่อการบังคับตามคำพิพากษาตามสิทธิของโจทก์ที่มีอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6793/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาหลังศาลอุทธรณ์เปลี่ยนฐานความผิดเป็นความผิดต่อส่วนตัว โจทก์มีสิทธิถอนฟ้องได้ก่อนคดีถึงที่สุด
แม้โจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ซึ่งเป็นคดีความผิดต่อแผ่นดิน แต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วได้ความว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานฉ้อโกงและลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม และยังไม่มีคำพิพากษาศาลสูงเปลี่ยนแปลงแก้ไข กรณีย่อมถือว่าคดีนี้เป็นความผิดต่อส่วนตัว ซึ่งโจทก์ชอบที่จะถอนฟ้องในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องโดยจำเลยไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ และสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2)